รีเซต

ต้องมีสติ! “แซมมี่” แฉกลโกงมิจฉาชีพ สูญเงินหลักล้าน

ต้องมีสติ! “แซมมี่” แฉกลโกงมิจฉาชีพ สูญเงินหลักล้าน
ดาราเดลี่บันเทิง
6 สิงหาคม 2567 ( 19:30 )
10

ต้องมีสติ! “แซมมี่” แฉกลโกงมิจฉาชีพ สูญเงินหลักล้าน

            ต้องบอกเลยว่ามิจฉาชีพมาทุกรูปแบบจริงๆ ประชาชนคนธรรมดา คนในวงการโดนหมด อย่างนักแสดงสาว “แซมมี่ เคาวเวลล์” เป็นหนึ่งคนที่โดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไปเป็นหลักล้าน งานนี้เจ้าตัวมาเล่าวิธีกลโกงให้ฟังว่า...

            “โดนไป 7 หลัก ล้านสอง งงมั้ยหนูยังงงอยู่เลย ต้องบอกก่อนว่าเป็นคนที่ดูข่าวเยอะ แต่หนูไม่เคยขายกระเป๋า เราก็ลง ตอนแรกดีใจมีคนทักมา ให้แอดไลน์ เราก็กระตือรือร้นอยากจะขาย คิดแค่นั้นตอนนั้นอยากขายประมาณ 6 หมื่น ซื้อมา 2 ใบ แต่ใบนี้ซื้อมาผิดไซซ์ ก็เลยอยากเปลี่ยน จะปล่อยใบนี้ออกแค่นี้เลย ก็โพสต์ในไอจีและเฟซ บุ๊ก แล้วเขามาเมนต์ในเฟซบุ๊กของเรา เขาบอกว่าสนใจ รบกวนแอดไลน์นี้ หนูก็แอดไป คิดว่าเขาเป็นลูกค้า เราขายได้แน่นอน หลังแอดไปเราก็ส่งรูปไปให้เขาดูเพิ่มเติม เขาก็บอกคนที่อยากได้จริงๆ อยู่ในกลุ่มโอเพ่นแชท ขออนุญาตลากเข้าไปได้มั้ย เราก็บอกได้เลย ไม่มีปัญหา เขาลากหนูไปในโอเพ่นแชทในนั้นมี 150 คน คือหน้าม้าทั้งนั้น

 

           แล้วคนที่สนใจเขาก็แอดไลน์หนูมา เขาติดต่อมาส่วนตัว อันนี้จะเป็นนักแสดงคนที่ 2 มาแล้ว เสร็จปุ๊บปิดการขาย หนูแพ็ก กระเป๋าไปจอดรออยู่หน้าไปรษณีย์แล้ว เตรียมส่งของแล้วเขาโอนเงินมา เขาบอกรบกวนขอรหัสผู้ขายหน่อยค่ะ อันนี้หนูเดาว่าแม่ค้าในกลุ่มก็ต้องมีรหัสผู้ขาย เราเข้าใจว่าถ้าเราเป็นผู้ซื้อ เราก็คงอยากได้ความมั่นใจ ไม่ได้มาหลอก เพราะกระเป๋าก็ราคาสูงก็อยากโพรเท็กเขาว่าไม่ได้โดนหลอก สรุปก็คือเราโดนเอง

          หนูก็เลยกลับไปที่คนแรก นางก็บอกเข้าไปดูในโอเพ่นแชทได้เลย ข้างบนมันจะมีโค้ดให้สมัครลงทะเบียน หนูก็แอดไลน์เป็นคนที่ 3 แล้ว เขาก็บอกว่าเข้าไปในระบบหน้าเว็บไซต์ ขอข้อมูลชื่อนามสกุล บัตรประชาชน เลขบัญชีที่จะผูกกับบัตร แล้วเราก็ให้ไปหมด จะบอกว่าตอนนี้กระเป๋ายังอยู่นะแต่เงินไม่อยู่แล้ว เป็นการทดสอบระบบ ตอนแรกเขาให้โอนมันเริ่มจาก 170 บาท ยอดแรก เดี๋ยวโอนเข้าไปเราจะมีค่าปันผลมันจะเข้าในระบบบัญชีเรายอดเท่านี้ พอเริ่มๆ ไป ต้องมีทำใบงานแบบกลุ่ม ลากหนูเข้ากรุ๊ปอีกกลุ่มหนึ่งอีก ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจ แต่ก็ทำ กลุ่มนี้มีอีกประมาณ 10 คนที่สมัครขอรหัสผู้ขาย...

         จริงๆ เป็นคนขี้เกียจนะ แต่วันนั้นขยันขึ้นมาเฉย เราก็ทำตาม มีแบบใบงานแบบเดี่ยว ใบงานแบบกลุ่ม แล้วมีหน้าม้าอีก 10 คน ที่มีการโอนเข้าให้เห็นมีแคปสลิปมาว่าคนอื่นได้เงินกลับเข้าไปหมดเลย เราก็คิดว่าทำไมยังไม่ได้วะ เขาทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นความผิดเรา เราไม่ได้บันทึกในสลิปช่วยจำว่าโอนเพื่ออะไร พอระบบมันล็อกก็ต้องเติมเงินเข้าไปใหม่ ณ ตอนนั้นถามว่าเอ๊ะใจมั้ย มันมีจุดที่เอ๊ะใจ แต่เขาไม่ปล่อยให้เราคิดอะไรเลย ทุกอย่างมันบีบๆ มันเร็วมาก

          โดนหลอกไปล้านกว่าบาท มันร้อนใจ เราอยากเอาเงินออกมา ไม่เชิงอยากเอาชนะ อยากเอาเงินคืนออกมาให้ มันโอนถี่ มันไม่ได้ทีเดียว ครั้งแรกร้อยกว่าบาท มันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นสเต็ป โอนไปทั้ง หมดเป็น 10 ครั้ง ยอดมันจะเพิ่มเรื่อยๆ ระบบล็อกต้องปลดล็อกนู่นนี่ ตอนนั้นต้องบอกจริงๆ ว่าเข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงโอนกันเพราะขนาดเราระวังติดตามข่าว เอาจริงๆ มันไม่มีสติเลยตอนนั้น ช่วงท้ายๆ จบแบบไม่โอนแล้วโว้ย แต่รู้ตัวช้าไปหน่อยแต่กระเป๋ายังอยู่ บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่า สติเท่านั้น อย่าไปแลกอะไร เราควรจะพอ เสียเงินเท่านี้พอ ไม่ใช่ไปทำพยายามเพื่อให้มันได้กลับคืนมา”...