Short CommentKathal: A Jackfruit Mystery คดีวุ่น ขนุนอลเวง (2023)เสียดสีอย่างแสบสันต์ เหมือนวุ่นวายอลเวงแต่คมคายเรื่องชนชั้นและสิทธิสตรีได้อย่างเหนือๆเพิ่งเขียนไปหยกๆเรื่องของหนังอินเดียยุคใหม่ที่ปัจจุบันนอกจากจะไม่มีร้องเล่นเต้นระบำวิ่งข้ามภูเขาเป็นร้อยๆลูกแล้วหนังอินเดียยุคใหม่ยังเต็มไปด้วยงานคุณภาพที่ถึงใจ ก็ใช่ที่ยังมีหนังอินเดียที่ง่อยๆดูแล้วยังมีอาการอิหยังวะอยู่ไม่น้อยแต่ไม่ว่าหนังจากชาติไหนก็ยอมมีดีแย่อยู่พอๆกันมิใช่หรือ ซึ่งการจะได้พบประสบการณ์ดีหรือแย่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนที่จะตัดสินใจดูหนังสักเรื่องไม่ว่าจะมาจากชาติไหน และดูไปบ่นไปก็ย้ำเสมอว่าบางครั้งการตัดสินใจที่จะดูหนังเพื่อความบันเทิงนั้นบางครั้งก็มีปัจจัยที่จะนำมาประกอบการตัดสินใจว่าจะดูหรือไม่ดูหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งประสบการณ์เท่านั้นที่จะบอกว่าควรจะดูเรื่องนั้นเรื่องนี้หรือไม่เช่นเดียวกับหนังอินเดียเรื่องนี้ที่ผู้เขียนเพิ่งดูจบไปต่อจากหนังที่ดูจบเรื่องที่แล้วก็เป็นหนังอินเดีย และเหตุผลที่ผู้เขียนดูก็เพราะเห็นหน้านักแสดงซันยา มัลโหทราที่เคยได้ดูน้องแสดงมาใน Dangal (2016),Pagglait (2021) และ Meenakshi Sundareshwar (2021) ที่แต่ละเรื่องล้วนเป็นหนังดีเหมือนกับเรื่องนี้ที่เหมือนจะมาแบบทีเล่นแต่กลายเป็นทีจริงมหิมา (ซันยา มัลโหทรา) คือตำรวจหญิงยศสารวัตรประจำสถานีตำรวจในเมืองโมบาเมืองเล็กๆในชนบทของอินเดีย มหิมาได้รับการยอมรับว่าเป็นตำรวจที่มีประสิทธิภาพในการจับคนร้ายด้วยความสามารถระดับสูง จนวันหนึ่งมีคดีประหลาดเมื่อขนุนพันธุ์หายากสองลูกที่เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองของสมาชิกสภานิติบัญญัติประจำเมืองถูกขโมยไปสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับท่านผู้ทรงเกียร์ติยิ่งนัก มหิมาจึงได้รับคำสั่งให้ตามจับหัวขโมยรายนี้มาให้จงได้ก่อนที่ขนุนจะสุกและเบาะแสก็ชี้ไปยังคนสวนที่ถูกไล่ออกไปก่อนหน้า ทว่าวันหนึ่งมีชายกลางคนมาแจ้งความลูกสาวหายแต่ตำรวจไม่รับแจ้งความจนเรื่องมาถึงมหิมาเธอจึงได้ทราบว่าเด็กสาวที่หายไปเป็นลูกสาวของคนสวนผู้ต้องสงสัยแต่ตำรวจมัวตามหาขนุนจึงละเลยเรื่องคนหาย แล้วมหิมาจะทำอย่างไรเมื่อชีวิตคนที่ถูกลักพาตัวไปกับขนุนแสนรักของนักการเมืองอะไรจะสำคัญกว่าเรื่องจึงไปถึงนักข่าวท้องถิ่นในคดีคนหายที่ไม่ได้รับการค้นหา เรื่องขนุนสองลูกจึงบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ในขณะที่มหิมาและทีมต้องตามหาทั้งคนหายและขนุนแต่จะเจออะไรก่อนเหมือนจะทีเล่นแต่เป็นทีจริงที่เสียดสีอย่างแสบสันต์จนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปนสะท้านใจไปทั้งเรื่อง เรื่องคดีขนุนหายไม่น่าจะเป็นคดีหรือจะเรียกว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องก็คงใช่แต่มันดันเป็นเรื่องเพราะขนุนที่หายเป็นของนักการเมืองที่มีอิทธิพลจนตำรวจต้องเกรงใจ ความจริงเรื่องประมาณนี้ก็ใช่ว่าจะใหม่แต่ด้วยความที่บริบททางสังคมอินเดียที่ทั้งแปลกทั้งหลากหลายทำให้มีอะไรมาให้เล่นมาก บทจึงมาแบบทีเล่นคือเสนอตัวเป็นแนวชวนหัวเบาสมองพฤติกรรมหรือตัวละครส่วนมากจึงออกจะเพี้ยนๆยกเว้นมหิมาไว้หน่อย แล้วเมื่อเรื่องออกมาแบบนี้คนดูจึงดูสนุกด้วยอารมณ์ขันที่แสบๆคันๆได้ยิ้มใหญ่ยิ้มน้อยตั้งแต่ต้นแต่นั่นคือมีฉากหน้าเป็นทีเล่น แต่เนื้อหาข้างหลังกลับเป็นทีจริงที่ค่อนข้างซีเรียสขีดเส้นแบ่งชัดเจนในหัวใจเรื่องของความถูกต้องแลความถูกใจโดยวางจุดหมายหลักไว้ที่ขนุนสองลูกเจ้าปัญหา ระหว่างนั้นสิ่งที่เข้ามาคือเรื่องของความสำคัญของคดีที่แบ่งแยกชัดเจนระหว่างชนชั้นสูงกับชาวบ้านธรรมดาเมื่อแม้กระทั่งรถคันใหม่ของตำรวจหายยังไม่ได้สืบหา หนังจึงมีอารมณ์เสียดสีอย่างแสบสันต์บนความขบขันที่กระจายไปทั่วพร้อมกับความสะท้านใจเมื่อได้เปรียบเทียบบางอย่างกับบางอย่างมีสัมผัสการเชิดชูผ่านเรื่องชนชั้นและสิทธิสตรีที่เหมือนเป็นปัญหาโลกแตกในสังคมได้เนียนแบบเหนือๆ ในความแสบคันของการเสียดสีนั้นมองเห็นตั้งแต่การวางตัวเอกให้เป็นผู้หญิงแกร่งนอกอ่อนในที่มีแฟนแต่ยศสูงกว่าและก้าวหน้ากว่าแฟนทว่าถูกกีดกันด้วยวรรณะ เพราะหนังบอกกับคนดูอยู่เรื่อยๆว่าผู้หญิงทำอะไรได้มากกว่าการดูแลบ้านและทำครัวที่เปรียบเทียบระหว่างตำรวจหญิงอีกคนกับมหิมา หรือกระทั่งการตามหาเด็กสาวที่หายไปก็เหมือนกับสังคมอินเดียยังคับแคบและมองชายเป็นใหญ่เพราะจ้องหาความเหตุผลเชิงลบมากมายในการหายไปไปลงกับผู้หญิง เหลือเพียงมหิมาที่เป็นตำรวจยศสูงที่สามารถเล่นงานผู้ชายได้เหมือนเป็นการปลดแอกจากสังคมนิยมชายได้กลายๆที่ไม่แน่ใจว่าในโลกความเป็นจริงจะเป็นแบบนี้หรือไม่เพราะเท่าที่รู้มาเรื่องสิทธิสตรีเหมือนเป็นปัญหาโลกแตกในสังคมบ้านเขา แล้วด้วยความที่มหิมาเป็นตำรวจตงฉินกล้าแหกคอกนอกกรอบเพื่อทำคดีที่ขัดใจผู้มีอิทธิพลอารมณ์เชิดชูเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยจึงมา แล้วกลายเป็นว่าเรื่องประมาณนี้ถูกใส่เข้ามาอย่างเหนือชั้นเนียนตาดีเหลือเกิน แค่เพราะเราสวมเครื่องแบบไม่ได้แปลว่าเรามีสิทธิ์ทำร้ายคนจน เพราะทุกสังคมจะอุดมไปด้วยชนชั้นและความเหลื่อมล้ำโดยเฉพาะสังคมอินเดียที่มีระบบวรรณะ หนังพยายามบอกแล้วว่าเรื่องวรรณะได้เจือจางลงแต่ยังไม่หมดไปทำให้ยังมีอะไรต้องเอ่ยถึง ซึ่งได้ถูกเล่าออกมาด้วยเรื่องของการให้ความสำคัญกับคดีที่ถ้าเป็นคนมีอิทธิพลต่อให้เป็นแค่ขนุนหายก็ได้รับการเอาใจใส่อย่างเร่งด่วน แต่ถ้าเป็นเรื่องของคนธรรมดาอย่างคนสวนกลับไม่มีใครแยแสทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่คือคนหายและทุกนาทีที่คนหายไปก็คือนาทีชีวิต หนังยังใส่เต็มที่กับเรื่องของสื่อที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผู้คนสนใจมากกว่าจะค้นหาความจริง ทุกสิ่งเหล่านี้ถูกใส่มาในหนังที่มาด้วยอารมณ์เบาๆโทนเบาๆทั้งที่เมื่อจับต้องเรื่องเหล่านี้หัวใจก็สะท้านอาการขมในคอก็มาเหมือนกัน และหนังแบ่งแยกชัดเกี่ยวกับทัศนคติของตำรวจในอุดมคติอย่างมหิมาที่ให้ความสำคัญกับทุกคนไม่ว่ารวยหรือจน เท่ากับว่าที่ดูเหมือนเบาๆหนังมีอะไรมากมายบอกกับคนดูโดยเฉพาะคนดูบ้านเขาให้ได้คิดอะไรบางอย่างที่น่าทึ่งคือเรื่องแบบนี้ถูกเล่าผ่านรอยยิ้มและเสียงหัวเราะบทเหมือนเป็นทีเล่นแต่การแสดงเป็นทีจริง ถ้าว่ากันที่การแสดงเรื่องนี้เหมือนเป็นการแสดงที่ให้ซันยา มโหลทรามาเป็นเพลย์เมคเกอร์ จะว่าไปน้องก็เหมือนถูกชะตากับ NETFLIX เพราะหนังที่เข้าฉายทาง NETFLIX ของน้องหรือหนังที่สร้างโดย NETFLIX ที่มีน้องแสดงหนังก็ออกมาดูดีมีชาติตระกูล ส่วนหนึ่งคือซันยา มโหลทราสามารถกำหนดอารมณ์คนดูได้ด้วยฝีมือการแสดงที่เข้าทีด้วยและกับเรื่องนี้บทหนังออกมาเป็นทีเล่นทุกภาคส่วนเป็นทีเล่น ทั้งนักแสดงสมทบจะมีอะไรที่เป็นทีเล่นทั้งความเพี้ยนการตัดสินใจบางอย่างพฤติกรรมที่แปลกกว่ามนุษย์มนา ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้ด้วยเพราะว่าถ้ารอบข้างไม่รั่วเป็นทีเล่นแบบที่ว่าศูนย์กลางของเรื่องที่เป็นทีจริงของซันยา มโหลทราจะไม่ออกมาเด่นได้แบบนี้ เพราะปัญหาทุกอย่างประเด็นทางสังคมที่แฝงเข้ามาจะตกกระทบกับตัวละครมหิมาและส่งผลต่อการแสดงทางอารมณ์ที่หลากหลายและเป็นมนุษย์ธรรมดาต่างจากทุกคนรอบข้าง นั่นหมายความว่าบทที่เป็นทีเล่นทำให้หนังออกมาสนุกและการแสดงที่เป็นทีจริงของซันยา มโหลทราทำให้หนังสื่อกับคนดูได้ตรงใจอินเดีย...สร้างสรรงานดีมีคุณภาพ...อีกแล้วครับท่าน การดูหนังเรื่องนี้นอกจากจะดูเพี้ยนๆในพฤติกรรมไปบ้างยังจะได้ลุ้นสองทางอย่างสนุกนั่นคือลุ้นว่าตำรวจจะหาขนุนเจอหรือไม่และใครเป็นคนขโมยกับลุ้นว่าตำรวจจะช่วยเด็กสาวที่หายไปได้หรือไม่ แล้วสุดท้ายเรื่องราวจะคลี่คลายอย่างไรบอกเลยว่าอาจไม่หักมุมเละเทะแต่ก็เดาทางไม่ได้ นั่นเพราะคนดูจะดูอย่างเพลิดเพลินบนความรั่วแบบเพี้ยนๆของหนังที่ตั้งใจมาเป็นแบบนี้จนลืมคิดถึงตอนจบ หรือลืมเดาบทสรุปอย่างที่เคยเป็นเพราะมัวแต่สนุกไปกับความอลเวงเพราะหนังเรื่องนี้สนุกจริงสนุกอย่างเหนือความคาดหมายอาจเพราะไม่ได้คาดหวังก็เป็นได้ แต่ที่ร้ายคือประเด็นต่างๆที่หยิบมาจิกกัดเสียดสีดูเนียนตาจนไม่ทันคิดว่านี่คือการตั้งใจใส่เข้ามา นั่นหมายความว่าบทหนังมีช่องมากมายที่จะขยี้หรือขยายบีบคั้นให้ได้มากกว่านี้แต่หนังเรื่องนี้ก็เลือกไม่ทำและเป็นแบบนี้เป็นส่วนมากจากหนังอินเดียในช่วงหลังที่ไม่หวังความประทับใจจากการเร่งเร้าดราม่า แล้วเรื่องนี้ก็ปล่อยให้ความรั่วความเพี้ยนพาคนดูสนุกไปกับความชุลมุนโดยที่นัยยะที่มียังทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5 / ภาพที่ 6,7,8 จาก Instagram sikhyaคอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดนถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/pJGojq7pjNZJhttps://entertainment.trueid.net/detail/be4bRqDz6VxBhttps://entertainment.trueid.net/detail/gJR4oz4AeYQ0