สวัสดีทุกท่านครับ ทุกวันนี้เทคโนโลยี AI เริ่มมีผลกับเรามากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักภาพยนตร์เรื่อง The Last Screenwriter ที่เขียนบททั้งเรื่องโดย ChatGPT พร้อมกันแล้วก็ตามมาเลยครับThe Last Screenwriter(2024)ประเภท : ดราม่าผู้กำกับ : Peter Luisi นักแสดง : Nicholas Pople, Bonnie Milnes, Anna Arthur, Christian Vaccaro, Phil Cardwell, Marek Antoszewskiเนื้อเรื่อง : แจ็ค นักเขียนบทหนังภาพยนตร์ชื่อดัง พบว่าโลกของเขาต้องสั่นคลอน เมื่อเขาเผชิญหน้า AI การเขียนบทที่ล้ำสมัย ในตอนแรกด้วยความสงสัย ในไม่ช้าเขาตระหนักได้ว่า AI ไม่เพียงทักษะเท่านั้น แต่ยังเหนือกว่าเขาในด้านความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจในอารมณ์ของมนุษย์อีกด้วย เมื่อเขาต้องเลือกระหว่างความภาคภูมิใจกับความกลัวความล้าสมัย แจ็คได้รับโอกาสให้เขียนบทหนังภาพยนตร์โดยใช้ AI เพียงอย่างเดียวจุดเด่น : The Last Screenwriter เป็นภาพยนตร์ที่เขียนบทจาก ChatGPT 4.0 ทั้งเรื่อง โดยตัวภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องนักเขียนบทที่เป็นมนุษย์ที่ต้องต่อสู้กับ AI ที่เติบโตขึ้นมา และสะท้อนภาพผละกระทบการพึ่งพา AI มากจนเกินไป ทำให้เราชวนให้คิดและตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเองและ AI ตลอดทั้งเรื่องจุดด้อย : การแสดงอารมณ์เศร้า เหงา และสิ้นหวังเยอะเกินไป มันทำให้รู้สึกซ้ำซากความคิดเห็นส่วนตัว : The Last Screenwriter เป็นภาพยนตร์ที่ดี เนื้อหาที่ค่อนข้างเครียด แต่ควรค่าแก่การดู ทำให้เราเห็นมุมมองและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ AI มากเกินไปฉากที่ประทับใจ : มีทั้งหมด 3 ฉากที่ผมรู้สึกชอบจริงๆฉากที่แจ็คคิดอะไรไม่ออกและไม่รู้จะเขียนลงในบทหนังของเขา ซึ่งตรงนี้เป็นอาการนี้เกิดจากการใช้ AI มากเกินไป โดยลักษณะอาการนี้แบ่งเป็น 3 ช่วง 1. AI เริ่มสร้างความเชื่อใจ 2. AI เริ่มครอบงำความคิดของเรา และ 3.เราเริ่มไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีแต่ความว่างเปล่าและอ่อนแอ (ทำไมผมที่ถึงรู้จักอาการนี้ เพราะเคยเป็นมาแล้ว แต่วิธีรักษาอาการนี้อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ส่วนของผมเป็นการอ่านหนังสือประมาณ 2-3 เล่ม)ฉากที่แจ็คลุกขึ้นมาสู้กับอาการนี้ โดยตัดสินใจการทำลาย AI ทิ้ง เป็นฉากที่แสดงความมุ่งมั่นและความไม่ยอมแพ้ต่อยุค AIฉากที่แจ็คนำบทหนังเขียนเองโดยไม่ใช้ AI ไปให้พอลเป็นฉากที่แอบลุ้นว่า "พอลจะทิ้งบทหนังของเขาหรือไม่"ประเด็นน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ คือ "การตั้งคำถามเกี่ยวกับของงานสร้างสรรค์ในยุค AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์หรือไม่?" แต่มุมมองของผมว่า ไม่ เพราะ AI ไม่สามารถแทนที่มนุษย์ในงานสร้างสรรค์ได้ทั้งหมด เช่น นาฏกรรม, ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม เป็นต้น การที่เอา AI มาแทนที่พวกเราทั้งหมดคงเป็นไม่ได้ ถ้ามนุษย์อย่างมีทั้งความรู้และภูมิปัญญาที่อย่างสืบทอดต่อไปเรื่อยๆ ยกเว้นตัวเราเอง ถ้าไม่สนใจสิ่งที่สืบทอดมา เมื่อนั้นคำว่า AI จะมาแทนที่มนุษย์อาจจะเป็นจริงการแสดงถือว่าเป็นการเลือกนักแสดงที่ดีเข้ากับบทได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะนักแสดงนำ Nicholas Pople ที่ถ่ายทอดบทบาทของแจ็ค นักเขียนบทที่เผชิญความกลัวได้อย่างยอดเยี่ยมมาที่เทคนิคการถ่ายทำเรียบง่ายและถ่ายทอดบรรยากาศความเหงาและความสิ้นหวังได้ดี ส่วนดนตรีประกอบถือว่าเข้ากับตัวภาพยนตร์ได้ดี แต่ไม่ได้ดีที่สุดผมให้คะแนนเรื่อง 7/10 โดยรวมเป็นภาพยนตร์ที่ดี เนื้อหาที่ค่อนข้างเครียด อาจไม่เหมาะกับผู้ชมทุกวัย แต่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจประเด็นเกี่ยวกับ AI และอนาคตของวงการงานสร้างสรรค์ท่านผู้ชมท่านใดอยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถรับชมผ่าน YouTube Channel ของ spotlightmedia"AI will never replace humans. If humans developing themselves continuously."สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ช่วยกดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่Facebook : WV reviewบทความ TrueID : WV เรียบเรียงโดย : WVเครดิตภาพภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก Facebook : Spotlight Media Productionsภาพประกอบทั้งหมดแคปมาจาก YouTube : spotlightmedia (ช่อง YouTube ของ Spotlight Media Productions) จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !