Tune in for Love (2019) คลื่นรัก สื่อใจสามารถรับชม Tune in for Love (2019) และผลงานอื่น ๆ ของ Netflix ได้แล้วทางกล่อง TrueID TVบางครั้ง "ความรัก" ก็เล่นตลกกับคนเรา เมื่อส่งคนที่ใช่เข้ามาในเวลาที่ยังไม่ลงตัว จนในที่สุดโลกก็เหวี่ยงให้คนสองคนต้องห่างกันออกไป อาจจะมีประโยคหนึ่งที่คนชอบพูดกันว่า "คนที่ใช่ สุดท้ายจะวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง" เพียงแต่ว่าเราจะต้องรอนานแค่ไหนกันนะ โลกถึงจะเหวี่ยงคนที่ใช่ที่จากเราไป ให้กลับมาพบและรักกันอีกครั้งเรื่องราวเริ่มต้นในปี 1994 วันที่ ยูยอล อดีตนักร้องชื่อดัง ผันตัวมาเป็นนักจัดรายการวิทยุเป็นวันแรก มีซู (Go-eun Kim) สาวลูกเจ้าของร้านเบเกอรี่ เธอรู้สึกหวาดระแวง ฮยอนอู (Hae-In Jung) เด็กหนุ่มมัธยมปลายที่มีท่าทางไม่น่าไว้ใจ เขาเดินเข้ามาในร้านตั้งแต่เช้าแล้วสั่งน้ำเต้าหู้ทั้งที่ร้านเธอไม่ได้ขาย แต่ทั้งหมดเป็นเพียงความเข้าใจผิด เมื่ออันที่จริงแล้ว ฮยอนอู ต้องการมาสมัคร เป็นพนักงานชั่วคราวที่ร้านเบเกอรี่ของเธอเมื่อทั้งสองคนเข้าใจความต้องการตรงกันแล้ว ฮยอนอู จึงกลายมาเป็นเด็กช่วยงานที่ร้าน แต่ด้วยปัญหาทางการเงินเขาก็ยังตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนอยู่ดี มีซู ที่เห็น ฮยอนอู เป็นเด็กหนุ่มรูปหล่อ เธอจึงใช้หน้าตาของเขาให้เป็นประโยชน์ในการเรียกลูกค้า ทว่าก็เป็นตัวเธอเองที่ดันรู้สึกไม่พอใจเมื่อมีสาว ๆ มาเข้าใกล้เขา ฮ่าฮ่า แล้วช่วงเวลาของความสุขมันก็อยู่กับพวกเขาได้ไม่นาน เมื่ออดีตของ ฮยอนอู ไม่ยอมปล่อยให้เขาไปมีชีวิตที่ดี ทั้งสองคนจึงต้องแยกจากกันอย่างที่ไม่ได้เอ่ยคำลา ฮยอนอูและมีซู จึงหวังได้เพียงแต่ว่า โลกใบนี้จะเหวี่ยงให้เขาและเธอกลับมาพบเจอกันอีกครั้งหนังโรแมนติก ดราม่า ที่เนื้อหาดูจะขัดกับความสดใสบนใบปิดพอควร เมื่ออันที่จริงแล้วปมของตัวละครมันน่าอึดอัดใจ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต้องพบกับความผิดหวังในเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา ไหนจะคำถามที่เกิดขึ้นกับสองตัวละครเอก มีซู ก็ได้พบกับคำถามที่ว่า เธอจะรอผู้ชายคนนี้ได้นานแค่ไหนและเธอจะไว้ใจเขาได้หรือเปล่า เมื่ออันที่จริงแล้วเธอแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ฮยอนอู เลยส่วนคำถามที่เกิดขึ้นกับ ฮยอนอู ก็คือ เขาจะสามารถมีชีวิตแบบปรกติสุขได้ไหม เมื่ออดีตยังไล่ล่าไม่ปล่อยเขาไปอยู่แบบนี้ กับอดีตที่ปกปิดไว้จะมีใครสักคนไหม ที่จะเชื่อใจเขาได้โดยไม่ถามไถ่เรื่องราวความเป็นมา ซึ่งคำตอบของคำถามมันอาจไม่ใช่การได้รู้ข้อเท็จจริง แต่อาจจะเป็นการเข้าใจความหมายของคำถามนั้นเสียมากกว่า เหมือนกับที่ทั้งสองตัวละครเอกต้องทำความเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายมีซู ก็ต้องทำความเข้าใจความหมายของคำว่า “เชื่อใจ” ในแบบของ ฮยอนอู เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเชื่อคำพูดเขา ส่วน ฮยอนอู ก็ต้องหาความหมายให้ได้ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ ”รอ” เพียงเขา แล้วเขาจะสามารถทำอะไรเพื่อตอบแทนเธอได้บ้างตอนดูหนังเรื่องนี้ที่ยาวระดับสองชั่วโมง ถึงแม้จะมีฉากโรแมนติก น่ารัก ระหว่าง ฮยอนอูกับมีซู แล้วเคมีของนักแสดงก็เข้ากันได้ดี ทั้งน้องหมวย คิมโกอึน กับ หนุ่มตี๋ จองแฮอิน แต่มันก็สลับไปกับอารมณ์ชวนหน่วง เมื่อความสุขสมหวังมันมักจะอยู่ได้ไม่นาน ความรู้สึกคนดูมันเหมือนนั่งอยู่บนเครื่องเล่นไวกิ้ง โดนเหวี่ยงไปมาเดี๋ยวก็มีความสุขดูไปอมยิ้มไป เดี๋ยวก็เศร้าสลับกันไปเมื่อพระนางต้องแยกจากกันอีกครั้งเนื้อหาของหนังและการเล่าเรื่อง เอาจริงหนังค่อนข้างมีความเฉพาะตัวนะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะดูแล้วฟินหรือชอบได้ แต่ส่วนตัวผมเองหากเป็นฝั่งเกาหลี คิมโกอึน ก็เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ผมชื่นชอบเหมือนกัน ตอนดูหนังก็เลยดึงความสนใจเอาไว้ได้ตลอด หากที่รู้สึกขัดใจ…จะเรียกว่าขัดใจคงไม่ถูกซะทีเดียว แค่รู้สึกแปลก ๆ ว่าช่วงท้ายของหนัง อาจไม่ใส่บางฉากเข้ามาหรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงตอนจบหรือเปล่า เมื่อมันดูรวบรัดไปหน่อยกับการตัดสินใจของตัวละคร มีซู หรืออันที่จริงแล้วอาจเป็นความต้องการของคนทำหนัง ที่อยากให้คนดูรู้สึกตามสิ่งที่หนังพยายามนำเสนอก็ได้สรุปแล้ว Tune in for Love (2019) คลื่นรัก สื่อใจ เป็นหนังโรแมนติก ดราม่า ที่เอาตรง ๆ หนังไม่ได้นำเสนอความโรแมนติก ชวนจิ้น เป็นหลัก แม้จะไม่ถึงกับเรียกได้ว่าเป็นหนังแนวนอกกระแส แต่ก็ชัดเจนว่าหนังค่อนข้างมีความเฉพาะตัว หากเป็นคนชอบดูหนังที่ไม่จำเป็นต้องบันเทิง แต่มีแนวทางการเล่าเรื่องชัดเจน มีความแตกต่างจากหนังตลาดทั่วไปหรือเป็นแฟนนักแสดงนำทั้งสองคน หนังเรื่องนี้ก็น่าจะตอบโจทย์นั้นได้ไม่ยากเหมือนกันDirector: Ji-woo Jung ขอบคุณเครดิตรูปภาพหน้าปก และภาพประกอบจาก https://www.netflix.com/title/81165326สามารถรับชม Tune in for Love (2019) และผลงานอื่น ๆ ของ Netflix ได้แล้วทางกล่อง TrueID TVเขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง