ถ้าลองให้คุณผู้อ่านหลับตาลง แล้วนึกจินตนาการถึงบรรยากาศบ้านเมืองเรา "ที่ตรงนี้" แต่ต่างกาละ เชื่อว่าส่วนมากคงประดิษฐ์มโนภาพ และวิถีชีวิตของผู้คนที่ขณะนั้นยังไม่แปดเปื้อนเทคโนโลยีแห่งโลกสมัยใหม่ บรรยากาศผู้คนเป็นมิตร สถาปัตยกรรมวิจิตรชดช้อย ปลอดอาชญากรรม (จนผิดปรกติ) ช่างหอมกลุ่นกลิ่นอดีตอันสงบสุขเสียเหลือเกิน ซึ่งสภาวะโหยหาความสงบสุขอบอุ่นใจเหล่านี้ สามารถพบได้ทั่วไปในนวนิยายแนวย้อนยุค หรือที่เราเรียกจนคุ้นชินปากว่า "พีเรียด" ทว่าอดีตไม่ได้สวยงามเสมอไป สภาวะผิดปรกติ (เมื่อเทียบกับปัจจุบัน) ที่เคยปรากฏขึ้นในอดีต และหากพิจารณาถึงความเป็นไปได้ ก็คงไม่ขอกลับไปเยือนเป็นดีที่สุด ทว่าก็มีนวนิยานหรือซีรีส์บางเรื่องที่กลับตาลปัตรภาพแสนสุขในอดีต ให้เป็นพื้นที่ล้าหลังทางความคิด จนนำมาสู่ความรักอันไม่อาจครองคู่กันได้ในบทสรุป ซึ่งซีรีส์ที่เราจะหยิบมาพูดคุยกันในวันนี้ มากจากเรื่อง หอมกลิ่นความรัก (I Feel You Linger In The Air) ที่กำลังเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ ว่านี่คือซีรีส์วายพีเรียดน้ำดีที่น่าจับตามอง เหมือนกับซีรีส์แนวย้อนเวลาทั่ว ๆ ไป ที่ตัวเอกของเราจับพลัดจับผลูเดินทางไปยังอดีต และในระหว่างค้นหาหนทางกลับสู่โลกปัจจุบัน จอม (นนกุล ชานน) ที่เข้ามาพักพิงใต้ชายคาเรือนพลาธิป ก็ได้ค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ คุณใหญ่ (ไบร์ท รพีพงศ์) ลูกชายผู้ถูกวาดหวังให้สืบทอดดูแลเรือนแห่งนี้ต่อไป มาถึงจุดนี้ผู้อ่านก็คงคิดว่า "มันก็โครงเรื่องพีเรียดโรแมนติกทั่วไป" คำตอบคือทั้งใช่ และไม่ใช่เสียทีเดียว หอมกลิ่นความรักได้มอบประสบการณ์ชีวิตรักระหว่างเพศเดียวกัน รวมถึงสะท้อนบรรยากาศขณะนั้น ที่แนวคิดชายเป็นใหญ่ยังเป็นไวยากรณ์สำคัญในสังคม เรื่องราวความรักแสนสุขระคนทุกข์ ในโลกที่ความรักระหว่างเพศเดียวกัน เป็นเรื่องผิดบาป ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดภายในซีรีส์และเป็นหัวข้อในบทวิเคราะห์นี้ครับ Disclaimer: มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์ เมื่อ "รักระหว่างชายสองคน" เป็นเรื่องผิดบาป ความรักของพวกเขาทั้งสองจำต้องอดกลั้นข่มใจ และดอกลั่นทม ผู้เป็นตัวแทนความรักขื่นขมในครั้งนี้ ความรักที่ต้องหลบซ่อน และชีวิตที่ไม่อาจกำหนดเอง ภายใต้ร่มชายคาเรือนพลาธิป ปัจจุบันมีการศึกษา ทำความเข้าใจ ต่อสู้ และพยายามช่วงชิงพื้นที่ในการนิยามตำแหน่งแห่งที่ของผู้มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้น แต่เรื่องราวเหล่านี้อาจเป็นหนังคนละม้วน เมื่อเราย้อนอดีตกลับไป โดยไม่จำเป็นต้องถอยร่นกลับไปไกลเป็น 100 ปี ซีรีส์หอมกลิ่นความรักที่มีบรรยากาศช่วงพุทธศักราช 2470 - 2471 ก็แทบจะเป็นโลกคนละใบกับปัจจุบันที่เรารู้จัก ด้วยบริบททางสังคมที่วางบทบาทให้พื้นที่สาธารณะเป็นของผู้ชาย ส่วนงานสนับสนุน ตลอดจนทำนุบำรุงครอบครัวจึงเป็นหน้าที่ของผู้หญิง ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้นกับทั้งลูกสาวคนโต และลูกชายคนกลางของเรือนพลาธิป ทั้งสองมีรสนิยมทางเพศที่ไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานของสังคมสมัยนั้น พี่สาวคนโต เอื้องผึ้ง (อาหลี-อัฐริญญา) ก็มีความสัมพันธ์แนบชิดกับบ่าวคนสนิทอย่าง เม้ย (อัจฉรี บัวเขียว) เช่นเดียวกับคุณใหญ่และนายจอม ทั้งนี้หลวงเทพนิติธรรมผู้เป็นทั้งพ่อ และเจ้าของเรือนพลาธิป ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมอันไม่ปรกตินี้ ก่อนจะจัดพิธีสมรสให้ทั้งเอื้องผึ้ง และคุณใหญ่ เพื่อหวังตัดไฟเสียต้นลม จากกรณีขัดแย้งภายในครอบครัวนี้ ซีรีส์ไม่ได้แค่นำเสนอปมปัญหาชีวิตรัก อันถูกกีดกันจากบันทัดฐานความรักของยุคสมัยเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงขนบธรรมเนียมที่คนเป็นบุพการี มีสถานะกึ่งเป็นเจ้าของเหนือชีวิตลูกตนเอง โดยไม่ว่าจะเป็นเอื้องผึ้งที่ปรารถนาจะเรียนหนังสือ และรับราชการเหมือนดั่งพ่อของเธอ หรือคุณใหญ่ที่อยากศึกษาต่อต่างประเทศ ทว่าสุดท้ายก็ไม่อาจทัดทานเส้นทางชีวิต ที่ผู้เป็นพ่อได้ลิขิตไว้ให้แล้ว สภาวะจำยอมเช่นนี้ สร้างแรงตรึงเครียดภายในเรือนพลาธิปอย่างยาวนาน บ่อนเซาะกัดกินจิตวิญญาณคนภายในครอบครัวมาโดยตลอด ซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่ได้เพียงมอบบริบทความรักที่ผิดกาละเท่านั้น แต่ยังสะท้อนค่านิยมสมัยก่อนที่พ่อแม่มีอำนาจบงการเหนือชีวิตลูก ท้ายที่สุดผลกรรมแสนทุกเข็ญก็เป็นลูกเองที่ต้องแบกรับไว้ โดยที่ตนไม่มีสิทธิเลือกแต่แรกเมื่อบทบาทความเป็นชาย ทำร้าย "ผู้ชาย" เสียเอง มาถึงส่วนนี้ของเนื้อหา คุณผู้อ่านไม่ต้องตกใจไปครับ นี่ไม่ใช่บทความเทศนาเกี่ยวกับชายเป็นใหญ่แน่นอน แต่เพื่อที่เราจะสามารถถอดแก่นเรื่องที่ซีรีส์พยายามจะสื่อสาร เรามาทำความเข้าใจคำว่า "ชายเป็นใหญ่" สักนิด ว่าแท้จริงแล้วคำนี้หมายถึง ผู้ชายทุกคน มีความสุขในระบบนี้จริงหรือ? คำตอบคือ "ไม่" อย่างแน่นอน แนวคิดนี้แผ่ขยายแทรกซึมและหลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรม สังคม การเมือง จนเราไม่สามารถแยกขาดได้อีกต่อไป แนวคิดระบบชายเป็นใหญ่ได้หล่อหลอมตัวตน บทบาท และหน้าที่ของความเป็นชายขึ้นมา ควบคู่กับการสร้างตัวตนเพศหญิงไปพร้อม ๆ กัน เกิดเป็นบทบาททางเพศที่ "เพศชาย หรือหญิง" จำต้องประพฤติปฏิบัติ เช่น ผู้ชายเป็นเพศนำ จึงต้องเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่ร้องไห้ ตลอดจนหาเลี้ยงครอบครัว ในขณะที่เพศรองอย่างผู้หญิงก็จะเป็นคู่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ซีรีส์ได้นำเสนอภาพของคุณใหญ่ที่มีทักษะร้อยมาลัย ซึ่งควรจะเป็นภาพแสดงของเพศหญิงในสมัยนั้น ที่แจ่มชัดที่สุดในตัวคุณใหญ่คงเป็นอุปนิสัยที่เจ้าตัวเป็นคนอ่อนไหวง่าย เจ้าน้ำตา รวมทั้งยังเป็นคนรักสวยรักงาม โดยเราสามารถพบเห็นผ่านกิจวัตประจำวันของคุณใหญ่ไม่ว่าจะเป็น การใช้น้ำมันมะกอกชะโลมผิวพรรณเพื่อบำรุง ตลอดจนพิธีรีตองยิบย่อยในการอาบน้ำก็ตาม ซึ่งอุปนิสัยเหล่านี้แน่นอนว่าขัดต่อบริบทความเป็นชายในสังคมชายเป็นใหญ่อย่างแน่นอน แต่ซีรีส์พยายามมอบมโนทัศน์เกี่ยวบทบาทที่ไม่ถูกตีกรอบด้วยเพศ คุณสามารถเป็นผู้ชายที่ร้องไห้ได้ โดยที่ไม่ถูกมองว่าอ่อนแอ เพราะการร้องไห้ไม่ใช่คุณลักษณะเฉพาะเพียงเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น ผู้หญิงในซีรีส์วายมักเป็นแค่ไม้ประดับในโครงเรื่อง แต่สำหรับหอมกลิ่นความรัก ตัวละครหญิงมีมิติมากกว่านั้นเมล็ดพันธุ์แห่งสิทธิสตรี งอกงามจนปกคลุมทั่วทั้งท้องเรื่องหอมกลิ่นความรัก ตลอดระยะเวลาที่ซีรีส์หอมกลิ่นความรักออกอากาศ แก่นแท้ของเรื่องที่เต้นเร่าภายในแกนกลางของซีรีส์เรื่องนี้มาโดยตลอด คือการพยายามสื่อสารการกดขี่ทางเพศโดยเฉพาะในเพศหญิง ซึ่งแตกต่างไปจากซีรีส์หลายเรื่อง ที่ผู้หญิงมักเป็นเพียงแค่ไม้ประดับในโครงเรื่อง พวกเธอไม่ได้สลักสำคัญกับบทหลักแต่อย่างไร ซ้ำร้ายผู้หญิงยังถูกใช้เป็นภาพแทน เพื่อผลิตซ้ำภาพจำผิด ๆ ในซีรีส์วายมากมาย เช่น พวกหล่อนอาจเป็นแฟนของตัวเอก ที่ในอนาคตจะหันเหไปรักผู้ชายด้วยกัน บทตัวละครผู้หญิงเหล่านี้จะถูกทำให้น่าหงุดหงิด ขี้โวยวาย จนผิดวิสัย และตามมาด้วยแนวคิด "เบื่อผู้หญิง จึงหันมาคบผู้ชายด้วยกันเสียเอง" ซึ่งไม่ว่าจะเจอวิธีคิดแบบนี้สักกี่ครั้ง ผู้เขียนก็ต้องเอามือก่ายหน้าผากเสมอ ทว่าซีรีส์หอมกลิ่นความรักกับมอบตัวละครหญิงที่ทรงพลัง และเป็นที่น่าจดจำ จะมีใครบ้าง เรามาไล่เลียงกันไปทีละคนดีกว่าครับ เอื้องผึ้งและฟองแก้ว เพื่อนหญิงพลังหญิง เอื้องผึ้ง ผู้มีศักดิ์เป็นภรรยาหลวง และฟองแก้ว (ธีรตี บุตรดีหงษ์) ผู้ตบแต่งเข้ามาเป็นอนุภรรยาภายหลัง ทั้งสองตกอยู่ภายใต้สภาวะกดขี่ของมิสเตอร์โรเบิร์ต (อติล่า อาร์เธอร์ อภิชาติ กานโยซ์) ผู้เป็นสามี สถานะภาพรองของภรรยาที่ไม่สามารถต่อรองต่อสามีฝรั่งผู้เป็นคนโปรดของหลวงเทพนิติธรรม ส่งผลให้ทั้งคู่ร่วมมือกันเปิดโปงความชั่วร้ายของมิสเตอร์โรเบิร์ต จนท้ายที่สุดสามีของพวกหล่อนก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาเผาบ้านของฟองแก้วในที่สุด เรื่องราวการต่อสู้ระหว่างความไม่เป็นธรรมนี้ ยังเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างฟองแก้ว และเอื้องผึ้ง ที่คอยสนับสนุนค้ำจุนกันและกัน ที่น่าสนใจคือท่าทีเรื่องลูกในท้องของเอื้องผึ้งอันเกิดจากการที่ถูกมิสเตอร์โรเบิร์ตข่มขื่น ซีรีส์ไม่ได้บอกเราอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการนำเด็กออก แต่สิ่งที่ฟองแก้วแนะนำต่อเอื้องผึ้ง เปรียบดั่งเมล็ดพันธุ์แห่งแนวคิดที่จะถูกพูดถึงต่อไปในปัจจุบัน หรือที่เรารู้จักกันดีคือ "สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์" ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิมนุษยชนนั่นเอง คุณหญิงแขไข ผู้ลุกขึ้นตัดสินใจ และไม่ขอตามหลังสามีอีกต่อไป ตลอดระยะเวลาที่ซีรีส์ดำเนิน คุณหญิงแขไขผู้เป็นภรรยาของหลวงเทพนิติธรรม ต้องตกอยู่ในสภาวะไม่ต่างจากผู้หญิงทั่วไปในสมัยนั้น เธอถูกจับแต่งงานคลุมถุงชน และปฏิบัติหน้าที่สนับสนุน รวมทั้งการไม่คัดค้านการตัดสินใจภายในเรือนของหลวงเทพนิติธรรมมาโดยตลอด จนกระทั้งการตัดสินใจอันผิดพลาดในงานแต่งงานของคุณใหญ่ ส่งผลให้คุณหญิงแขไขต้องกลับมาทบทวนกับตนเอง และเกิดเป็นฉากอันทรงพลังที่เธอลุกขึ้นมาปฏิเสธการกระทำ และแสดงทัศนะไม่เห็นดีเห็นงาม กับสิ่งที่สามีของตนได้กระทำต่อลูกลาวและลูกชายมาโดยตลอด เป็นเรื่องยากที่ภรรยาจะงัดง้างกับสามีผู้เป็นหัวหน้าหาเลี้ยงครอบครัวในสมัยก่อน แต่จุดเล็ก ๆ นี้เองที่ทำให้เราได้เห็นว่า คุณหญิงแขไขเองก็ถูกกดขี่ในสังคมชายเป็นใหญ่มาโดยตลอด จนเธอต้องลุกขึ้น ก่อนที่ชีวิตลูกของเธอทั้งสองจะลงเอยเช่นเดียวกับตนเอง “น้ำใจของนรา” เหมือนกับชีวิตของฉัน คงเป็นหนึ่งในบทซีรีส์วายไม่กี่เรื่องที่การเอ็มพาวเวอร์ผู้หญิง ออกมาจากปากตัวละครชายเอง ฉากนี้เป็นบทสนทนาระหว่างคุณใหญ่และจอมเกี่ยวกับหนังสือเรื่อง "น้ำใจของนรา" วรรณกรรมเรื่องนี้บรรยายถึงตัวละครหญิง "นรา" ซึ่งเป็นตัวละครหญิงที่มีลักษณะแข็งขืนต่อค่านิยม และบทบาททางเพศที่สังคมกำหนดในสมัยนั้น คุณใหญ่ได้รับอุดมการณ์ ตลอดทั้งแนวคิดสตรีนิมยมผ่านการอ่านหนังสือ จนถึงขั้นที่ตัวคุณใหญ่เอ่ยปากเปรียบเทียบตนเองเป็นดั่งนราในเรื่อง ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ ผู้เขียนเห็นความพยายามที่จะสื่อสารกับคนดู ว่าเรื่องสิทธิความเท่าเทียมในเพศหญิง ผู้ชายเองก็สามารถออกมาร่วมสนับสนุนขับเคลื่อนได้เช่นเดียวกัน นับเป็นหนึ่งในซีรีส์พีเรียดน้ำดีที่มีเนื้อหาเข้มข้น ซับซ้อน และหลากหลายไปด้วยประเด็นเรื่องเพศ สังคม วัฒนธรรม ครอบครัว ให้เราได้ตีความ และซึมซับเนื้อสารที่ถูกซ่อนไว้อย่างแยบยลในทุก ๆ ตอน ใจจริงผู้เขียนยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะนำมาแชร์ให้ผู้อ่านอีกมากพอตัว แต่เกรงว่าจะยาวจนน่าเบื่อ และคงเป็นการดีกว่าหากทิ้งประเด็นหลัก ๆ ไว้เพียงเท่านี้ เพื่อให้ผู้อ่านได้กลับไปเสพเนื้อหาและตีความด้วยตนเองคงจะดีที่สุด ครั้งหน้าจะเป็นบทความจากซีรีส์ หรือภาพยนต์เรื่องไหน ฝากรอติดตามอ่านกันด้วยนะครับ เครดิตภาพหน้าปกจาก YYDS Entertainmentภาพที่ 1 DeeHubHouseภาพที่ 2 DeeHubHouseภาพที่ 3 DeeHubHouseภาพที่ 4 DeeHubHouseภาพที่ 5 DeeHubHouse จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !