ไหว้พระ ทำบุญ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งมากมาย “ทำไมฉันขอไปก็ไม่ค่อยได้” ขอสิ่งใดไม่เป็นไปตามหวังจนรู้สึกท้อแท้ ออกอาการน้อยเนื้อต่ำใจเมื่อเห็นคนอื่นทำไมทำบุญแล้วมีแต่โชคลาภเข้ามาในชีวิต คนโบราณมีประโยคหนึ่งกล่าวถึงวิธีขอพรจากผีสางเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้สำเร็จได้ผลไวเรียกว่า “บนข้าวผี ตีข้าวพระ” เป็นสำนวนหมายถึงสัญญาว่าเมื่อสมประสงค์ตามที่ขอ จะมีการแก้บนในสิ่งที่รับปากทุกประการ ส่วนที่มาของคำนี้น้อยคนเข้าใจความหมายถูกต้อง หลายคนเข้าใจผิดว่า “ตีข้าวพระ” หมายถึงประเพณีตีข้าวบิณฑ์ของจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งไม่ถูกต้อง การตีข้าวบิณฑ์หมายถึงการนำข้าวถวายพระนอนจักรสีห์ในช่วงสงกรานต์ ไม่ใช่การบนบานศาลกล่าวใด ๆบนข้าวผี ตีข้าวพระ อ้างอิงจากหนังสือ “สำนวน ลำนำ ตำนาน 4 ภูมิภาค” ของท่าน รศ.ประพนธ์ เรืองณรงค์ ราชบัณฑิตยสภา (หน้า 7 ของ E-Book >>คลิก<< ) คำว่า "ตี" หมายถึงกำหนด เช่นกำหนดราคา เมื่อรวมกันจึงหมายถึงบนบานศาลกล่าวอย่างชัดเจน ไม่ใช่พูดขอเพียงลอย ๆ เช่นกำหนดจะให้แค่ไหนอย่างไร “กล้าขอก็กล้าให้” การขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผีสางเทวดานางไม้ ฯลฯ ขออย่างไรให้ได้ผลเร็ว มีหลักสำคัญดังนี้ต้องระบุว่าเงินก้อนนั้นได้มาจากไหนผู้คนมักกล่าวลอย ๆ จุดธูปพนมมือขอให้ได้เงินสักก้อนแล้วจะมาแก้บน โดยไม่ทันฉุกคิดถึงที่มาของเงินจะมาจากทางดีหรือร้าย เช่นประสบอุบัติเหตุเข้าไอซียูอาการปางตาย ได้เงินชดเชยจากประกัน หรือสิ้นเดือนรับเงินเดือนตามปกติของเรา “มันก็ถือว่าได้เงิน” ลองนึกดูให้ดีว่าเราได้เงินลักษณะนี้มากี่ครั้ง ผิดคำกล่าวบนบานมาเท่าไหร่ เปลี่ยนวิธีเสียใหม่ทำบุญขอโชคลาภจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครั้งต่อไประบุให้ชัดเจน “เงินต้องมาจากไหน” เช่นขอให้ถูกลอตเตอรี่งวดนี้รางวัลที่ 5 , ขอให้ยอดขายเป้าแตกได้โบนัสคอมมิชชั่น 5 พัน , ขอให้ขายของวันนี้ได้ 2 หมื่น ฯลฯ ระบุที่มาของเงิน และจำนวนเงินให้ชัด ถ้าได้ตามนั้นถึงจะมาแก้บน หากไม่ได้ก็ไม่แก้บนโดยไม่ผิดคำกล่าวของเราตั้งจิตอธิษฐาน ได้เงินแล้วเอาไปทำอะไรตามประสบการณ์ล้วน ๆ ซึ่งไม่มีสถิติอะไร เป็นความรู้สึกว่าขออย่างนี้แล้วได้จริง หากขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วระบุถึงจุดหมายปลายทางของเงินนั้น “ได้มาจะเอาไปทำอะไร” มีโอกาสได้รับความเมตตาเอ็นดูมากขึ้น เช่นขอให้ได้รางวัลจากกิจกรรมนี้ จะนำเงินจำนวน 100 บาท ไปทำบุญบูรณะโบสถ์เก่าของทางวัด , ใส่ในตู้บริจาคเพื่อช่วยค่าน้ำค่าไฟ ส่วนเกินจากนั้นถือเป็นความเมตตาให้เก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ผมขอแบบนี้และได้โชคบ่อยเสียด้วย เอาวิธีนี้ไปใช้ได้ไม่หวงเป็นลิขสิทธิ์ซึ่งเข้าหลักการบนบาน หรือติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงกำหนดช่วงเวลาได้โชคลาภนั้นยกตัวอย่างขอให้ได้เงินจากการเสี่ยงโชค แต่ไม่บอกต้องได้ตอนไหน เวลาไหน การได้ทรัพย์จากลาภนั้นอาจเป็นอีก 1 ปี หรืออีก 2 ปีก็ได้ ถึงวันนั้นเราจำได้มั้ยว่าอันนี้ขอจากที่ไหน วัดไหน ขอมาสารพัดทุกสารทิศ เมื่อไม่ไปแก้บนหรือ “แก้บนผิดที่” เพราะคิดว่าน่าจะมาจากวัดล่าสุดที่ไป ซึ่งอาจเป็นเพราะเราไปขอจากศาลเจ้าแม่แห่งหนึ่งเมื่อ 6 เดือนที่แล้วก็ได้ การขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผลเร็วคือต้องกำหนดกรอบระยะเวลาเช่นภายใน , ในวันที่เท่านั้น หากพ้นกำหนดเวลาเรื่องบนบานเป็นอันจบกันไม่ถือผิดคำพูด และรู้ด้วยว่าเรื่องที่ขอได้มาจากไหนตามไปแก้บนไม่ผิดที่บางคนเนี่ย! ใช้คำว่าพลั้งปาก เช่นอยู่ กทม. ไปเที่ยวหาดใหญ่สงขลา ขอให้ถูกล็อตเตอร์รี่จะซื้อของกลับมาถวาย “โดยไม่บอกต้องได้เท่าไหร่” ผลคือถูกเลขท้าย 2 ตัว แน่นอนไม่คุ้มเดินทางกลับไปแก้บนแน่ ๆ ซึ่งมันสอดคล้องกับ “บนข้าวผี ตีข้าวพระ” เมื่อผิดคำพูด ผิดคำสัญญา ขออะไรจากไหนท่านก็ไม่ให้อีกเพราะไอ้นี่มันเคยเบี้ยว! เมื่อขอร้องให้ผีสางเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ ต้องทำตามคำพูดที่เคยรับปากถึงจะเจริญรุ่งเรืองในโชคลาภ วาสนา ขออะไรสำเร็จดั่งใจทุกประการ..พูดถึงเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องที่เกี่ยวกับสายมูอย่างพวกเรา อยากแนะนำให้ชมภาพยนตร์ไทยเรื่อง สมพรปาก Wish Me Luck เรื่องใหม่จากทาง TrueID ได้ทั้งความสนุก แง่คิด และความรู้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มูเตลูแบบลึกซึ้ง กินใจ สุขเศร้าดราม่ามีทุกอย่างครบในภาพยนตร์เรื่องนี้ รับชมกันได้ที่นี่ 👉 Movie.trueid.netอย่าลืมติดตามชมกันนะครับ 🤗 ..ภาพปก ภาพประกอบทั้งหมด : โดยผู้เขียน / Pixabay Perlinator : พื้นหลังปกลายไม้