เปิดทำเนียบแห่งหายนะ! สรุปหนังรายได้คว่ำบนบ็อกซ์ออฟฟิศโลกแห่งปี 2024

ถึงแม้ว่าปี 2024 จะเป็นศักราชที่วงการหนังทั่วโลกถือว่ากลับมาฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นช่วงวิกฤตโควิดและสถานการณ์แทรกซ้อนต่าง ๆ นานา ทำให้เราได้เห็นผลลัพธ์หนังหลายเรื่องที่กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งบนบ็อกซ์ออฟฟิศโลก แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะยิ้มออกได้ในปีที่การแข่งขันในแง่คอนเทนท์หนังยังดุเดือด ระหว่างหนังเข้าโรงกับหนังสตรีมมิงจอเล็ก ที่เป็นตัวแปรทำให้พฤติกรรมความนิยมของคนดูเปลี่ยนไปทีละน้อย

กลายเป็นว่าปี 2024 เราก็ได้เห็นกลุ่มหนังฟอร์มใหญ่ยักษ์และหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ที่เป็นความหวังของสตูดิโอหนังบางเรื่องต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลวทางด้านรายได้อย่างน่าผิดหวัง แม้ว่าบางเรื่องจะไม่ได้ย่ำแย่ใด ๆ ในแง่คำวิจารณ์ แต่กลับไม่สามารถกระตุ้นและดึงดูดใจผู้ชมออกมาตีตั๋วดูหนังได้ และนี่ก็คือบทสรุปหนังที่มีผลลัพธ์พลิกคว่ำบนบ็อกซ์ออฟฟิศในรอบปีที่ผ่านมา

"Furiosa: A Mad Max Saga" กลายเป็นของที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับแฟรนไชส์หลักได้เลย เพราะนี่คือภาคแยกที่แตกเรื่องราวออกมาถึงตัวละครสาวนักสู้ ฟูริโอซา เคยถูกหมายมั้นให้เป็นหนึ่งในหนึ่งโปรแกรมทองของปี แต่กลับล้มเหลวสุด ๆ ในแง่รายได้ เพราะหนังทำเงินทั่วโลกไปได้เพียง 173 ล้านเหรียญ แม้ว่าจะมีนักแสดงระดับซุปตาร์มาดึงดูดมาก ๆ แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่อาจจะซื้อใจคนดูได้ ทั้งที่คำวิจารณ์ค่อนข้างงดงามเช่นเคย นั่นทำก็ทำให้หนังเรื่องนี้ขาดทุนไปในระดับแสบ ๆ คัน ๆ พอดู

วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ยังต้องเผชิญหน้ากับการล้มอีกครั้งใหญ่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมากับ "Joker: Folie a Deux" หนังอาชญากรรมภาคต่อฉบับเอกเขนกของตัวละครโจ๊กเกอร์ ที่กลายเป็นการทำรายได้ในระดับหายนะเรื่องหนึ่งของปี ด้วยการที่หนังหยิบใส่ความเป็นมิวสิคัลเข้าไปแบบผิดที่ผิดทางและไม่ใช่จริตแบบที่คนดูต้องการจะเห็น ผลัพธ์จึงย่ำแย่ทั้งด้านคำวิจารณ์และการโกยรายได้ ทำเงินทั่วโลกไปได้เพียง 206 ล้านเหรียญ ห่างไกลจากที่ภาคแรกเคยเป็นหนังระดับพันล้านมาแล้ว

คำที่ได้ยินบ่อย ๆ ในยุคนี้คือความอ่อนล้าของหนังทุนสร้างระดับกลาง ๆ นั่นก็สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์ของ "The Fall Guy" หนังแอคชันจ๋า ๆ เปิดซัมเมอร์ที่ผ่านมา ที่เป็นหนังที่อรรถรสสนุก คำวิจารณ์ค่อนข้างดีใช้ได้ แต่กลับไม่สามารถดึงดูดคนดูได้เลย เพราะท้ายที่สุดก็ทำเงินจอดอยู่ที่ 180 ล้านเหรียญ ที่นับว่ายังเจ็บตัวในระดับเบาะ ๆ เพราะหนังก็ใช้ทุนสร้างในระดับร้อยล้านขึ้น กับการใช้บริการนักแสดงระดับแถวหน้า แต่ก็มิได้นำพาให้ปัง

การหยิบเอาตำนานคลาสสิกมาละเลงใหม่ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป ดูอย่าง "The Crow" ที่พยายามปัดฝุ่นเอาหนังดรามาสุดคัลท์ในอดีตมาสร้างใหม่ แต่กลายเป็นหนึ่งในหนังที่เผชิญหน้ากับความล้มเหลวที่สุดอีกเรื่อง ทั้งในแง่คำวิจารณ์และรายได้หนัง ที่ทำเงินทั่วโลกไปได้เพียง 24 ล้านเหรียญ แม้ว่าจะไม่ใช่หนังที่ใช้ทุนสร้างสูงอะไรมากมายนัก แต่หนังก็ยังไม่อาจจะก้าวข้ามไปสู่คำว่าความสำเร็จได้เลย

เป็นอีกหนึ่งรวมทัพดาราชั้นแนวหน้าเอาไว้กับหนังแอคชันสายลับผจญภัย "Argylle" ที่ถูกจัดให้เป็นหนังแป้กประจำปีอีกเรื่องไปโดยปริยาย นี่น่าจะเป็นหนึ่งฟอร์มใหญ่ยักษ์เรื่องแรก ๆ ของปีที่ผ่านที่ได้ออกฉาย กับทุนสร้างที่สูงมหาศาลระดับ 200 ล้านเหรียญ แต่ทว่าฟันรายได้ทั่วโลกกลับคืนมาแค่เพียง 96 ล้านเหรียญ กลายเป็นความหายนะที่อาจจะยังไม่ได้ทุนค่าจ้างทีมนักแสดงคืนมาเลยด้วยซ้ำ

ส่วนการคัมแบ็กของตำนานนักสร้างหนังชั้นครู ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายุคทองเขาน่าจะผ่านไปแล้วจริง ๆ กับ "Megaloposis" หนังแฟนตาซีสุดทะเยอทะยานของ "ซรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา" ที่ดูจะส่งสัญญาณของปัญหามาตั้งแต่สร้างเสร็จแต่ไม่มีสตูดิโอไหนเหลียวแล หนังทุนสูงปรี๊ด แต่เก็บเงินมาได้แค่ 13 ล้านเหรียญ ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนดีแล้ว

ขณะที่กลุ่มหนังรักรอมคอมพากันหนีตายไปลงจอสตรีมมิงกันหมด แต่ "Fly Me to the Moon" ก็ยังพยายามกระเสือกกระสนในการตีตลาดบ็อกซ์ออฟฟิศอย่างท้าทาย กับผลลัพธ์ที่ออกมาก็เป็นไปตามที่คิดไว้ เพราะได้เงินคืนมาแค่ 40 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างระดับร้อยล้าน นี่คือหนังรักที่ผนวกเข้ากับประเด็นการแต่งแต้มเติมใฝ่ในวันสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์อวกาศ ที่ดูเหมือนจะเป็นพล็อตที่ไปด้วยกันไม่ค่อยได้เท่าไหร่

มหากาพย์คาวบอยก็คือเอ้าท์ไปนานมากแล้วจริง ๆ ความพยายามที่จะปลุกปั้นสร้างตำนานคาวบอยขึ้นมาใหม่ของ เควิน คอสต์เนอร์ ใน "Horizon: An American Saga" ที่ฝันอยากจะปังตามรอยซีรีส์ดัง Yellow Stone ของเขา แต่ผลลัพธ์กลายเป็นหายนะ เพราะท้ายที่สุดก็ทำเงินไปเพียง 38 ล้านเหรียญ โดยที่หนังเรื่องนี้วางแผนจะทำออกมาเป็น 3 ภาคต่อเนื่อง แต่ว่าแค่ออกสตาร์ทก็ต้องจอดสนิทเสียแล้ว

แล้วความตกต่ำของวงการหนังฮีโรก็ยังดำเนินต่อไปอยู่ "Madame Web" ที่กลายเป็นความพยายามแบบเกิดตัว กลายเป็นความล้มเหลวทุกด้าน ทั้งคำวิจารณ์และรายได้ ที่ฟันเงินทั่วโลกไปได้ 100 ล้านเหรียญ ที่ยังไม่ถึงขั้นจะได้คืนทุน ตามมาด้วย "Kraven the Hunter" หนังจากจักรวาลเดียวกันที่ออกฉายไปช่วงปลายปี ที่ต้องเผชิญหน้ากับหายนะทางด้านตัวเลขอีกครั้ง เพราะขณะนี้ก็เพิ่งจะทำทั่วโลกเกินหลัก 50 ล้านเหรียญไปเท่านั้น นั่นจึงเป็นสิ่งที่ โซนี พิคเจอร์ส เลือกตัดสินใจทำการปิดจักรวาลหนังแห่งนี้ลงไปเรียบร้อยแล้ว

และหนังจากวิดีโอเกมก็ยังไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะปัง เช่น "Borderlands" ที่กลายเป็นหนังที่ต้องเผชิญหน้ากับคำวิจารณ์ที่ตกต่ำที่สุดในรอบปีนี้ มีนักวิจารณ์ชอบหนังแค่ 10% เท่านั้น นั่นก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของหนังโดยตรง เพราะกลายเป็นโปรเจกต์หนังฟอร์มยักษ์ ที่ไลออนส์เกตต่างคาดหวังสูงมาก ๆ ทุ่มทุนสร้างกว่าร้อยล้านเหรียญ แต่สุดท้ายก็ทำเงินกลับมาได้เพียง 33 ล้านเหรียญจากทั่วโลก การได้นักแสดงระดับซุปตาร์มาแปลงโฉมเป็นตัวละครจากเกม ก็ไม่อาจจะการันตีได้ว่า..หนังจะปังได้

สรุปหนังรายได้คว่ำบนบ็อกซ์ออฟฟิศโลกแห่งปี 2024

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa