Short CommentGhostbusters: Afterlife (2021) โกสต์บัสเตอร์: ปลุกพลังล่าท้าผีเชื่อว่าคนชอบดูหนังรุ่นราวคราวเดียวกับผู้เขียนบวกลบไม่เกินห้าปี ไม่มีใครไม่เคยดูหรือไม่เคยรู้จักหนังในตำนานอย่างบริษัทกำจัดผี เมื่อปี 1984 หรือเกือบสี่สิบปีที่แล้ว เพราะหนังสนุกตามประสาในยุคนั้นและประสบความสำเร็จจนมีภาต่อออกมาเป็นไตรภาค ที่สนุกขนาดไหนคลาสสิคยังไงมันพิสูจน์ที่การเดินทางข้ามเวลาและ Generation เพราะเมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้หยิบเอาแผ่น DVD ที่สะสมไว้ออกมาปัดฝุ่นแล้วเปิดให้ลูกคนเล็กดู ผลก็คือเด็กที่โตมากับยุคดิจิทัลยังดูได้อย่างสนุก เพียงแต่เวอร์ชั่นที่ตีตราว่าเป็นภาคสามในปี 2016 นั้นกลายเป็นหายนะเพราะมันสัมผัสอารมณ์ดั้งเดิมไม่ได้เลย ซ้ำหนังยังออกมาแบบน่าจะลืมๆกันไป อย่ากระนั้นเลย Jason Reitman ลูกชายของ Ivan Reitman จึงอาสามากอบกู้งานคลาสสิคของพ่อด้วยการสร้างภาต่อ (แท้ๆ) ออกมาด้วยการพาเรื่องราวไปเกิดที่ซัมเมอร์วิลล์เมืองเล็กๆในโอกลาโฮมาที่เปิดมาก็รู้ว่าการพยายามจับผีผิดพลาด ตัดมาที่ครอบครัวของ Callie (Carrie Coon) กับลูกอีกสองคนคือ Trevor (Finn Wolfhard) กับ Phoebe (Mckenna Grace) ที่กำลังมีปัญหาทางการเงินและต้องย้ายออกจากห้องเช้า และที่พักพิงสุดท้ายคือเมืองเล็กๆแห่งนี้ที่พ่อของ Callie ที่ตายไปทิ้งไว้ให้ เพียงแต่เมื่อไปถึงกลับไม่เหลืออะไรทำให้สามแม่ลูกต้องอยู่กันในเมืองเล็กๆแห่งนี้ แต่ด้วยความเป็นนักวิทยาศาสตร์น้อยของ Phoebe จึงได้เจอกับความลับที่ว่าตาของเธอคือหนึ่งใน Ghostbuster ที่ปักหลักอยู่ในเมืองนี้เพื่อป้องกันมหันตภัย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริงลำพัง Phoebe และ Trevor กับเพื่อนๆที่เป็นเด็กอีกสองคนคงทำอะไรไม่ได้มาก ในที่สุด Ghostbuster ตัวจริงเสียงจริงจึงมาช่วยและปกป้องโลกไว้ได้อีกครั้งถ้าว่ากันที่ตัวหนังโดยที่ปัดความคาดหวังจากความคลาสสิคของเดิมออกไป หนังเรื่องนี้เป็นได้สองทางคือหนึ่งเป็นงานภาคต่อที่เชื่อมกันติด มีสัมผัสเดิมของต้นฉบับที่สัมผัสได้มากกว่าฉบับผู้หญิงเมื่อปี 2016 กับอีกหนึ่งถ้าไม่นับว่านี่คืองานสานต่อที่ห่างจากภาคสองสามสิบกว่าปี ที่อาจต้องยอมรับว่าเด็กรุ่นใหม่คงเกิดไม่ทันและคงไม่ได้ผ่านตาถ้าไม่ใช่คนรักหนังที่โหยหาความคลาสสิคจริงๆ และถ้ามองว่านี่คืองานรีบู๊ทเพื่อเริ่มต้นใหม่โดยใช้สารตั้งต้นเดิมหนังเรื่องนี้ก็จัดว่ามีตัวตนของตนเอง เพราะหนังสามารถมีทางไปต่อโดยจะสานต่อจากจุดสิ้นสุดจากตรงนี้ไปต่อได้ ที่สำคัญถ้าไม่ได้ดูงานต้นฉบับมาก็ดูรู้เรื่องและดูสนุก ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนมองว่าน่าจะดูสนุกกว่าคนรุ่นผู้เขียนด้วยซ้ำ เพราะไม่มีภาพจำมาจากต้นฉบับมากมายจนกลายเป็นเปรียบเทียบ ซึ่งในที่นี้ขออนุญาตเป็นแบบนั้นเพราะหนังยังสนุกในสิ่งที่ตัวเองเป็นหนังยังคงเส้นเรื่องเดิมไม่เปลี่ยนทำให้หนังออกมาดูง่ายไม่ซับซ้อน ประกอบกับอารมณ์ขันที่ยังใช้ได้ผลทำให้ระหว่างทางก่อนความตื่นเต้นจะมา ที่อาจนานไปสักนิดก็ยังทำให้หนังเดินหน้าไปได้ จนเมื่อเหตุการณ์ที่ตัวละครต้องเจอได้ออกมาขายความสนุกก็ยังคงเป็นเหมือนของเดิม ซึ่งเข้าใจว่าต้องการคงอารมณ์ไว้ให้ใกล้เคียงของเดิมที่สุด ซึ่งก็ได้เพราะหนังยังคงสนุกตื่นเต้นและลุ้น ยิ่งถ้าเป็นผู้ชมอายุน้อยด้วยแล้วจะยิ่งสนุกเพราะเป็นเรื่องของเด็กๆที่วิ่งไล่จับผีตัวกลมๆลอยไปมาปานลูกโป่ง ที่ดูสนุกตื่นเต้นมีสะดุ้งบ้างบางเวลาแม้ว่าไม่ใช่ลูกเล่นใหม่อะไรแต่เมื่อผู้ชมกำลังเพลินใจแล้วปล่อยมาก็กลายเป็นว่ารู้ทั้งรู้แต่ยังไม่วายสะดุ้ง ทั้งนี้นี่คือความเห็นที่ได้ไถ่ถามลูกชายคนเล็กที่ดูด้วยกันแล้วเขาบอกว่าหนังดูสนุกสัมผัสได้ถึงอารมณ์เดิมทั้งดนตรีและเพลงธีมที่จะออกมาตอนที่ค้นพบชิ้นส่วนจากอดีต ด้วยเหตุนี้หนังเลยดูเร้าใจแฟนรุ่นใหม่ที่ชอบความบันเทิงง่ายๆส่วนที่แฟนรุ่นเก่าอย่างผู้เขียนชอบมากคือการได้เห็นชิ้นส่วนความทรงจำในอดีตออกมาให้หายคิดถึงที่ไม่รู้เป็นไงเหมือนมีวิญญาณความขลังซ่อนไว้ และแน่นอนนักแสดงจากต้นฉบับทั้งสองภาคกลับมากันครบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Harold Ramis ผู้ล่วงลับที่มาในฐานะวิญญาณของ Egon Spengler ที่เรียกว่าหาทางออกได้เยี่ยม ส่วนคนอื่นๆก็มาครบทั้ง Peter Venkman (Bill Murray) Raymond Stantz (Dan Aykroyd) Winston Zeddemore (Ernie Hudson) หรือกระทั่ง Dana Barrett (Sigourney Weaver) จึงอาจจะบอกได้ว่าภาคต่อมันต้องอย่างนี้สิถึงจะได้ใจ เพราะถ้าเอาใจแฟนรุ่นใหม่จนรุ่นเก่าโหยหาและไม่มาตามนัดก็ไม่มีผลอะไร แต่ถ้าจะเอาใจแฟนรุ่นเก่าแต่ละคนก็ชราภาพกันไปตามยถาจะให้มาวิ่งไล่จับผีก็คงลำบาก จึงใส่มาแค่พอให้ขนลุกขอบตาชื้นที่ได้เห็นเพื่อนเก่ามาเยี่ยมเยียนและปลุกวิญญาณ Ghostbuster แก่ๆในตัวให้ออกมาระริกระรี้อีกครั้งสิ่งที่ต้องย้ำอีกครั้งคือนี่คือการเขียนถึงในฐานะที่อารมณ์มันได้ และด้วยความที่ดูพร้อมๆกับลูกชายคนเล็กวัยสิบสามที่เขาดูสนุกในทุกทาง และมันทำให้ผู้เขียนดูสนุกตามไปแม้ว่าด้วยงานด้านบทจะดูเต็มไปด้วยริ้วรอย การละทิ้งหลายอย่างไว้กลางทางมากมาย การเดินเรื่องที่เล่ามากไปในช่วงต้น แต่หนังบางเรื่องก็มักเป็นเช่นนี้ที่เป็นเหมาะกับการดูเป็นครอบครัวเป็นหมู่คณะดูไปกินขนมแกล้มเครื่องดื่มเย็นๆกันไป เมื่อเห็นคนอื่นสนุกเราก็สนุกตามและด้วยความที่ตัดเอาความคาดหวังทิ้งไปหมดแล้ว และดูโดยที่ไม่พยายามเปรียบเทียบเพราะระยะห่างมันนานเกินไปเทียบกันคงไม่ได้ จึงทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นความบันเทิงที่เหนือความคาดหมาย เพราะสารภาพตามจริงคือทำใจไว้ล่วงหน้าพอประมาณแต่เมื่อดูเข้าจริงๆหนังออกมาดูสนุกเลย เป็นความบันเทิงง่ายๆที่ดูได้ทั้งครอบครัวเป็นของดีที่คุ้มค่ากับ 329 True Pointคลิกดู > Ghostbusters: Afterlife (2021) โกสต์บัสเตอร์: ปลุกพลังล่าท้าผี เรื่องย่อ Ghostbuster: Afterlife บริษัทกำจัดผีดูสนุกลุกนั่งสบายโดยดูไปบ่นไปของคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook Ghostbustersภาพที่ 5 จาก Facebook TrueIDอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี