รีวิวหนัง "Mary มารีย์" ร้อยเรียงอีกมุมกำเนิดแห่งศรัทธา ที่พละกำลังยังไม่แพรวพราวนัก
หนึ่งในตำนานที่มักจะมาคู่กับช่วงเทศกาลปลายปีในทุก ๆ ปีก็คงจะเป็นตำนานเล่าขานของคริสต์มาส ที่กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่สำคัญคู่กับคริสต์ศาสนิกชน แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ถูกนำมาเล่าซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ที่แทบจะเข้าถึงโครงเรื่องกันดีแล้ว แต่การมาของ "Mary มารีย์" ที่จะเป็นการตีความใหม่อีกครั้งของตำนานพระแม่มารีย์ที่ยกเครื่องเป็นหนังมหากาพย์ฟอร์มยิ่งใหญ่ ตำนานที่รู้จักกันดีในโปรเจกต์หนังที่ทุนหนายิ่งขึ้นกำลังจะถูกร้อยเรียงขึ้น
นี่คือเรื่องราวผ่านมุมมองการเจริญเติบโตของพระแม่มารีย์ หลังจากที่ตั้งครรภ์อย่างนอกรีตและถูกบีบบังคับให้ต้องแอบซ่อนตัวไว้ เพราะกษัตริย์เฮโรดมหาราชยังคงพยายามอย่างไม่ลดละ ที่จะรักษาอำนาจของพระองค์ โดยมิได้คำนึงถึงราคาที่ต้องแลกมาก ทำให้เกิดการไล่ล่าตามหาทารกน้อยแรกเกิดอย่างทรหด ที่ถูกมองว่าเด็กน้อยผู้นั้นคือภัยคุกคามต่อบัลลังก์ของพระองค์ นี่คือเรื่องราวแห่งต้นกำเนิดของตำนานความยิ่งใหญ่ที่ใคร ๆ รู้จักนามของเด็กน้อยผู้นั้นว่า..เยซู
แน่นอนว่านี่ก็คือหนังที่ไม่ต่างกับหยิบเอาตำนานจากคัมภีร์แห่งคริสตจักรมาตีแผ่ในรูปแบบบันเทิงคดีอีกครั้ง ด้วยฝีมือของ "ดี.เจ. คารูโซ" ที่เขาอาจจะกลายเป็นผู้กำกับตกรุ่น เพราะยุคอันเรืองรองของเขาดูเหมือนจะผ่านไปนานนับสิบปีได้แล้ว ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเขาแทบจะไม่มีผลงานสร้างหนังที่เข้าตาเลย แม้แต่การกลับมาสานต่อลมหายใจให้ xXx: Return of Xander Cage ก็ไม่อาจทำให้เส้นทางอาชีพของเขาหวนกลับมาได้ และนี่จึงกลายเป็นความไว้วางใจครั้งสำคัญที่ได้รับมอบหมายให้มาดูแลงานสร้างหนังเรื่องยิ่งใหญ่เรื่องนี้
เมื่อ Mary มาอยู่ในมือของ ดี.เจ. คารูโซ ก็กลายเป็นหนังแค่หนังที่ร้อยเรียงตามเรื่องเล่าขานที่สืบทอดกันมานานไปเรื่อย ๆ ผลลัพธ์ของหนังที่ออกมาก็ไม่ต่างจากที่คิดไว้สักเท่าไหร่ เพราะหนังแทบจะไม่มีเสน่ห์ใด ๆ ขับออกมาเลย เป็นแค่เพียงหนังอิงประวัติศาสตร์ พยายามใส่ความเอพิคเข้าไป แต่กลับไม่เปล่งประกายออกมาได้เลย ในแง่องค์ประกอบงานโปรดักชันต่าง ๆ ก็ไร้ความสดใหม่ กลิ่นอายและโทนของหนังก็ก็อปปี้เดียวกับจำพวกหนังยุคก่อนคริสตศักราชทั่วไป อาจจะดูชดช้อยน้อยกว่าด้วยซ้ำ
บทหนังที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ "ทิโมธี ไมเคิล ฮาเยส" ผู้ที่อาจจะไม่ได้มีผลงานงานเขียนบทหนังอยู่ในเครดิตสักเท่าไหร่ แต่แพสชันในแง่ผู้เชี่ยวชาญและศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของคริสตจักร ก็ได้นำเอาองค์ประกอบนี้มาละเลงเอาไว้ในบทหนัง ที่กลายเป็นว่า Mary เต็มไปด้วยน้ำที่ดูแทรกใส่เข้ามาในท้องเรื่อง แม้ว่าจะร้อยเรียงเรื่องไปตามบันทึกในตำนาน แต่บทหนังและการเล่าเรื่องก็แต่งเติมส่วนประกอบอื่น ๆ เข้าไปเพิ่มเติมในปริมาณที่พอควร แต่กลับไม่ได้เป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมความยิ่งใหญ่ในเนื้อหาแต่อย่างใด แม้ว่าจะได้ยินว่ามีการร่างบทออกมาถึง 74 ฉบับกว่าจะได้ออกมาในที่สุด
และนั่นก็ยังส่งผลกระทบต่อทิศทางทางการแสดงของทีมนักแสดงที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะดาราระดับแม่เหล็กเบอร์ใหญ่ อย่าง "แอนโทนี ฮอพกินส์" ที่เราไม่ได้เห็นปู่สวมสมบทบาทที่ขึงขังจริงจังขนาดนี้มาหลายปีแล้ว ความเป็นมืออาชีพของปู่แอนโทนีก็ยังรับมือกับคาแรกเตอร์ที่ได้รับได้อย่างขันแข็ง ถึงแม้ว่าบทหนังไม่อาจจะส่งเสริมความทรงพลังที่ปู่สร้างเอาไว้ได้เป็นอย่างดีเลยก็ตาม ทำให้พลังการแสดงลำพังของปู่ก็ไม่อาจจะช่วยประคองตัวหนังเอาไว้ได้
"โนอา โคเฮน" นักแสดงสาวดาวรุ่งที่ใหม่มาก ๆ เธอยังไม่มีผลงานที่เข้าตาเลย หลังจากที่เข้าวงการมาได้ 4-5 ปี นี่จึงเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่และสำคัญของเธอมาก ๆ แน่นอนว่าเธอรับมือกับบทบาทนำของเรื่องได้อยู่หมัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอค่อนข้างใหม่ในวงการ และยังไม่อาจจะแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้เพียงลำพัง แม้ว่าอินเนอร์และบุคลิกของเธอจะค่อนข้างส่งเสริมคาแรกเตอร์นี้ได้อย่างน่าพอใจ
ขณะที่นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ อย่าง "อีโด ทาโก", "ฮิลลา วิดอร์", "โอริ ไฟเฟอร์" หรือ "สเตฟานี นูร์" เป็นส่วนเสริมที่มาช่วยเติมเต็มในส่วนองค์ประกอบตัวละครให้เหมาะเจาะ ถึงแม้ว่าบทหนังจะไม่ค่อยส่งเสริมตัวหนักแน่นในคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ได้ที่เท่าที่ควร ราวกับแค่หยอดใส่เข้ามาแบบต้องมีเท่าไหร่ ตัวละครเหล่านี้ยังขาดมิติและเสน่ห์อย่างที่ควรจะเป็น และพวกเขาก็ไม่อาจจะช่วยยกระดับตัวหนังให้ยิ่งใหญ่ได้อย่างที่ควรด้วย
ถึงแม้ว่า Mary จะเป็นหนังที่เฉิดฉายทางสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามาตรฐานงานสร้างอาจะไม่ได้หนักแน่นขนาดนั้น เพราะเน็ตฟลิกซ์ไม่ได้เป็นผู้ลงทุนสร้างหนังเรื่องใด ๆ เพียงแต่ซื้อมาฉายเท่านั้น นั่นจึงทำให้งานโปรดักชันในหนังเรื่องนี้ยังไม่ได้สร้างความยิ่งใหญ่ได้เท่าที่ควร ออกมาคล้ายกับหนังเชิงสารคดีไปสักหน่อย กลิ่นอายยังไม่ค่อยออกมาในรูปแบบภาพยนตร์ซินีเมติกมากนัก แต่มาตรฐานก็ไม่ได้แย่แต่อย่างใด
ดังนั้นในท้ายที่สุดแล้ว Mary ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งหนังที่ร้อยเรียงเรื่องราวมาจากตำนานในคัมภีร์แห่งคริสตศาสนาที่อาจจะเป็นสิ่งที่ทราบกันมาบ้างแล้วในบทเรียนต่าง ๆ แต่การขยายความลงรายละเอียดก็ตีความออกมาในอีกรูปแบบ โดยอิงพื้นที่แห่งการให้ความเคารพทางประวัติศาสตร์ อาจจะเป็นหนังที่ยังห่างไกลคำว่าสมบูรณ์อยู่ แต่ก็ไม่ใช่หนังที่เลวร้ายใด ๆ เพียงแต่ว่าการดัดแปลงเติมแต่งและลงรายละเอียดของหนังยังไม่สามารถสร้างความตราตรึงใจและความยิ่งใหญ่ให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนัก
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Mary มารีย์
- ประเภท: ดรามา
- ผู้กำกับ: ดี.เจ. คารูโซ
- นำแสดงโดย: แอนโทนี ฮอปกินส์, โนอา โคเฮน, อีโด ทาโก, ฮิลลา วิดอร์
- ความยาว: 110 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 6 ธันวาคม 2024 (ที่ Netflix)
Movie.TrueID METRIC: Mary มารีย์
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (5.9/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (5.8/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (6.8/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.0/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5.1/10)
คุณสามารถรับชม Netflix ได้ง่าย ๆ จากกล่อง TrueID TV ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ครบ!
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa