ชอฮาคนล่าสุดแห่งโชซอนอย่าง อีจุนโฮ (Lee Jun-ho) พระเอกจอมกวนจากซีรีส์ The Red Sleeve กำลังเป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาคอละครย้อนยุคกันอยู่ไม่น้อย เพื่อตอกย้ำความสามารถอันหลากหลายของไอดอลหนุ่มหล่อแห่งวง 2PM กับบทบาทนักแสดงอย่างเต็มตัว จึงอยากชวนให้ทุกคนไปตามเก็บ 5 ผลงานสุดปังที่ต้องดูให้ครบ คัดมาให้ทุกแนว ดูแล้วเด็ดดวงทุกรสชาติ ป้ายยาแรงกันไปเลยว่าจะเป็นติ่งหรือไม่ก็ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง 1. Good Manager / Chief Kim - ผู้จัดการดีแตก (2017)จำนวน 16 ตอน : ตอนละประมาณ 60 นาทีช่องทางรับชม NETFLIXประเดิมด้วยซีรีส์เนื้อหาแปลกใหม่ที่แม้จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังดูทันสมัยอยู่ดี หยิบยกคดีคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นจริงกับกลุ่มแชโบลแห่งเกาหลีใต้มานำเสนอผ่านเรื่องราวของ คิมซองรยง (รับบทโดย นัมกุงมิน) ชายหนุ่มผู้มีความฝันอยากย้ายไปตั้งรกรากยังประเทศเดนมาร์ก จึงใช้ความรู้จากการเรียนจบบัญชีพาณิชย์ภาคค่ำไปทำงานเป็นผู้ดูแลด้านการเงินให้กับธุรกิจบันเทิงของแก๊งมาเฟียในต่างจังหวัด ด้วยเป็นคนมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินก้อนและย้ายประเทศให้ได้ในเร็ววันจึงงัดทักษะตกแต่งบัญชีมาใช้ในการยักยอกเงินจำนวนมหาศาล จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดผิดพลาดถูกแก๊งมาเฟียจับได้ จึงต้องหาลู่ทางใหม่ในการทำความฝันให้เป็นจริงขณะที่คิมซองรยงกำลังตกงานดันเป็นช่วงเวลาที่ผู้จัดการแผนกบัญชีแห่ง TQ Group ได้ฆ่าตัวตายพอดิบพอดี คราวนี้เมื่อมีการรับสมัครผู้จัดการคนใหม่โดยไม่สนใจโปรไฟล์ ตำแหน่งดังกล่าวจึงตกเป็นของคิมซองรยงไปโดยปราศจากคู่แข่ง ณ ที่แห่งนั้นเขาได้พบกับ ซอยุล (รับบทโดย อีจุนโฮ) อดีตอัยการมือหนึ่งที่เชี่ยวชาญการตรวจสอบคดีทุจริตและได้ผันตัวมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงินในปัจจุบัน ผอ.ซอยุลที่ละโมภโลบมากตั้งใจดึงคิมซองรยงมาตกแต่งบัญชีเพื่อดึงดูดนักลงทุนชาวต่างชาติแลกกับการยักยอกเงินตามใจชอบ แต่แผนการดังกล่าวกลับพังไม่เป็นท่าเพราะความไม่เข้าขากันในการทำงาน จนกระทั่งถึงวันที่เหตุการณ์กลับตาลปัตรทำให้ทั้งคู่ต้องมาร่วมมือกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อเป้าหมายในการกำจัดคนโกงที่แท้จริงนั่นเอง พลาดไม่ได้แล้ว ครั้งเดียวได้ดูทรูไอดีพลัสเหมา ๆ ทั้งปี จ่ายถูกเว่อร์...คลิกเลย (Youtube: KOCOWA TV)แม้จะหยิบโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงกับยักษ์ใหญ่อย่าง LOTTE มาทำเป็นซีรีส์ชนิดเก็บครบทุกรายละเอียดไม่เว้นแม้กระทั่งวิธีฆ่าตัวตายยังทำเหมือนเหตุการณ์จริงที่เห็นในข่าว แต่ขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นแนวคอมเมดี้ที่การันตีได้เลยว่าขำแบบปอดปลิ้น พระเอกอย่างเฮียนัมกุงมินกับคาแรกเตอร์หนุ่มยียวนกวนบาทา ส่งเคมีโบรแมนซ์แสนจิ้นมาถึงอีจุนโฮทุกครั้งที่ต้องเข้าฉากด้วยกันราวกับเป็นคู่พระนาง ทั้งกอด ทั้งจุ๊บแก้มกันจนคว้ารางวัล Best Couple แบบปฏิวัติวงการ แถมเรื่องนี้ยังทำให้อีจุนโฮได้รับรางวัล Excellence Award จากเวที 31st KBS Drama Awards มาครอง อีกทั้งยังมี คิมซอนโฮ มาร่วมสร้างสีสันในบทพนักงานจอมเปิ่นอีกต่างหาก สนุกครบรสแถมรวมนักแสดงงานดีเอาไว้ขนาดนี้ใครพลาดไปเสียดายแย่เลย 2. Just Between Lovers / Rain or Shine - เพียงรัก…อาจเยียวยา (2017)จำนวน 16 ตอน : ตอนละประมาณ 60 นาทีช่องทางรับชม NETFLIXดำดิ่งสู่ความเศร้าเขย่าต่อมน้ำตาไปกับเหตุการณ์ตึก S ห้างสรรพสินค้าชื่อดังถล่มในปี 2005 อุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลทั้งต่อชีวิตและสภาพจิตใจ อีจุนโฮรับบทเป็น อีคังดู เด็กหนุ่มที่มีแววอนาคตไกลเนื่องจากกำลังจะไปคัดตัวเข้าทีมฟุตบอล แต่กลับเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ครั้งนั้นจนขาข้างหนึ่งได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเล่นกีฬาได้อีก อีคังดูใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับบาดแผลที่ตามหลอกหลอนทุกวี่ทุกวันอย่างยากลำบาก จนกระทั่งได้พบกับ ฮามุนซู (รับบทโดย วอนจินอา) ฟรีแลนซ์นักประดิษฐ์โมเดลงานสถาปัตยกรรมที่มีความรู้สึกผิดต่อการสูญเสียน้องสาวจากอุบัติเหตุตึกถล่ม ทั้งคู่จึงได้เยียวยาหัวใจซึ่งกันและกันนั่นเอง(Youtube: JTBC Drama)เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวเมโลดราม่าที่มุมมองการเล่าเรื่องน่าสนใจมากจนอยากบอกต่อ เมื่อเกิดโศกนาฏกรรมไม่ว่าจะครั้งไหนก็ตามย่อมมีทั้งผู้เสียชีวิตและรอดชีวิต หลายคนมักบอกกับเหล่าผู้ที่รอดมาได้ว่าโชคดีแล้ว แต่ความจริงใครจะรู้ว่าการรอดตายกลับมาใช้ชีวิตเพียงลำพังอาจเป็นโชคร้ายของคนเหล่านั้นก็เป็นได้ เช่นเดียวกับตัวละครในเรื่องที่ล้วนพัวพันอยู่กับเหตุการณ์ห้างสรรพสินค้าถล่ม บางคนเป็นผู้ประสบเหตุเองแต่กลับต้องแลกอะไรไปมากมายถึงขนาดอยู่ไปก็เหมือนตายทั้งเป็น บางคนสูญเสียบุคคลที่รักจนขาดกำลังใจในการก้าวผ่านอุปสรรคที่ต้องเจอในแต่ละวัน มู้ดแอนด์โทนของเรื่องมันจึงอบอวลไปด้วยความเศร้าชวนหดหู่ แต่ดูไปดูมากลับมีเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชมเรียนรู้ถึงบาดแผลในจิตใจของตัวละครได้อย่างน่าประหลาดอีจุนโฮทิ้งมาดไอดอลเจ้าสำอางค์ออกไปจนหมดสิ้น มอมแมม เลอะเทอะ คลุกฝุ่นทั้งเรื่อง เดินกะเผลกทั้งเรื่องแถมยังถ่ายทอดสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มผู้ป่วยทั้งกายและใจได้ดีเกินคาด แม้เรื่องนี้จะเป็นผลงานเรื่องแรก ๆ แต่สามารถลบคำสบประมาทที่ว่าไอดอลเล่นละครไม่เก่งได้อย่างไร้ข้อกังขา บวกกับงานโปรดักชั่นสไตล์ช่อง JTBC ที่แฝงไว้ด้วยงานอาร์ตประหนึ่งหนังยาว เดินเรื่องช้า ๆ ทว่าได้ข้อคิดเตือนใจแฝงไว้ทุกฉากทุกตอน ถือเป็นซีรีส์น้ำดีที่ใครชอบแนวตับพังต้องไปตำกันเป็นการด่วน 3. Wok of Love - กระทะเลิฟเสิร์ฟรัก (2018)จำนวน 19 ตอน : ตอนละประมาณ 60 นาทีช่องทางรับชม NETFLIX / VIUก่อนจะเศร้าจนคิ้วผูกเป็นปมไปกับเรื่องก่อนหน้า มาปรับมู้ดชวนฟีลกู๊ดไปกับซีรีส์โรแมนติก-คอมเมดี้ หยิบเสน่ห์แห่งการทำอาหารจีนมาผสมผสานไปกับกลิ่นอายความรักชวนฟินของคู่หนุ่มสาว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ซอพุง (รับบทโดย อีจุนโฮ) เชฟหนุ่มอนาคตไกลที่กำลังจะได้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าเชฟแห่งโรงแรมหรูระดับ 6 ดาวแต่ดันถูกเพื่อนร่วมงานหักหลังจนถูกไล่ออกมาแบบงง ๆ ด้วยความคับแค้นใจเชฟซอพุงจึงไปทำงานร้านอาหารจีนฝั่งตรงข้ามโรงแรมเพื่อจะแย่งลูกค้านั่นเองแต่เมื่อได้มาทำงานเข้าจริง เชฟซอพุงกลับพบว่าร้านอาหารดังกล่าวไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียว แถมเจ้าของยังเป็น โดชิลซอง (รับบทโดย จางฮยอก) หัวหน้าแก๊งนักเลงที่ตั้งใจเปิดร้านอาหารให้ลูกน้องกลับตัวกลับใจได้มีงานทำเพื่อสร้างอนาคต อีกทั้งยังได้พบกับ ดันแซอู (รับบทโดย จองรยอวอน) อดีตไฮโซสาวกระเป๋าฉีกที่กลายมาเป็นพนักงานเสิร์ฟเพื่ออยู่รอดไปวัน ๆ ความป่วนชวนฟินในร้านอาหารแห่งนี้จะอลหม่านขนาดไหนต้องไปติดตามกัน นอกจากทีมนักแสดงจะจัดเต็มชนิดไม่ต้องบรรยายสรรพคุณแล้ว ยังจัดเสิร์ฟความสนุกมาให้ครบทุกรสแบบไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน โปรลับ ทรูไอดีพลัสเหมารายเดือนสุดพิเศษ บอกเลย ติ่งจีน ติ่งเกาหลีมีกรี้ด สมัครโล้ด.. (Youtube: KOCOWA TV)จากเรื่องที่แล้วซึ่งอีจุนโฮรับบทเป็นชายหนุ่มคอตกหมดหวัง แต่เรื่องนี้กลายเป็นเชฟที่แพชชั่นแรงกล้าและเต็มไปด้วยเสน่ห์ทำลายล้างทุกครั้งที่เข้าฉากทำอาหาร ด้วยเป็นตัวละครที่มีความหลงใหลในการทำอาหารขั้นรุนแรง ไม่ว่าจะแก้แค้น จีบสาว หรือทำอะไรก็แล้วแต่มักมีอาหารจีนเป็นสื่อกลางอยู่เสมอ นั่นแปลว่าความคุ้มค่าอย่างแรกที่หากใครได้ดูเรื่องนี้บอกเลยจะได้รับเกร็ดความรู้เรื่องอาหารแบบไม่ต้องไปค้นตำราเล่มหนาเตอะให้เสียเวลา ความคุ้มค่าต่อมาคือเห็นอีจุนโฮคนคลั่งรักมาพร้อมกับฉากจูบฟิน ๆ ที่ดูแล้วจะเขินจนตัวบิดตัวงอกันเลยทีเดียว แถมยังเป็นผลงานที่ทำให้หลายคนรู้จักอีจุนโฮเพิ่มมากขึ้นและติดตามกันมาจนถึงปัจจุบัน พูดมาขนาดนี้รีบเก็บเข้าลิสต์แล้วหาเวลายิงยาวดูให้ตาโหลกันไปเลย 4. Confession (2019)จำนวน 16 ตอน : ตอนละประมาณ 60 นาทีช่องทางรับชม VIUตัดอารมณ์ฉึบฉับไปกับซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน-กฎหมาย ผลงานท้าทายความสามารถในฐานะนักแสดงของอีจุนโฮกับบทบาท ชเวโดฮยอน ชายหนุ่มผู้รอดตายด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจจนกลายมาเป็นทนายความผู้มุ่งมั่น เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกิดเหตุฆาตกรรม 2 คดีที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยฆาตกรจะใช้เศษขวดแตกปาดคอเหยื่อที่เป็นผู้หญิงแล้วปิดจ๊อบด้วยการเผาเสื้อผ้าทิ้ง แม้ทั้งสองคดีเกิดจะในพื้นที่เขตเดียวกันทว่ากลับมีระยะห่างกันถึง 5 ปี ภายใต้คำรับสารภาพของ ฮันจงกู ฆาตกรผู้ลงมือพร้อมด้วยหลักฐานมัดตัวกลับมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล ปริศนาดังกล่าวนำพาให้ชเวโดฮยอนต้องทำงานร่วมกับ กีชุนโฮ (รับบทโดย ยูแจมยอง) หัวหน้าทีมตำรวจสืบสวนอาชญากรรมรุนแรงเพื่อไล่ล่าฆาตกรตัวจริง ก่อนจะพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่ปมในจิตใจของใครหลายคนที่พัวพันกับเรื่องนี้ยาวนานกว่า 10 ปี(Youtube: tvN Drama)เรื่องนี้ออกอากาศตั้งแต่ปี 2019 แต่เพิ่งมีฉบับบรรยายไทยถูกลิขสิทธิ์ทางบ้าน VIU เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง ขอบอกว่านี่เป็นซีรีส์อาชญากรรมสืบสวนที่สร้างแบรนด์ตัวเองได้ด้วยการพิจารณาความในชั้นศาลที่โคตรขลัง แม้จะถูกจริตผู้ชมเฉพาะกลุ่มแต่ทำเรตติ้งไปได้สูงมากทีเดียวขณะออนแอร์ ตัวบทในท้องเรื่องกฎหมายละเอียดยิบชนิดไม่มีรอยรั่วให้ติได้เลย เล่นกับชื่อเรื่องที่แปลว่า ‘คำสารภาพ’ ซึ่งความจริงดูเหมือนเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การปิดคดี แต่กับเรื่องนี้คำสารภาพของผู้ต้องหาดันกลายเป็นปริศนาให้ได้ระทึกกันต่อ นำมาสู่การค้นหาเบื้องหลังที่คาบเกี่ยวระหว่างคำตัดสินและความจริง ดำเนินเรื่องด้วยการโยนปมพวงใหญ่ตั้งแต่ต้นชนิดอีรุงตุงนังจนปวดประสาท ใส่ลูกล่อลูกชนเฉลยไปทีละนิดแล้วกั๊กไว้ให้คนดูได้ตามกันต่อ เสน่ห์ของพาร์ทสืบสวนคือการทำให้ตัวละครค้นพบเบาะแสไปพร้อมกันกับผู้ชม มันจึงเต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ตลอดทาง ก่อนที่ภาพสุดท้ายจะปรากฏขึ้นแล้วพบว่าปมทุกเรื่องมันนัวเนียกับทุกตัวละครและคลี่คลายได้อย่างไม่มีอะไรค้างคาเป็นซีรีส์ที่อยากแนะนำเป็นพิเศษ เพราะนอกจากพล็อตเรื่องที่เข้าขั้นมหัศจรรย์จนต้องซูฮก พ่วงด้วยความสนุกตื่นเต้นที่ได้ระทึกกันอย่างจุใจตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้าย อัดแน่นไปด้วยนักแสดงคุณภาพไม่ว่าจะบทเล็กบทน้อยก็ตาม ที่สำคัญยังเป็นการพิสูจน์ฝีมือทางการแสดงของอีจุนโฮที่พัฒนาไปอีกขั้น กับตัวละครทนายความร่างกายอ่อนแอบุคลิกเย็นชา ผู้มีปมในใจเรื่องพ่อที่กลายเป็นอาชญากรฆ่าหัวหน้างานของตัวเองจนต้องโทษประหาร แถมยังต้องมาพัวพันกับคดีที่เชื่อมโยงไปสู่คนรอบตัวของเขาจนกระทบความรู้สึกในใจอีกระลอกหนึ่ง เป็นบทบาทที่ส่งให้พระเอกหนุ่มคนนี้ได้งัดทุกขุมพลังออกมาใช้ได้อย่างน่าทึ่ง อีกทั้งช่วงถ่ายทำอีจุนโฮยังต้องรีดน้ำหนักออกหลายกิโลกรัมเพื่อให้เข้ากับบทเด็กหนุ่มขี้โรคอีกด้วย นักแสดงทุ่มเท เนื้อเรื่องแน่นขนาดนี้ เชื่อว่าคอสืบสวนได้ดูแล้วจะต้องยกให้เป็นเรื่องโปรดในใจอย่างแน่นอน 5. The Red Sleeve (2021)จำนวน 16 ตอน (ตอนละประมาณ 60 นาที)ช่องทางรับชม VIU(Youtube: Viu Thailand)หลังจากห่างหายไปอย่างยาวนานจากการเข้ากรมรับใช้ชาติ อีจุนโฮกลับมาให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงในผลงานซีรีส์ย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์เรื่องใหม่ทางช่อง MBC ในบทบาท อีซาน องค์รัชทายาทที่จะก้าวขึ้นเป็นพระเจ้าจองโจปกครองโชซอนในวันข้างหน้า แต่ดันถูกตาต้องใจกับ ซองด็อกอิม (รับบทโดย อีเซยอง) นางในที่ไม่เคยมักใหญ่ใฝ่สูงและต้องการอิสระในการใช้ชีวิต แต่ชะตากลับลิขิตให้กลายเป็นพระสนมเอกอึยบินเคียงบัลลังก์แห่งกษัตริย์จองโจ ก่อนจะพบกับอันตรายภายในวังหลวงที่ถาโถมเข้ามารอบด้านและจบลงด้วยโศกนาฏกรรมรักต่างชนชั้นที่ร้ายแรงเกินกว่าที่ใครคาดคิดเป็นซีรีส์ซากึกส่งท้ายปีที่ควรค่าแก่การลงแดง เพราะเป็นการหยิบยกเรื่องราวของการเป็นนางในแห่งวังหลวงมาตีแผ่อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากกว่าที่เคยผ่านตาผู้ชมจากเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาระหน้าที่ ธรรมเนียมปฏิบัติและข้อห้าม ตลอดจนถึงวิธีการที่นำมาซึ่งการอวยยศไปสู่สนมเอกก็ตาม เรียกว่าเผยให้เห็นชีวิตของหญิงสาวตั้งแต่ก้าวเข้ามาสู่รั้ววังจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตกันเลยทีเดียว แม้เส้นเรื่องที่อิงประวัติศาสตร์จะสุ่มเสี่ยงต่อการเรียกน้ำตาในตอนท้ายก็ตาม แต่ถึงอย่างไรความเข้มขลังและความงดงามขององค์ประกอบต่าง ๆในเรื่องก็ยังทำให้อยากตามต่ออยู่ดี ส่วนใครอยากรู้ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงมีกลิ่นตับพังซ่อนอยู่สามารถอ่านต่อได้ที่ รีวิว The Red Sleeve ซีรีส์ย้อนยุคของ อีจุนโฮ x อีเซยอง รักต่างชนชั้นขององค์รัชทายาทและนางในแห่งโชซอนอีจุนโฮในฐานะชอฮาคนใหม่แห่งวังหลวงได้เผยความหล่อออร่าเกินต้านในเครื่องแบบองค์รัชทายาท มากับคาแรกเตอร์ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นในหน้าที่การงาน เลือดร้อนและกล้าหาญเด็ดเดี่ยวตามแบบฉบับเชื้อพระวงศ์ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเจอสาวที่ชอบกลับเป็นคนธรรมดาที่ขี้แกล้งและกวนประสาทเอาเรื่องอยู่ทีเดียว ถือเป็นบุคลิกที่ลงตัวกับอีจุนโฮจนหลายคนชื่นชอบ เคมีสาธารณะของหนุ่มคนนี้ยังเข้ากันดี๊ดีกับอีเซยองนางเอกของเรื่องอีกด้วย แม้ซีรีส์ออกอากาศไปได้เพียงสองตอนแต่ใครหลงเข้าไปดูบอกเลยต้องติดงอมแงม ใจจดใจจ่อรออัปเดตตอนใหม่กันทุกสัปดาห์ เชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้อีจุนโฮได้รับแรงอวยและเป็นบทบาทที่ตราตรึงในใจผู้ชมได้อีกอย่างแน่นอน เชียทีมโปรดแบบสะใจรายเดือน ราคาสบายกระเป๋า จำนวนจำกัด Click link https://www.instagram.com/p/COr_5chLeIq/?utm_medium=copy_linkทั้งหมดนี้คือ 5 ซีรีส์เด็ดของอีจุนโฮที่คัดมาแล้วว่าสนุกครบรสไม่ว่าจะแนวไหน รีวิวความน่าดูให้แบบละเอียดยิบไม่มีตกหล่น อยากชวนทุกคนเตรียมสุขภาพตาให้พร้อมแล้วตามเก็บให้ครบไม่ต้องรีรอ ที่สำคัญอย่าลืมดูซีรีส์ The Red Sleeve สามารถรับชมฉบับบรรยายไทยได้ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 13.00 น. ได้ทาง VIU ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต เว็บไซต์ รวมทั้งผ่านกล่อง TrueID TV ได้ด้วยเช่นกัน ส่วนใครเผลอกินเบ็ดที่อีจุนโฮหย่อนเอาไว้จนโดนตก ต้องไปติดตามไลฟ์สไตล์สุดคูลของไอดอลสัตว์ป่าและนักแสดงหนุ่มมากฝีมือคนนี้ได้ทาง Instagram: @le2jh รวมทั้งผลงานที่จะออกมาในอนาคตอีกด้วยรูปภาพประกอบบทความจาก Official Site: KBS/Good Manager | Official Site: JTBC/Rain or Shine | Official Site: SBS/Wok of Love | Official Site: tvN/Confession | Official Site: MBC/The Red Sleeveภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10บทความแนะนำจากผู้เขียน- ตามเก็บ 5 ผลงานเด็ดของ จางกียง (Jang Ki-yong) คุณปู่จิ้งจอกเก้าหางจากซีรีส์ My Roommate is a Gumiho- มัดรวม 6 ผลงานเด็ดห้ามพลาดของ โรอุน SF9 พระเอกซีรีส์ The King’s Affection ราชันผู้งดงาม- ตามเก็บ 5 ผลงานเด็ดของ จองแฮอิน (Jung Hae-in) พระเอกยิ้มละมุนจากซีรีส์ D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ- รีวิวซีรีส์ Secret Royal Inspector & Joy คิมฮเยยุน x แทคยอน ทำหน้าที่ผู้ตรวจราชการลับ ไล่จับผู้ร้ายคดีทุจริตจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !