การให้บริการสตรีมมิงออนไลน์ล่าสุดของ HBO คือ "HBO Max" เพิ่งมีการเปิดตัวเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วยราคาค่าบริการเกือบ 500 บาทต่อเดือน ถือว่าราคาเรทสูงกว่าสตรีมมิงออนไลน์รายอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้วพอสมควรทีเดียวคะ และจะมีการเริ่มเปิดให้ใช้งานได้ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2020 นี้ เรามาดูข้อแตกต่างระหว่าง "HBO Max" และ "HBO Go" กันค่ะซึ่งในส่วนของ “HBO Go” ก็ได้รับสิทธิ์เผยแพร่รายการต้นฉบับ ภาพยนตร์ ซีรีส์ ทั้งหมดของทาง HBO และ WarnerMedia ในการฉายด้วย เช่น Game of Thrones, Westworld นอกจากนั้นโดยเฉพาะภาพยนตร์ที่เพิ่งออกโรงจะได้รับชมกันอย่างรวดเร็วมากในสตรีมมิงนี้ด้วยเช่นกันส่วน “HBO Max” ได้รับสิทธิ์เผยแพร่รายการต้นฉบับทั้งหมดของทาง HBO ทั้งภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ของ WarnerMedia ซีรีส์ และคอนเทนต์ เช่น ซีรีส์เรื่อง Friends ทั้ง 10 ซีซั่น, ซีรีส์ซิทคอมเรื่อง The Fresh Prince of Bel-Air, คอนเทนต์จาก CW Shows ของ Warner, สารคดี Tokyo Vice ,Gremlins แอนิเมชั่นของทาง Warner Bros และ และ Amblin Entertainment เป็นต้นซึ่งความแตกต่างในการให้บริการนั้นถือว่าแตกต่างกันพอสมควร แต่ด้วยสนนราคาค่าบริการแล้วก็ยังถือว่าสูงกว่าคู่แข่งของทางสตรีมมิงออนไลน์อื่นอยู่ดีทั้งของทาง Netflix Disney+ หรือของทาง Apple TV เอง ถือว่าราคาค่าบริการเบากว่า HBO Max เป็นอย่างมาก และสตรีมมิงออนไลน์ดังกล่าวก็ต่างล้วนแล้วแต่มีฐานลูกค้าที่ดีอยู่ก่อนแล้วถ้า HBO Max คาดหวังว่าจะมาตีตลาดสตรีมมิงออนไลน์ในช่วงนี้อาจจะดูลำบากอยู่มากทีเดียวแต่ถึงยังไงก็แล้วแต่ HBO คงย่อมจะมีการการวางแผนการตลาดมาแล้วเป็นอย่างดี ถึงมีความมั่นใจในการเปิดตัวสตรีมมิงออนไลน์ตัวใหม่ขึ้นในครั้งนี้ รวมถึงคงจะมีความมั่นใจในบริการของตนเองอยู่พอสมควรจึงคิดจะปล่อยสตรีมมิงออนไลน์รายการนี้ออกมาให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบดูภาพยนตร์ รายการ ซีรีส์ และคอนเทนต์ให้ได้รับชมรายการและภาพยนตร์ของทาง Warner Media กันอย่างจุใจและสามารถเลือกสรรสิ่งที่ต้องการดูได้ตามความพอใจนั่นเอง และ HBO คงจะมีความคาดหวังว่าลูกค้าคงจะได้รับการบริการที่คุ้มค่ารวมถึงจะได้รับความพึงพอใจในการให้บริการของ HBO ที่วางแผนมาเป็นอย่างดีและคุ้มค่ากับเรทค่าบริการที่ตั้งขึ้นมาสูงกว่าสตรีมมิงออนไลน์อื่นในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอนขอบคุณข้อมูลจาก https://www.beartai.com/news/itnews/426838