บางครั้งการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยปราศจากความคาดหวังถึงผลลัพธ์ ท้ายที่สุดมักสร้างความประหลาดใจให้เกิดขึ้นได้อยู่บ่อย ๆ หากกล่าวเช่นนี้ก็คงจะหาข้อพิสูจน์ได้ยาก และเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมให้พบเห็นอย่างชัดเจนได้น้อย แต่นั่นคงไม่ใช่สำหรับ Gym and Swim วงดนตรีทางเลือกใหม่กับแนวดนตรีที่มีจุดเริ่มต้นมาจากงานเพลง K-Pop (เพียงเพราะว่าแกนนำของวงชอบสาว ๆ Girl Group)(รูปภาพประกอบจาก fb.com/gymandswimkpop)กับการรวมตัวของเหล่าสมาชิกจากหลากหลายวง เฉลิม จาก Seal Pillow, ป้อง จาก Plastic Plastic, เติร์ก จาก The Leprosy, มัดหมี่ จาก Merry Go Round และ ฮ๊อบ จาก Details ที่มีจุดเริ่มต้นจากการอยากทำวงดนตรีเล่นสนุก ๆ ปราศจากการคาดหวังถึงผลกำไรหรือชื่อเสียงใด ๆ และถ้าหากนับตัวเลขรวมดี ๆ ณ วันนี้ พวกเขาก็เดินทางด้วยกันมาเป็นเวลาเกือบ 6 ปี กับอีกหนึ่งผลงานอัลบั้มเต็มหนึ่งชุดที่วางแผงไปเมื่อปี 2016(รูปภาพประกอบจาก fb.com/parinammusic)และเมื่อกลางปี 2019 ที่ผ่านมาก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีของพวกเขา กับการปล่อย EP. ชุดแรกของวงอย่าง “Amazing PingPong Show” งานดนตรีสุดหรรษาที่ยังคงคอนเซ็ปต์ “ขี้เล่น-ตลกร้าย” ตั้งแต่ชื่อ EP. ยันไปถึงเนื้อหาของเพลง ที่โดยรวมแล้ว ถ้าหากลองมานั่งวิเคราะห์ดูดี ๆ ละก็ ก็พอจะทราบได้ว่าคำศัพท์และ Symbolic ต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้นั้นมีที่มาที่ไปที่ลึกซึ้งมากเกินกว่าที่เราคิดและมองกันเพียงผิวเผินซึ่งหากใครเคยประทับใจกับงานเพลงในอัลบั้มชุดแรก “SeaSick” ก็อาจจะรู้สึกผิดหวังซักหน่อยที่งานในอัลบั้มชุดนี้มันมีความแตกต่างจากอัลบั้มชุดแรกอยู่พอสมควร แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เพราะก็ถือเป็นการทลายกำแพงแนวดนตรีที่เคยยึดกรอบไว้ไปได้ แปลว่าจากนี้เราจะได้ยินดนตรีที่มีความหลากหลายมากขึ้นจาก Gym and Swim ซึ่งถือเป็นความน่าตื่นตาตื่นใจที่คนฟังเพลงต้องการอยู่เสมอโดยในภาคดนตรีนั้นจะเน้นความเป็นดนตรีสากล มากกว่าการเลือกใช้เสียงสังเคราะห์แบบ Tropical Pop กว่าอัลบั้มชุดแรก ทั้งการตีบีทแบบดนตรีอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และถึงแม้กลิ่นแบบดนตรีเขตร้อนจะน้อยลงก็ตาม หากแต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงสีสันของซินธิไซเซอร์ที่เป็นพระเอกของวงไว้อย่างครบถ้วนกระบวนความ แม้อาจจะไม่ได้ใช้ไปตลอดทั้งเพลงเช่นเดิม แต่ก็มีการเลือกใช้ในสัดส่วนที่กลมกล่อม และมีเหลี่ยมมุมมากขึ้นไลน์ Lick ของกีต้าร์ที่เป็นส่วนประกอบสุดอร่อยของวง เบสที่มีความหนึบก็เป็นสิ่งที่คู่กันและขาดไม่ได้ หากแต่ก็มีการเพิ่มเติมด้วยซาวด์ที่หลากหลายมากขึ้น เสียงร้องของเฉลิมที่มีความขี้เล่นเฉพาะตัวนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักที่บ่งบอกถึงความเป็นจิมสวิมได้อย่างไม่ต้องอธิบายงั้นเรามารู้จักกันเป็นรายเพลงเลยดีกว่าครับ(รูปภาพประกอบจาก fb.com/parinammusic)1. Round and Round เพลงจั่วหัวลำดับที่ 1 ของ Amazing PingPong Show กับจังหวะดนตรีแบบ Euro Disco ที่พาเราโยกตัว เคาะเท้าตามได้ไม่ยาก กับรายละเอียดทางดนตรีที่แม้จะไม่ค่อยได้กลิ่นเครื่องเคาะแบบเพลงส่วนใหญ่ที่ SeaSick เคยทำไว้ แต่ก็ถูกทดแทนมาด้วยเสียงคอรัสหญิง ที่ได้แขกรับเชิญสุดพิเศษอย่าง บอสและซู สมาชิกจากวง Fever มาช่วยขับร้อง จึงทำให้เพลงนี้มีความสมบูรณ์มากขึ้น บวกกับบรรยากาศล่องลอยที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งเพลงนี้ เชื่อเลยว่าไม่ว่าใครที่ได้ฟังก็คงนึกไม่ถึงว่าเพลงนี้เป็นผลงานของศิลปินไทย2. Surfin’baby ซิงเกิลเปิดตัวเพลงแรกของ APPS ที่ยังคงกลิ่นอายของ Tropical คล้าย ๆ เพลงใน SeaSick อยู่บ้าง (คาดว่าน่าจะเป็นเพราะทำในช่วงหลัง อัลบั้ม SeaSick เสร็จใหม่ ๆ ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนซาวด์และทิศทางของเพลง เพลงนี้จึงยังคงมีกลิ่นแบบเดิม ๆ คงอยู่) สไตล์เพลงนี้เป็นเพลงที่มีดนตรีแบบอิเล็กทรอนิกส์จังหวะพุ่ง ๆ ซาวด์คลีน ๆ ที่ผสมกับท่อนฮุคชวนติดหูอย่าง “Everynight We’ride on time” ที่ผมเชื่อเหลือเกินว่าหากฟังถึงท่อนนี้ทีไร เราจะต้องเผลออ้าปากร้องตามเป็นแน่แท้3. Don’t Leave Me Behide ซิงเกิลเปิดตัวลำดับที่ 2 ถัดจาก Surfin’baby ที่คราวนี้พาความพิเศษมาถึง 2 อย่าง นั่นคือ นี่เป็นงานเพลงช้าที่มาในมู้ดเศร้าเพลงแรกของวง และอีกหนึ่งความพิเศษคือ นี่เป็นเพลงที่ Gym and Swim และ Sunset Rollercoaster ทำร่วมกัน หลังจากทั้งคู่เฉียดกันไปมาใน Music Festival งานต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ (ซึ่งตัวสมาชิกทั้ง 2 วง สนิทกันอยู่แล้ว ขนาดที่มาแฮงค์เอ้าท์ด้วยกันบ่อย ๆ ) ทั้งสองวงจึงเกิดความคิดว่าอยากลองทำเพลงด้วยกัน เลยเกิดการทดลอง และ Blend ดนตรีทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นเพลงช้าที่ได้ลายเซ็นต์ของทั้งสองวงผสมรวม ทั้งซินธิไซเซอร์ในแบบ Gym and Swim และไลน์แซ็กโซโฟนหวาน ๆ แบบ Sunset Rollercoaster นับเป็นงาน Collab ในฝันของแฟน ๆ ทั้งสองวงที่เฝ้ารอคอยให้เกิดขึ้นจริง และในที่สุดงานเพลงนี้ก็ตอบรับการรอคอยเหล่านั้นครับ4. Hot Love หากจะเรียกแบบห้วน ๆ ว่า “รสรักร้อนแรง” คงเป็นชื่อธีมของเพลงนี้ในภาคภาษาไทยได้ล่ะครับ สำหรับ “Hot Love” งานเพลงที่ชูโรงเนื้อหาสุดร้อนแรงกับฤทธิ์รุนแรงในพลังของความรัก ในภาคดนตรีก็ให้ความรู้สึกแบบอินดี้ป๊อปยุคใหม่ ที่มีการใส่รายละเอียดของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เบลนด์กับการสับคอร์ดในสไตล์ฟังก์เข้าไป เป็นอีกเพลงที่ผมเชื่อเหลือเกินว่าเราคงไม่น่าจะเคยได้ยินดนตรีลักษณะแบบนี้จากงานไหนของจิมสวิมมาก่อนแน่นอน5. FIFA20 ปิด EP. กับแทร็คสุดท้าย ที่ขอยูเทิร์นกลับมาในเพลงสไตล์น่ารัก ๆ แบบ Gym and Swim อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ชื่อเพลงสุดกวนกับการหยิบยกเกมส์ฟุตบอล FIFA20 มาเล่นกับความหมายเชิงซ้อนที่เปรียบเปรยเหมือนเกมส์แห่งความรัก ในขณะเดียวกันภาคดนตรีก็ถือว่าให้อารมณ์ที่แตกต่างจากทุกเพลงใน EP. นี้ นั่นเป็นเพราะการเลือกใช้เครื่องดนตรีปกติ ปกติที่ว่านั้นคือ กลองที่เป็นกลองจริง ๆ เน้น Lick กีต้าร์กับไลน์เสียงประสานที่ Gym and Swim เคยทำไว้ในเพลง “Bunny House” ซึ่งเสียงประสานที่มาจากเสียงของสมาชิก ถือว่าเป็นเสน่ห์ของแทร็คนี้เลยก็ว่าได้ครับนี่ก็เป็นข้อมูลและบทวิเคราะห์คราว ๆ ที่ต้องบอกก่อนเลยว่ามาจากความตั้งใจในการอยากจะนำเสนองานเพลงชุดนี้ให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จัก Gym and Swim มากขึ้น (ขอออกตัวก่อนเลยว่าผมเองเป็นแฟนเพลงของจิมวิมโดยตรง) และอยากขอให้ทุก ๆ คนได้ลองไปหาฟังกันดูนะครับ แล้วค่อยมาว่ากันอีกทีว่าที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้จริงแท้แค่ไหน :)ท้ายที่สุดนี้รสนิยมการฟังเพลงก็คงเป็นเรื่องส่วนบุคคล ทุกการมองนั้นย่อมมีเหตุและผลที่ต่างกันไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ขอให้ฟังเพลงอย่างมีความสุขนะครับวันนี้ EP. Amazing Pingpong Show สามารถรับฟังได้ทุกช่องทางแล้วนะครับ และ CD ก็สามารถหาซื้อได้ครั้งแรกที่ร้าน CD ทั่วไปและทาง Facebook ของวงและ Parinam Music นะครับ ยังไงถ้าชอบก็อยากให้ช่วยกันสนับสนุนเพลงไทยกันต่อไปด้วยนะครับผม GAMEkitt ในนาม GAMEKITTCDBOX ขอลาไปก่อน ไว้เจอกันในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ :)สามารถเข้าไปชมการแกะกล่อง CD เพิ่มเติมได้ที่ YOUTUBE: GAMEKITT CDBOX นะครับ