ความตายเป็นเรื่องน่ากลัว แต่ใครจะคิดว่าสิ่งที่เรากลัวที่สุดจะช่วยให้มวลมนุษยชาตินั้นรอดพ้นกับหายนะครั้งยิ่งใหญ่จากการบุกโลกของเอเลี่ยนได้ อย่างในหนังเรื่อง Edge of tomorrow ประเอกต้องพบกับความตายครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อหาวิธีต่อกรกับศัตรูตัวร้ายอย่างเอเลี่ยนต่างดาวที่ใช้ความสามารถแบบเดียวกันนี้เอาชนะเรามาตลอด โดยที่เราไม่มีทางเอาชนะพวกมันได้เลย อยู่มาวันหนึ่งโลกก็ได้ถูกรุกรานโดยอากาศยานลึกลับจากนอกโลก พวกมันได้เข้าโจมตีตรงแถบทวีปยุโรปทำให้มีผู้คนล้มตายหลายล้านคนและในที่สุดพวกมันก็สามารถยึดพื้นที่แถบยุโรปเกือบทั้งหมด แล้วทำเป็นฐานที่มั่น เหล่ามนุษย์หลายประเทศจึงรวมตัวกันก่อตั้งพันธมิตรป้องกันโลก(United Defense Force หรือ UDF) ขึ้น ทำการโจมตีพวกต่างดาวหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จจนเวลาผ่านไป 5 ปี มนุษยชาติก็ได้สร้างชุดเกราะเหล็กสำหรับนักรบไว้เพื่อต่อกรกับเหล่าเอเลี่ยนและก็ได้รับข่าวดีว่าได้รับชัยชนะครั้งแรกที่ เวอร์ดัน ประเทศฝรั่งเศส ที่นำโดย สิบเอกริต้า แวร์เทสกี้ จนทำให้เธอได้รับฉายาว่า เทพสงครามเวอร์ดัน ในเวลาต่อมานายพลบริกแฮม ผู้บัญชาการของ UDF ได้เรียกตัว พันตรีวิลเลี่ยม เคจ ผู้ที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้มีผู้คนอาสาเข้าร่วมรบกับเอเลี่ยนโดยผ่านโฆษณาและสื่อต่าง ๆ ให้เข้าร่วมสงครามทั้งที่ตนไม่ได้อยากที่จะเข้าร่วมเขาจึงคิดที่จะหนี แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น โดนยิงปืนไฟฟ้าใส่แล้วสลบไป พอฟื้นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ค่ายทหารแล้วถูกส่งให้ไปรบยังแนวหน้าแบบงง ๆ ระหว่างที่อยู่ในสนามรบก่อนจะตายเคจได้สังหารเอเลี่ยนตัวหนึ่งด้วยระเบิด เลือดของมันกระจายและไหลเข้าไปในตัวเขาก่อนสิ้นใจ แทนที่จะจบแต่เคยกลับตื่นขึ้นมาใหม่ในตอนที่ถูกส่งตัวมาที่ค่ายทหาร แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างก็เหมือนเดิมจนเขาเข้าไปอยู่ในสนามรบและตายอีกครั้ง ตื่นแล้วตาย วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายเรื่องนี้จะลงเอยยังไง พวกเขาจะรบกับเอเลี่ยนที่ร้ายกาจขนาดนี้ได้อย่างไรต้องไปติดตามกันเองแล้วครับ ส่วนตัวผมเคยได้ดูหนังเอเลี่ยนบุกโลกมาก็หลายเรื่อง แต่ละเรื่องเอเลี่ยนก็จะมีพลังแตกต่างกันไป ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ Edge of tomorrow พวกมันมีพลังเกี่ยวกับการย้อนเวลา ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนนะครับ ถือว่าค่อนข้างแปลกใหม่ในแง่ของพลังเอเลี่ยน แต่ถ้าพูดถึงการดำเนินเรื่องโดยการใช้ลูกเล่นให้พระเอกตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ในวันเดิม ๆ เรื่อย ๆ แต่จำทุกอย่างได้หมดการดำเนินเรื่องแบบนี้ก็มักจะมีให้เห็นได้ในหนังหลาย ๆ เรื่อง แต่ตอนจบและการดำเนินเรื่องก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งพอนำมาใช้กับเรื่องราวในสงครามระหว่างคนกับเอเลี่ยนแล้ว ผมให้คะแนนความมันส์เต็มเหนี่ยวเลยครับ ตัวหนังเป็นแนวจริงจังซีเรียสเพราะเป็นเรื่องของความอยู่รอดของเหล่ามนุษยชาติ จะไม่ค่อยมีมุขตลกให้เห็นสักเท่าไรอาจจะมีช่วงกลาง ๆ เรื่องที่ดูอืดไปสักนิดหน่อยแต่หลังจากนั้นก็มันส์กันเต็มอิ่มจนจบไปเลย ยิ่งได้นักแสดงมากฝีมืออย่างทอม ครูซ และ เอมิลี่ บรันต์ มาเป็นนักแสดงนำยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะทอมครูซที่เราจะค่อย ๆ ได้เห็นพัฒนาการของตัวพระเอก จากคนที่ไม่อยากเข้าร่วมรบ จนกลายเป็นคนที่เสมือนเป็นความหวังของโลกและตั้งใจหาวิธีที่จะกำจัดเอเลี่ยนให้สำเร็จอย่างจริงจัง Edge of tomorrow เข้าฉายตั้งแต่ปี 2014 ก็ผ่านมาประมาณ 6 ปีแล้วผมก็คิดว่าหลายคนอาจจะเคยดูแล้วแต่สำหรับใครที่ไม่เคยดูหรือดูแล้วอยากสัมผัสกับความสนุกของหนังเรื่องนี้อีกรอบก็สามารถติดตามได้ทาง Netflix ผ่านกล่อง True ID ได้เลยครับ ขอบคุณภาพจาก WarnerBros