Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (2558)(เนื้อหาอาจมีสปอยล์) Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า heart attack เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่มีความดราม่าผสมอยู่ด้วยเล็กน้อย ผลงานกำกับของเต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ จากค่าย GTH และมีกำหนดฉายเมื่อปี 2558Freelance เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ยุ่น(ซันนี่ สุวรรณเมธนนท์) ผู้ที่มีงานยุ่งอยู่ตลอดเวลา เขาเป็นฟรีแลนซ์ฝีมือดีคนหนึ่งด้านงานกราฟฟิก ทำให้ เจ๋ (วี วิโอเลต) ผู้รับทำหน้าที่แจกจ่ายงาน คอยป้อนงานให้เขาอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งการโหมงานหนักต่อเนื่องมาเป็นเวลานานติดต่อกัน ทำให้ร่างกายเริ่มแสดงอาการอุทธรณ์ผ่านทางเม็ดตุ่มเล็ก ๆ ตามร่างกาย ที่จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อสุขภาพ ด้วยสภาพร่างกายแบบนั้นทำให้ยุ่นต้องเดินทางโรงพยาบาลและได้พบกับ หมออิม (ใหม่ ดาวิกา) แล้วพฤติกรรมทางการทำงานของเขาก็เปลี่ยนด้วยสาเหตุบางประการ...ตัวบทถือว่าทำได้ดีทีเดียว มีการชี้ประเด็นให้เราได้เห็นในแง่มุมที่ลึกขึ้นของทั้งการเป็นฟรีแลนซ์และการประกอบอาชีพหมอ หนังมีการสื่อสารออกมาในเชิงสัญลักษณ์ในบางครั้ง ตัวบทพูดแม้จะมีคำหยาบหลุดออกมาบ้าง แต่นั่นคือเสน่ห์ ที่ทำให้ตัวละครและบทภาพยนตร์ดูสมจริงมากยิ่งขึ้นสำหรับโครงเรื่อง หนังมีจังหวะที่ดี รู้จักการรับ-ส่งบทกันได้อย่างตรงจังหวะ และเหตุการณ์ในเรื่องมีลำดับขั้นตอน เป็นเหตุเป็นผลกันดี แสดงถึงที่มาในแต่ละเรื่องได้อย่างชัดเจนส่วนในด้านของตัวละคร นักแสดงก็สามารถที่จะสวมบทบาทได้เข้าที่เข้าทางแสดงว่ามีการทำการบ้านมาล่วงหน้า เพราะแต่ละอาชีพต่างก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปยุ่น เป็นตัวละครที่ตีแผ่อีกด้านของวงการฟรีแลนซ์ ความเครียด ความกดดันต่อคุณภาพงานก็มีให้เห็นอยู่เสมอ และสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการดำรงอาชีพนี้คือ การยอมรับ ซึ่งดูเหมือนว่ายุ่นจะพยายามมากเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากสังคมในวงการนั้น มันเหมือนเป็นอาชีพที่ห้ามหยุดพัก คุณจะต้องไปต่อ เรื่อย ๆ และ เรื่อย ๆ ถ้าหยุดเมื่อไหร่คือจบ อนาคตในวงการนี้เหมือนจะไปต่อได้ยากลำบากทีเดียวหมออิม บอกเล่าถึงวิชาชีพแพทย์ที่ก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อย สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนในตัวละครหมออิมคือ ความรับผิดชอบ ดูเหมือนว่าเธอจะยึดหลักนี้ไว้อยู่ในใจเสมอ เธอพยายามรักษาอย่างเต็มความสามารถ แม้บางทีเธอเองก็มีบาดแผลบ้างเหมือนกัน จากทั้งความคาดหวังของตนเองและผู้อื่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหมออิมต้องมีมุมผิดหวังให้เราได้เห็นบ้าง จากทั้งความคาดหวังของเธอเองและใครต่อใครเจ๋ เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่ดูจริงจัง ผสมกับนิสัยแบบกวน ๆ เล็กน้อย เธอไม่ได้อ่อนหวานเหมือนผู้หญิงทั่วไป ออกจะติดภาพลักษณ์ที่ออกบอย ๆ หน่อยเสียด้วยซ้ำ เธอมีบุคลิกแบบแนว ๆ ตามประสาวัยรุ่น เธอคงเป็นอีกหนึ่งตัวละคร’หลัก’ ในชีวิตของยุ่นเลยก็ได้พี่เป้ง เป็นตัวละครที่เป็นเหมือนจุดพลิกผันของเรื่องเลย โดยพี่เป้งจะเริ่มมีบทบาทสำคัญในช่วงตอนท้ายของเรื่อง และถึงแม้ยุ่นจะยอมเล่นตามน้ำแต่ก็เห็นได้ชัดว่าคนแบบพี่เป้งเป็นคนที่ดูไม่น่าคบ ดูพร้อมจะหลอกใช้ทุกคน ไม่ได้หวังดีกับใครจริง ๆ หรอก หวังเพียงตนได้ประโยชน์เป็นพอในแง่ของฉากนั้นไม่มีอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่อยู่ในห้องของยุ่นกับห้องของหมออิม แต่ก็ถือว่าหนังสามารถเก็บรายละเอียดได้ดี เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ก็เป็นไปตามหลักความจริงจุดเด่นอีกหนึ่งข้อที่สำคัญของหนังเรื่องนี้คือ การมีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ออกแนวน่ารัก จากน้ำเสียงใส ๆ ของ วี วิโอเลตกับเสียงนุ่ม ๆ ของแสตมป์ อภิวัชร์ ที่ช่วยเพิ่มให้หนังมีระดับความน่าดูเพิ่มขึ้นอีก ด้วยแนวเพลงที่ฟังง่าย ฟังสบาย จึงเป็นเพลงที่ฮิตได้ในเวลาไม่นานโดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว ทั้งในแง่ของความสนุกและการแฝงประเด็นต่าง ๆ ไว้ตลอดทาง ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนแล้ว ว่าจะเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านั้นได้มากน้อยแค่ไหน ตัวละครแต่ละตัวต่างก็มีมุมมองและบทบาทต่อโลกในแบบที่แตกต่างกันออกไป คงจะดีไม่น้อยหากว่าในอนาคตเรามีโอกาสได้ศึกษามุมมองของตัวละครอื่น ๆ ดูบ้าง ถ้าอยากลองดูหนังสนุก ๆ อีกเรื่อง คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีทีเดียว “อย่าเปลี่ยนเลย...อยากเจอ”-----หมออิม ขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook GTHhttps://www.facebook.com/pg/gthchannel/photos/?ref=page_internal