รู้ไหมว่าเศษเหล็กหินเศษเหล็กเล็กๆทำอันตรายต่อเครื่องบินได้อย่างน่ากลัวเลยนะแม้สิ่งเล็กๆที่ผ่านตาเรา อาจจะเป็นเศษลวดเศษเหล็ก หรือเศษหินอะไรก็ตามแต่ ถ้ามันตกอยู่กับพื้นธรรมดา เรายังสามารถเก็บมันไปทิ้งขยะได้ แต่ถ้ามันตกอยู่ในเขที่มีเครื่องบินและอากาศยานทุกชนิด สิ่งนี้จะถือได้ว่าเป็นอันตรายอย่างมาก ในบล็อกนี้ Swivel เลยอยากจะให้ทุกคนได้รู้จักกับ FODแล้วมันคืออะไร?? ไปหาคำตอบกันFOD ในชื่อเต็มๆก็คือ “Foreign Object Debris” ถ้าให้เข้าใจในภาษาบ้านเรา มันก็หมายความถึง Foreign “วัตถุแปลกปลอม” ดีๆนี่เองก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าทำไมมันถึงมีอันตรายต่ออากาศยาน เหตุผลง่ายๆเลยก็คือ วัตถุแปลกปลอมเล็กๆ ถ้ามันตกไปอยู่ในเครื่องยนต์ เวลาที่เครื่องบินบินขึ้น เครื่องยนต์อาจขัดข้องถึงขั้นหายนะก็เป็นได้ หรือถ้ามีเศษเหล็กตกอยู่ในเขตการบิน แล้วเครื่องบินกำลัง Taxi ไป เพื่อจะนำเครื่อง Take Off ขึ้น เจ้าเศษเหล็กเล็กๆอาจจะทำให้ยางของล้อเครื่องบิน เกิดปัญหาก็เป็นได้เท่าที่ยกตัวอย่างไป อาจจะเห็นภาพกันบ้างแล้ว นอกจากจะเป็นเศษหินเศษเหล็กเล็กแล้ว เย้าวัตถุแปลกปลอมทั้งหมดทั้งมวล ยังหมายความรวมถึง เศษขยะลอยปลิวตามลม เศษพื้นผิวชำรุด แตกร้าว หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ เศษพลาสนิก กล่องโฟม ขยะทุกประเภท ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่อาจทำอันตรายของเครื่องบินขณะปฏิบัติภารกิจได้ นี้คือเหตุผลง่ายๆเลยที่รันเวย์และทุกส่วนของเขตการบินต้องสะอาด ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย ในทุกขณะเวลาในภารกิจของเครื่องบินที่กำลังทำหน้าที่ เพื่อรับส่งลูกเรือไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยมาดูมาตรการของ ICAO ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการบิน ได้มีมาตรการเกี่ยวกับ การกำหนดให้อากาศยาน ทำการตรวจพื้นที่ทางวิ่งขึ้นอย่างน้อย 4 ครั้งต่อวัน สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของประเทศเรา มีการตรวจพื้นที่ทางวิ่งขึ้น 6 ครั้งต่อวันนอกจากนี้ ที่สุวรรณภูมิยังติดตั้ง อุปกรณ์ตรวจจับ FOD. ทั้งหมด 252 ตำแหน่ง โดยทำการตรวจตลอด 24 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นรับรองได้เลยว่าสนามบินสุวรรณภูมินั้นมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ทิ้งท้ายกันด้วย รู้หรือไม่ว่า “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีหอควบคุมที่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยสูง 132.2 เมตร และอาคารผู้โดยสารเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก พื้นที่ 563,000 ตารางเมตร ปัจจุบันเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก” “Infinite Development Drive By Swivel” “Everything Are Swiveling”