ปลุกคนไทย ภูมิใจในชาติ รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล ควบคุมด้วยระบบไร้สาย ครั้งแรกในเมืองไทย
เปิดม่านการแสดงแล้ว สำหรับละครเวทีระดับชาติ ธนาคารกรุงไทย ภูมิใจเสนอ “รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล” ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปถัมป์ศิลปวัฒนธรรมไทย และเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๓๐ ปี ที่ ๑๙ ศิลปินไทยยุคบุกเบิก ได้เดินทางข้ามโลกเพื่อบรรเลงมโหรีต่อหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียเป็นครั้งแรก ฯ เริ่มแสดงตั้งแต่วันที่ ๒๐-๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
แม้จะเป็นการประพันธ์บทละครขึ้นมาใหม่ แต่เนื้อเรื่องบางส่วนนั้นได้อ้างอิงจากเกร็ดประวัติศาสตร์ในการหวนคืนสู่บรรยากาศในยุคสมัยรัชกาลที่ ๕ – รัชกาลที่ ๘ ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของดนตรีไทย เป็นเหตุการณ์สำคัญอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ ที่คนไทยอาจไม่เคยรู้ ซึ่งใช้เวลาในการเตรียมการนานถึง ๓ ปีเต็ม ในการค้นคว้าข้อมูลทางประวัติศาสตร์ การเตรียมบทละคร เพลง ค้นหานักแสดงที่เหมาะสม โดยเฉพาะร็อคเกอร์หนุ่ม แบงค์ แคช-ปรีติ บารมีอนันต์ ในบท เชิด หรือ ปู่ทวด ที่ต้องฝึกหนัก เรียนดนตรีไทยทั้งเป่าขลุ่ย ตีระนาด ที่ต้องสวมบทบาทการแสดง ๓ ช่วงวัย ตั้งแต่วัยหนุ่ม ๒๕ ปี วัยกลางคน ๕๐ ปี และวัยชรา ๘๘ ปี เชิดเป็นคนที่โตมากับวงดนตรีไทย บรรพบุรุษเป็นนักดนตรี เชิดเล่นระนาดเอกเป็นเครื่องดนตรีหลัก ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในนักดนตรีไทย ๑๙ คนที่ได้เดินทางไปเล่นดนตรีที่อังกฤษ เชิดเป็นคนจริงจัง และมีความหวังจะให้ลูกหลานสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม นักแสดงนำคนต่อมาคือ ศิลปินเคป๊อบชื่อดัง นัททิว ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม ในบท ไมค์ หรือ ไม้ หนุ่มหล่อไฮเปอร์ อายุ ๑๘-๒๐ ปี เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว พ่อเสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก มีความสามารถเรื่องดนตรี ร้องเพลงเก่ง เล่นกีต้าร์ได้ ชื่นชมนักดนตรีต่างชาติ ไม่สนใจดนตรีไทย เป็นตัวแทนของเด็กไทยในยุคที่กระแสเคป๊อบ และโซเชียลเน็ตเวิร์คครองเมือง ที่ได้เดินทางข้ามภพหลุดเข้าไปในยุคสมัยอดีตกาลและพบกับปู่ทวด จึงได้โอกาสเรียนรู้ความเป็นไทย รู้จักดนตรีไทย ได้สัมผัสบรรยากาศความรุ่งเรืองสวยงามของบ้านเมืองและศิลปวัฒนธรรมไทยในอดีต และนักแสดงนำหญิงคนต่อมาคือ โบว์ สาวิตรี (โบว์ AF) ที่ทุกคนคุ้นตาในละครพีเรียดหลายๆเรื่อง มารับบทเป็น ดวงเดือน หญิงสาวคนรักของเชิดที่เพียบพร้อมด้วยความเป็นกุลสตรี อ่อนหวาน อัธยาศัยดี หลงรักเสียงเพลงและชื่นชมความสามารถของเชิด งานนี้นับว่าหิน เพราะโบว์ สาวิตรี (โบว์ AF) ต้องรำดึกดำบรรพ์ คือการรำและร้องไปด้วย แถมยังต้องแสดงเป็น ๓ ช่วงวัย คืออายุ ๑๘ อายุ ๔๓ ปี และอายุ ๘๑ ปี เรียกว่าต้องทำการบ้านอย่างหนักไม่แพ้กัน และศิลปินที่เปี่ยมความสามารถอีกคนโดยเฉพาะด้านดนตรีไทย อย่าง เก่ง ธชย มารับบทโปเต้ เพื่อนสนิทของไมค์ และเป็นนักดนตรีในวงเดียวกับไมค์ เล่นคีย์บอร์ด โปเต้เป็นคนสนุกสนาน ถือเป็นตัวตลกประจำแก๊ง! ขณะเดียวกันโปเต้ต้องสวมบทบาท อีกสามยุค คือในรัชกาลที่ ๕ ตอนต้น ในรัชกาลที่ ๕ ตอนปลาย และในยุครัชกาลที่ ๘ สวมบทบาทเป็น ป่าน, ปักเป้า, เปลี่ยน นอกจากนี้ ยังมีนักแสดงนำที่อีกหลายท่านที่มาร่วมสร้างสีสันและความสนุกสนานหลากรสให้กับละครเรื่องเยี่ยมคือ แอน นันทนา ในบท นัชชา, ส้ม มารี ในบท เจน และ กันต์ ชนุตม์ ในบท ทรัมไดร์ฟ พร้อมนักแสดงสมทบมืออาชีพอีกเพียบฯ
โดยมี “หมอก-เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการสร้าง หลังจากสร้างสรรค์ละครเวทีต่างแนวทางต่างสไตล์มาอย่างต่อเนื่องถึง ๓ เรื่อง ๓ รส ตั้งแต่เรื่องแรก “รักเธอเสมอ เดอะมิวสิคัล” ละครเพลงแนวโรแมนติกดราม่า ตามด้วย “แม่เบี้ย ดิอีโรติก อาร์ต มิวสิคัล” ละครเวทีจากผลงานวรรณกรรมสุดคลาสสิก และ“มนตร์ดำคอมเพล็กซ์” ละครแนวผีแฟนตาซีเรียกเสียงหัวเราะ เมื่อมาถึงละครเวทีเรื่องที่ ๔ จึงได้เกิดแรงบันดาลใจในการต่อยอดปลุกคนไทย ให้ภูมิใจในชาติ เพื่อให้เข้าถึงเด็กในยุคที่กระแสเคป๊อบ และโซเชียลเน็ตเวิร์คครองเมือง จึงได้ผสมผสานเทคนิคและมัลติมีเดีย พร้อมสร้างสรรค์เรื่องราวที่ร่วมสมัย มีทั้งยุคปัจจุบัน และการย้อนกลับไปอดีต จะทำให้ทุกคนเสมือนได้หลุดเข้าไปในยุคสมัยรัชกาลที่ ๕-๘ หนึ่ง
สำหรับฉากไฮไลท์สำคัญ ประเดิมด้วยฉาก 1 เพลงแสงสุดท้าย The Voice of Star Talent Fantasia Season 3 เป็นการเปิดตัวด้วยฉากเด็กวัยรุ่นตัวแทนคนในยุคปัจจุบัน เป็นฉากประกวดวงดนตรีของไมค์ เจน โปเต้ และทรัมไดร์ฟ ในนามวง Super Sun ใช้เพลง “แสงสุดท้าย” ในแบบฉบับละครเวที “รอยดุริยางค์ เดอะมิวสิคัล” ในการประกวด และทำผลงานได้ดีจนโค้ชโจโจ้กดเลือกให้เข้าทีมและผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และวงSuper sun ต้องเตรียมหาห้องซ้อมเพื่อประกวดในรอบต่อไป อีกฉากคือ เมืองแก้วรัตนโกสินทร์ ที่ไมค์ได้ย้อนอดีตกลับมาในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นยุคที่สยามเพิ่งมีความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ เกิดขึ้นในบ้านเมือง ไพร่ฟ้าประชาชนต่างมีความสุขความสมบูรณ์ด้วยพระบารมีขององค์พระพุทธเจ้าหลวง เป็นฉากใหญ่ที่ทุกคนออกมาร้องรำทำเพลงในเพลงเมืองแก้วรัตนโกสินทร์ และฉากที่สุดประทับใจคือฉากที่ตัวละครไปรอรับเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง หรือสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ตอนเสด็จกลับจากประพาสยุโรป ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องราวที่ไมค์ได้ย้อนอดีตกลับมาอีกครั้งในสมัยตอนปลายรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนิวัติพระนครหลังจากประพาสยุโรปครั้งที่สอง ประชาชนต่างออกมาเฝ้ารอรับเสด็จฯ เพื่อชื่นชมพระบารมี และได้ร่วมร้องเพลงรับเสด็จฯ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ไมค์ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นยุคใหม่จึงยิ่งได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเหตุใดคนไทยถึงรักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ยังมีฉากที่เป็นภูเขาทองในปัจจุบันที่อยู่ๆจะเปลี่ยนกลับเป็นภูเขาทองเมื่อกว่าร้อยปีก่อน
เรียกได้ว่าเต็มอิ่มทั้งอรรถรสครบเครื่อง ทั้งด้านเนื้องหาเรื่องราวที่ปลุกให้คนไทย ภูมิใจในชาติ เห็นคุณค่าในศิลปวัฒนธรรมดนตรีไทย ส่วนด้านโปรดักชั่นยังได้ดีไซน์ไอเดียใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Stage Platform ควบคุมด้วยระบบไร้สาย(Wireless), มัลติมีเดีย เลเซอร์ Wireless Programmable LED นับเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ทั้งนี้เพื่อให้สมกับชื่อบริษัทอีเวนต์อันดับ ๗ ของโลก และสมกับความยิ่งใหญ่ของละครเวทีแห่งความภาคภูมิใจระดับชาติเรื่องเยี่ยมแห่งปี
ร่วมภาคภูมิใจกับสุดยอดละครเวทีระดับชาติ ธนาคารกรุงไทย ภูมิใจเสนอ “รอยดุริยางค์ เดอะ มิวสิคัล” กำกับการแสดงโดย ต้อ มารุต สาโรวาท ถ่ายทอดการแสดงโดย แบงค์ แคช, นัททิว,โบว์ สาวิตรี(โบว์ AF), แอน นันทนา, เก่ง ธชย, ส้ม มารี และ กันต์ ชนุตม์ เปิดการแสดงเพียง ๑๐ รอบเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ ๒๐-๒๕ สค. ๒๕๕๘ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำหน่ายบัตรแล้วที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร.๐๒-๒๖๒-๓๔๕๖หรือ www.thaiticketmajor.com