รีเซต

[สุขสันต์หนังครบรอบ] "Kick-Ass" 10 ปีเวียนบรรจบ ตำนานความมันส์เหล่า "วอนนาบีฮีโร่"

[สุขสันต์หนังครบรอบ] "Kick-Ass" 10 ปีเวียนบรรจบ ตำนานความมันส์เหล่า "วอนนาบีฮีโร่"
Jeaneration
16 เมษายน 2563 ( 12:30 )
1K

ข่าวสารวงการหนัง Kick-Ass ครบรอบ 10 ปี

16 เมษายน 2010 เป็นวันที่คนทั้งโลกให้การต้อนรับซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน เขาไม่ได้มาในหนังสือคอมิกส์ หรือมาจากการ์ตูนทีวี แต่เขาคือ "Kick-Ass" เด็กหนุ่มวัยรุ่นหัวใจเป็นฮีโร่ที่หวังให้มีใครสักคนออกมาพิทักษ์ปกป้องมนุษย์ตาดำๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์ความมันส์...ออกมาเป็นหนังแอคชั่นฮีโร่ที่แสบสันต์เรื่องหนึ่งที่ฮอลลิวูดเคยสร้างมาเลย

เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ นะ เพราะเผลอแปบเดียว Kick-Ass หรือมีชื่อไทยที่ว่า "เกรียนโคตร มหาประลัย" ได้ออกฉายมาครบ 10 ปีเต็มพอดี ต้องย้อนความหลังกันสักเล็กน้อยว่า ตอนที่หนังเรื่องนี้ออกฉายนั้น กระแสซูเปอร์ฮีโร่ในวงการหนังกำลังจะมา โดยเฉพาะความพยายามผนึกกำลังสร้างจักรวาลของมาร์เวล จึงกลายเป็นหนึ่งในไอเดียที่ทำให้ผู้กำกับ "แมทธิว วอห์น" ปิ๊งไอเดียและพัฒนาบทหนังเรื่องนี้ออกมา

หนังเล่าเรื่องของ "เดฟ" เด็กหนุ่มไฮสคูลธรรมดาๆ ไม่ได้ป๊อปปูลาร์แต่ออกจะเนิร์ดๆ ด้วยซ้ำ เอากับเพื่อนๆ เป็นแฟนการ์ตูนคอมิกส์ตามประสาเด็กวัยกำลังโต แต่วันหนึ่งเขาตัดสินใจลุกขึ้นมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ด้วยตัวเอง เพื่ออยากจะปกป้องละแวกเพื่อนบ้านให้ปลอดภัยเหมือนกับในการ์ตูน แม้ว่าเขาจะไม่มีพลังวิเศษ, ไม่ได้ฝึกฝนทักษะใดๆ หรือเหตุที่เพียงพอที่จะออกมาเป็นฮีโร่ และนั่นทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับเรื่องที่ใหญ่เกินตัวและขอบเขตการเป็นฮีโร่ของเขา

สิ่งที่โดดเด่นและทำให้ Kick-Ass กลายเป็นที่น่าจดจำ

Kick-Ass ถือว่าเป็นหนังที่มีลูกเล่นและสไตล์การเล่าเรื่องที่โดดเด่น เป็นการผสมผสานเรื่องราวที่เห็นได้จากหนังฮีโร่ทั่วๆ ไปมาผนวกกับความ coming-of-age ของตัวละครได้อย่างลงตัว แม้ว่าหนังจะมีอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลและเกินจริงไปอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมก็ถือว่าเป็นแอคชั่นที่มีคิวบู๊ที่สะใจมากๆ เป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างไม่สูง แต่มอบผลลัพธ์ออกมาได้ชวนเพลินกับปมเรื่องราวที่ใส่เข้ามากำลังพอดี

น่าเสียดาย...เพราะเมื่อวันเวลาผ่านไป วงการหนังฮอลลิวูดในปัจจุบันเต็มไปด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร่มากมาย ทำให้ Kick-Ass กลายเป็นแอคชั่นตลกน้ำดีที่ถูกกลืนหายไปกับกาลเวลา (อีกทั้งปัจจุบันจะหาดูหนังเรื่องนี้ก็ยากขึ้นด้วย) นี่คือหนังที่แสดงวิสัยทัศน์ที่เต็มไปด้วยจินตนาการและลูกเล่นของผู้กำกับ แมทธิว วอห์น โดยเฉพาะ เป็นหนังที่ไม่ผิดหวัง และยังได้มีโอกาสสร้างภาค 2 ออกมาด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยหนักแน่นเท่าไหร่ภาคต้นฉบับก็ตาม

หากถามว่า Kick-Ass 3 ควรมีออกมาอีกหรือไม่ คงต้องบอกว่า มีก็ได้ ไม่มีต่อก็ไม่เป็นไร เพราะหนังทั้ง 2 ภาคต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว อีกทั้งยังหากจะสานต่อเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ต่อก็น่าจะพอยังไม่วัตถุดิบให้ได้ทำต่อ เพียงแต่ไทม์ไลน์ของเรื่องอาจจะต้องปรับให้โตขึ้น เพราะ Kick-Ass น่าจะโตกลายเป็นหนุ่มวัย 20 ปลายๆ แล้ว จึงเป็นโจทย์ที่น่าจะยากพอสมควรที่จะทำต่อในตัวละครเดิม แต่หากเป็นการเปลี่ยนทิศเล่าตัวละครใหม่มาเป็น Kick-Ass ก็เป็นแนวทางที่ไปเป็นไปได้เช่นกัน

10 ปีผ่านไปนักแสดงใน Kick-Ass ตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง?

"แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน" พ่อหนุ่ม Kick-Ass ของเรื่องนี้ ที่ในตอนนั้นถูกจับตามองว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงเลยทีเดียว แต่น่าเสียหายหน่อยๆ ที่ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผลงานของเขายังไม่ได้พุ่งโดดเด่นขึ้นมาเท่าไหร่ และได้เริ่มต้นชีวิตแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ แม้จะมีโอกาสได้หนังฟอร์มใหญ่อยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น "Godzilla" ในปี 2014, "Anna Karenina" ในปี 2012 และที่คนจำได้แม่นก็คือ ควิกซิลเวอร์ ใน "Avengers: Age of Ultron" นั่นเอง โดยในปีนี้เขาได้เล่นหนังฟอร์มยักษ์ทั้ง 2 เรื่อง "Tenet" ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน และได้กลับมาร่วมงานกับ แมทธิว วอห์น ใน "The King's Man"

"โคลอี เกรซ มอเรตซ์" หรือแม่หนูน้อย "Hit Girl" ที่สมัยเล่นหนังเรื่องนี้น้องเพิ่งจะอายุ 11-12 ขวบเท่านั้น และหนังเรื่องนี้ก็แจ้งเกิดให้กับน้องเต็มๆ กลายเป็นดาราเด็กที่เติบโตมากับผลงานมากมายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เช่น "Let Me In", "Hugo", "Carrie", If I Stay", "The 5th Wave" และ "Suspiria" โดยหลังจากที่น้องทำงานมาตลอด จนชีวิตช่วงวัยรุ่นแทบจะหายไปเลยทีเดียว ตอนนี้อายุเพิ่งเข้าเลข 2 ต้นๆ น้องก็เริ่มพิจารณารับงานเป็นกิจลักษณะมากขึ้น ทำให้ผลงานใหม่ของน้องยังไม่ค่อยมีออกมา เพราะเป็นช่วงที่พักอยู่หน้ากล้องสักพัก

"คริสโตเฟอร์ มินท์ซ-พลาสส์" ลูกชายวายร้าย หรือ "Red Mist" ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ขายทักษะการแสดงและมุกตลกของเขาได้ต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เขามีผลงานทั้งหนังใหญ่และทีวีซีรีส์หลายเรื่อง เช่น "Fright Night", "This Is the End", "Neighbors", "How to Train Your Dragon 1, 2, 3" และล่าสุดก็ให้เสียงพากย์ใน "Trolls World Tour" อีกครั้ง

"อีแวน ปีเตอร์ส" ที่รับบทเป็น "ทอดด์" เพื่อนสนิทของ Kick-Ass ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาอยู่บ้าง เพราะเขารับบทเป็น ควิกซิลเวอร์ ในหนังแฟรนไชส์ X-Men ไม่ว่าจะ "X-Men: Days of Future Past", X-Men: Apocalypse" จนมาถึงล่าสุด "X-Men: Dark Phoenix" และเขาก็ยังคงร่วมแสดงในซีรีส์สยองขวัญ "American Horror Story" มาเกือบจะครบ 10 ปีแล้วเหมือนกัน

"นิโคลัส เคจ" หรือ "Big Daddy" ของพวกเขา ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชีวิตป๋าอาจจะเป๋ๆ ไปบ้าง โดยเฉพาะการถูกฟ้องล้มละลายและต้องรับงานเล่นหนังเล็กๆ ปีละ 5-6 เรื่อง เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ทำให้เป็นช่วงทศวรรษที่ป๋าไม่ค่อยจะมีผลงานที่น่าจดจำเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นหนังเกรดบี หนังแผ่น หรือหนังฉายออนไลน์ ที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ แต่ก็แอบลุ้นเหมือนกับว่า ดิสนีย์ จะเรียกตัวป๋าให้กลับไปผจญภัยใน "National Treasure 3" ที่กำลังจะสร้างภาคใหม่อีกหรือไม่ ใจจริงก็อยากให้ป๋าได้กลับมาแสดงเรื่องนี้เช่นกัน

ปิดท้ายที่ "แมทธิว วอห์น" ผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เขาหมกหมุนอยู่กับการสร้างจักรวาล Kingsman อย่างเต็มที่ เพราะผลงานโดดเด่นของเขาในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานั้น ก็คือ "Kingsman: The Secret Service", "Kingsman: The Golden Circle" และกำลังรอฉายในปีนี้ "The King's Man" เรียกว่าจักรวาลนี้ยังขยายได้อีกเยอะ แต่เขาก็ยังทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์อยู่เบื้องหลังให้กับหนังดังๆ อยู่หลายเรื่องด้วย เช่น "Fantastic Four" ฉบับปี 2015, "Eddie the Eagle" หรือ "Rocketman" เป็นต้น

----------------------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<