Netflix และช่อง JTBC ส่งซีรีส์ดราม่าเกรดพรีเมียมอย่าง My Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี มากรีดต่อมน้ำตาผู้ชมด้วยเรื่องราวของหนุ่มสาวจากต่างจังหวัดที่กำลังสูญเสียความหมายในการใช้ชีวิต ขาดโอกาสเข้าสังคมเนื่องจากหมดเวลาแต่ละวันไปกับการเดินทางบนท้องถนน ถ่ายทอดโดยนักแสดงสายฝีมืออย่าง อีเอล อีมินกิ คิมจีวอน และ ซนซอกกู จะดีงามจนต้องเทใจให้หรือไม่ชวนไปพิสูจน์กันในรีวิวฉบับนี้My Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตามองด้วยชื่อชั้นของ นักเขียนพัคแฮยอง เจ้าของผลงานซีรีส์ชื่อดังอย่าง Another Miss Oh (2016) และ My Mister (2018) ที่ตั้งใจรังสรรค์บทละครอย่างละเมียดละไมจนคว้ารางวัลแพคซังมาได้สำเร็จ การกลับมาครั้งนี้ได้ทำงานร่วมกับ ผู้กำกับคิมซอกยุน จากซีรีส์ The Light in Your Eyes (2019) ผู้ที่เป็นคนขับเคี่ยวพลังของนักแสดงอย่าง นัมจูฮยอก จนทำให้หลายคนเห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวกระโดดขึ้นอย่างเหลือเชื่อหมู่บ้านซานโพ พื้นที่ชนบทในเขตจังหวัดปริมณฑลคยองกี เป็นฉากหลังที่ปรากฏให้เห็นเป็นส่วนใหญ่ของซีรีส์เรื่องนี้ เพื่อบอกเล่ากิจวัตรประจำวันของ สามพี่น้องสกุลยอม ที่ล้วนต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปทำงานประจำที่กรุงโซล ซ้ำยังต้องรีบสะสางภาระรายวันให้แล้วเสร็จก่อนรถไฟเที่ยวสุดท้ายจะหมดลง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาเผชิญกับความซ้ำซากจำเจ เหน็ดเหนื่อยและถูกการเดินทางกลืนกินพื้นที่ส่วนตัวจนถูกขังอยู่ในชีวิตที่ขาดสีสัน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาต่างกำลังค้นหาหนทางในการปลดแอกจากชีวิตอันจืดชืดไปสู่อิสรภาพที่แท้จริงยอมกีจอง (รับบทโดย อีเอล) พี่สาวคนโตที่มาพร้อมกับบุคลิกเจ้าอารมณ์ ขี้โมโห จู้จี้ขี้บ่นและพูดจาชนิดมะนาวไม่มีน้ำ ปัญหาเรื่องบ้านไกลทำให้เธอรู้สึกสูญเสียช่วงเวลาวัยเยาว์อันมีค่า ซ้ำยังทุ่มเทให้กับชีวิตทำงานแบบหมดหน้าตักแต่ได้รับผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า จนถึงวันนี้ขนาดความฝันของเธอกำลังหดเล็กลงเรื่อย ๆ และไม่วายเป็นหญิงสาวที่มีปัญหากับทรงผมจนบางครั้งเธอต้องการใบมีดโกนสักเล่มที่สามารถโกนได้ทั้งเส้นผมบนศีรษะและชีวิตเส็งเคร็งที่กำลังพบเจอในขณะที่ ยอมชางฮี (รับบทโดย อีมินกิ) ลูกชายคนกลางที่ถูกละเลยจากครอบครัว ซ้ำยังถูกสาวที่รักเทมาหมาด ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็นคนเชยจนเกินเยียวยา ยอมชางฮีปรารถนาที่จะโยกย้ายตัวเองไปใช้ชีวิตยังเมืองหลวง ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกเพื่อเดินทางไปมาหาสู่และใช้เวลากับคนรัก แต่แผนชีวิตทั้งหมดของเขากลับถูกตีตกจากพ่อแม่เพราะพฤติกรรมการใช้เงินของเขาในอดีต จึงทำให้ยอมชางฮีกลายเป็นผู้ชายธรรมดาที่ใช้ชีวิตไปอย่างเปล่า ๆ ปลี้ ๆ ปราศจากความทะเยอทะยานไปโดยปริยายน้องเล็กอย่าง ยอมมีจอง (รับบทโดย คิมจีวอน) หญิงสาวที่มีนิสัยเก็บตัวและขี้อาย เธอประสบปัญหาการเข้าสังคมด้วยเหตุผลที่บ้านอยู่ไกลทำให้ไม่มีเวลาหลังเลิกงานไปทำกิจกรรมชมรมของบริษัท การปลีกตัวออกจากเพื่อนร่วมงานทำให้เธอถูกมองเป็นคนน่าเบื่อ แต่ปมในใจเหล่านั้นกลับถูกเติมเต็มเมื่อเธอได้เข้าไปพัวพันกับ มิสเตอร์กู (รับบทโดย ซนซอกกู) แรงงานจ้างที่ใช้ชีวิตอยู่กับขวดเหล้าเป็นอาจิณ ทว่าภายใต้บุคลิกเงียบขรึมนั้นไม่มีใครล่วงรู้เหตุผลที่ชายคนนี้เดินทางมายังหมู่บ้านซานโพ พื้นที่กันดารที่ไม่มีใครอยากเอาชีวิตมาทิ้งให้เปล่าประโยชน์หลายครั้งที่มีการหยิบชีวิตของคนเมืองที่หลีกหนีจากความวุ่นวายมาอยู่ชนบท แต่สำหรับเรื่องนี้ดูจะสวนทางกับภาพเดิมที่เคยคุ้นตา เมื่อตัวละครหลักกลับเป็นตัวแทนของคนต่างจังหวัดที่ต้องสู้รบปรบมือกับความวุ่นวายในเมืองแทน ถือเป็นการนำเสนอเรื่องราวที่รสชาติแปลกใหม่ไปอีกแบบ แต่ถึงอย่างไรในโลกยุคปัจจุบันเราต่างพบเห็นผู้คนกลุ่มนี้เป็นปกติ ความน่าสนใจจึงมาจากการขายพล็อตที่สมจริงและจับต้องได้ โดยเฉพาะบรรดาหนุ่มสาวบ้านไกลที่หมดเวลาไปกับการยืนโหนรถเมล์น่าจะจุกอกอยู่พอสมควรการนำเสนอชีวิตของคนชนบทกับคนเมืองทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ เห็นความสุดโต่งของกิจวัตรประจำวันที่ต่างกันไปโดยสิ้นเชิง ในขณะที่คนเมืองใช้เวลาไปกับการนอนพักผ่อนหรือออกไปเช็กอินยังคาเฟ่เพื่อจิบกาแฟในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทว่าสามพี่น้องที่เหน็ดเหนื่อยจากงานประจำยังต้องตื่นมาทำงานบ้านหรือออกไปช่วยพ่อแม่เก็บเกี่ยวต้นหอมท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ ความคอนทราสต์ดังกล่าวยิ่งตอกย้ำความยากลำบากของคนต่างจังหวัดที่ดิ้นรนตัวเป็นเกลียวเพื่ออนาคตที่ดี ทั้งนี้ยังแอบเห็นมุมอบอุ่นสไตล์ชาวบ้านที่รวมตัวกันรับประทานอาหารและพูดคุยจิปาถะในวันว่างอีกด้วยซีรีส์นำพาไปสัมผัสความยากลำบากในวัยผู้ใหญ่ที่สู้ชีวิตแต่ชีวิตสู้กลับอย่างแท้จริง เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ อย่างปัญหาระยะทาง กลับเป็นต้นเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างปฏิเสธไม่ได้ ชนชั้นกลางที่เป็นคนต่างจังหวัดในเมืองใหญ่ต้องเผชิญกับการต่อสู้ดิ้นรนทุกวินาที ความยากลำบากทำให้เกิดปฏิกิริยาด้อยค่าตัวเองอย่างไม่รู้ตัว อีกทั้งสภาพสังคมที่บีบคั้นเข้ามาทุกทางไม่ว่าจะเป็นชนชั้น สภาพเศรษฐกิจ คู่ครอง และการมีครอบครัว เมื่อปีนกำแพงที่รายล้อมออกไปไม่ไหวจึงทำให้คนกลุ่มนี้ต้องจำนนต่อโชคชะตาและกลายเป็นผู้แพ้ไปโดยปริยายMy Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี ยังคงลายเซ็นการเล่าเรื่องของนักเขียนบทพัคแฮยองไว้อย่างแยบคาย เริ่มจากการกรีดแทงหัวใจผู้ชมให้กระอักน้ำตาไปกับสารพันปัญหาที่แต่ละตัวละครต้องประสบพบเจอ ให้ข้อคิดว่าบางครั้งความขมขื่นของชีวิตอาจเป็นยาชูกำลังชั้นดีที่ทำให้มนุษย์สามารถก้าวผ่านความยากเย็นแสนเข็ญมาได้แม้ระหว่างทางจะถูกเสี้ยนหนามเสียดแทงจนเกิดบาดแผลก็ตาม เพราะสิ่งเหล่านี้คือบททดสอบที่ไม่มีทางหาได้จากห้องเรียน จุดเริ่มต้นดูจะหดหู่วังเวงแต่หวังใจว่าบทสรุปสุดท้ายจะทำให้ผู้ชมยิ้มออกได้บ้างเป็นธรรมดาที่ซีรีส์แนวนี้จะดำเนินไปอย่างช้า ๆ ไดนามิกการเล่าเรื่องไม่ได้ฉูดฉาดจนทำให้รู้สึกตื่นเต้นตัวโยน แต่ถึงอย่างไรก็มีเส้นเรื่องความรักมาปลอบประโลมหัวใจได้บ้าง กับตัวละครมิสเตอร์กูที่นอกจากจะเป็นไพ่ใบสำคัญต่อชีวิตของสามพี่น้องแล้ว ยอมมีจองน้องเล็กยังเข้าไปพัวพันกับชายขี้เมาคนนี้จากการไหว้วานให้เขารับจดหมายทวงหนี้แทนเพราะไม่อยากให้พ่อแม่รู้อีกด้วย แต่ดูท่าทางจะเป็นความสัมพันธ์ที่คงต้องลุ้นหนักกันสักหน่อยเพราะต่างคนต่างพูดน้อยด้วยกันทั้งคู่ เป็นความรักของชายหญิง Introvert ที่มีความน่าสนใจอยู่มากทีเดียว(Youtube: Netflix Thailand)ใครชื่นชอบซีรีส์ดราม่าแฝงปรัชญาคงต้องไม่พลาดเรื่องนี้ ติดตามชีวิตของสามพี่น้องกับหนึ่งชายขี้เมาได้ใน My Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี อัปเดตตอนใหม่ทุกคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 22.00 น. สามารถรับชมฉบับบรรยายไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง Netflix ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน หรือกล่อง TrueId TV ได้ด้วยเช่นกันรูปภาพประกอบบทความจาก Official Instagram: @jtbcdramaภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิวซีรีส์ Tomorrow พรุ่งนี้ | โรอุน พร้อมทีมยมทูตยุค 5G กับภารกิจช่วยมนุษย์ที่ฉีกทุกกฎของปรโลก- รีวิวซีรีส์ Kill Heel ล้วงลึกธุรกิจโฮมชอปปิ้ง กับสงครามริษยาของผู้หญิงที่ฟาดกันจนไฟลุก- รีวิวซีรีส์เกาหลี Lost (2021) หลังจบตอนแรก ดูต่อดีไหม หรือดราม่าหนักไปจนต้องพักก่อนอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี