หนังโปรดในความทรงจำที่ผมชอบมาก หาร้านเช่าหนัง CD ดูซ้ำไม่ต่ำกว่า 3-4 รอบ ถึงแม้ว่าจะดูนานแล้วแต่ยังประทับใจไม่เคยเปลี่ยน ที่โดดเด่นคือ Concept น่าสนใจตรงที่มีวัตถุดิบดีอยู่แล้วอย่างการหยิบเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ๆ จากผู้ชมทางบ้านที่ได้มาเล่า On Air ในรายการผีของญี่ปุ่นในอดีต ถูกนำเสนอมาเป็น Series ผ่านฝีมือของผู้กำกับทั้ง 8 คน บางตอนสนุกมาก ๆ บางตอนก็น่าเบื่อไปหน่อยถึงขั้นย่ำแย่ไปเลยก็มี ตาม Paragraph แต่ละตอน แต่ภาพรวมยังคง Service ความบันเทิงด้านฉาก Location จังหวะเทคนิคด้วยการ Jump Scared จนขวัญผวาติดตาผมมาถึงทุกวันนี้ โดยผมจะแยกรีวิวเป็น 8 ตอนสั้น ๆ มีดังนี้ตอนที่ 1 = เปิดเรื่องดีเลย ปูปมต่าง ๆ ไว้น่าสงสัย สนุกกับการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คาดคิดตลอดเวลา ขณะเดียวกันพูดถึงชีวิตคนทำงาน รปภ กะดึกในสถานที่มืด ๆ ท่ามกลางด้วยความโดดเดี่ยวและวังเวง สิ่งดีงามคือ การปรากฎตัวผี กับความหน้าตายของรปภหนุ่มเป็น Main ที่สำคัญของเรื่องทำได้ถูกที่ถูกทาง โผล่มาแบบจังหวะซิทคอมชัด ๆ มีทั้ง Horror และ Comedy ผสมกันไม่ได้ตั้งใจ บทสรุปที่หาทางลงชัดเจน ถือเป็นตอนเปิดตัวได้สวยงามตอนที่ 2 = ค่อนข้างเฉย ๆ มาก กับตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่ Story มีปมน่าสนใจ แต่การจัดวางองค์ประกอบอะไรดูขัดหูขัดตาไปหน่อย ที่เห็นชัดคือ ตระกะความลำไยของ 3 สาวที่ทำตัวไร้สติน่ารำคาญตลอด ที่มาของเรื่องไม่บอกว่ามาจากไหนแล้วมีวิธีการจัดการยังไง ยังดีที่บรรยากาศช่วยบิ๊วท์เล่นอารมณ์ความกลัวกับอะไรไม่รู้ที่มาเล่นงานพวกเขาได้เข้าท่าอยู่ บทสรุปจบแล้วจบเลยปล่อยให้เป็นปริศนาต่อไปตอนที่ 3 = โทนเรื่องแตกต่างจาก 2 ตอนแรกตรงที่ตอนนี้มีความเป็นแนว Drama ผสม Mystery ด้วย มีประเด็นที่จริงจังมากกว่าตรงที่พูดถึงคู่รักข้าวใหม่ปลามันของหนุ่มสาวอ๊อฟฟิศที่เพิ่งรู้จักกันจนย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่ละช่วงมีการพัฒนาความสัมพันธ์ไปทางไหนพร้อมกับปมที่ซ่อนอยู่ของคนค่อย ๆ เผยสัญชาตญาณขึ้นเรื่อย ๆ ฉากสยองไม่น่ากลัวเท่าไหร่ บทสรุปดูลงตัวทุกฝ่ายแต่ไม่ค่อย Make Sense บางจุดเคลียร์ไม่ชัดเจนตอนที่ 4 = เป็นตอนที่สั้นที่สุด งงที่สุด และ Weird สุด ๆ เราหาคำอธิบายอะไรจากตอนนี้ไม่ได้เลย เพราะเส้นเรื่องมันมีแค่นี้ ปมสาเหตุอะไรก็ไม่ทราบ นอกจากดูความบันเทิงจากการปะทะกันระหว่างตัวแม่ VS เขา ? ที่โผล่มาจากไหนกัน แต่หน้าตากวนประสาทในเวลาอันน้อยนิดก็คุ้มแล้วตอนที่ 5 = รับช่วงต่อจากตอนที่แล้วได้ลื่นไหล ส่วนตัวผมเฉย ๆ กับประเด็นใกล้ตัวอย่างมิตรภาพวัยเรียน การร่ำลาส่งท้ายการศึกษาอะไรทำนองนี้ ไม่ใช่ Keywords อะไรแค่บอกผ่าน ๆ เท่านั้น พอเข้าสู่ประเด็นหลักสนุกขึ้นทันที เดินเรื่องไว ไม่เวิ้นเว้อ แต่ยังสงสัยอยู่ดีว่าสิ่งนั้นมาจากไหน แล้วที่ชอบอีกอย่างคือการนำจุดด้อยมาพลิกเป็นจุดเด่นเป็นวิธีที่ฉลาดมาก ฉากนั้นแปปเดียวเป็นอะไรที่ Surprise แถมจบได้สตั๊นหัวใจไป 1 วิตอนที่ 6 = เกริ่นนำน่าสนใจดี เกริ่นนำเรื่องชีวิตวัยเรียนคล้ายกับตอนที่แล้วแต่เจาะ Detail ลงลึกไปอีก มีการใช้มุมกล้องแบบ Handheld อัด VDO ไว้ ภาพจะแพนหน้าสัมภาษณ์แต่ละคนแบบ Found Footage คล้ายสารคดี บรรยากาศมืด ๆ เก่า ๆ แบบ VHS ให้ Feel เขย่าขวัญมาก บางช่วงนึกถึงเรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ บทสรุปที่ดูห้วน ๆ ไป แต่ทำเอาช็อคหัวใจและเหวอติดตามาก ตอนที่ 7 = เป็นตอนที่ผมชอบที่สุด สนุกที่สุด น่ากลัวที่สุด ไม่มี Scene ไหนน่าเบื่อเลย เปิดเรื่องมาก็ทิ้งปมระเบิดแห่งความสงสัยขึ้นมาทันที แม้ตัวบทจะดูธรรมดาไปหน่อย ไม่ค่อยมีปมผูกโยงซับซ้อนอะไรมาก มีจุดสังเกตอยู่เป็นระยะ จุดเด่นคือสามารถไต่ระดับความสยองได้อย่างมีระดับ Location ในห้องอพาร์ทเมนต์สร้างบรรยากาศให้สะพรึงกลัวเล่นกับความอึดอัดของตัวละครเอกได้สุด มีคำถามเต็มไปหมด แต่ไม่พ้นเรื่องความอยากรู้ของคนอยู่ดี จึงนำไปสู่บทสรุปของปมที่พีคแล้วพีคอีกตอนที่ 8 = ตอนที่เป็นความหวังเดียวของหมู่บ้านแต่กลับน่าผิดหวังที่สุด เป็น Part ที่มีแต่ความ Drama แม่ลูกล้วน ๆ ไม่มีฉากให้ลุ้นระทึกใด ๆ แถมไม่น่ากลัวอะไรเลย อย่างมากก็แค่บิ๊วท์ให้บรรยากาศพอหลอน ๆ ไปงั้น ๆ ไม่รู้สึกอินในความสัมพันธ์ทั้งคู่แม้แต่น้อย Sound ประกอบชวนน้ำเน่าได้อีกเหมือนนั่งดู ธรณีกรรแสงเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ปมก็บางเบามีแต่ฉากสนทนาพร่ำเพรื่อตัวแม่ที่มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ แต่ยังดีที่บทสรุปเคลียร์ได้ชัดเจนภาพรวมสนุกมาก แม้มีเวลาแค่ 1 ชั่วโมง 32 นาทีแต่ผ่านไปรวดเร็ว เดินเรื่องชวนติดตาม แต่ละตอนมี Dialogue ที่แตกต่างกันแต่สามารถรับส่งไม้ต่อจากตอนหนึ่งสู่อีกตอนได้สวยงาม แต่ผมเสียดายตอนสุดท้ายมากที่สุด คิดว่าน่าจะเป็นตอนที่สามารถสรุป Concept ทั้งหมด แต่ปรากฎว่าผิดหวังมาก ถ้าไปใส่กลางเรื่องคั่นกลางซัดหน่อย พอได้ปรับจังหวะ Emotions ให้เข้าที่เข้าทางบ้าง แต่นี้เล่นเอาตอนที่สนุกมาฉายต่อแถวเรียงกันแล้วพอมาถึงตอนสุดท้ายที่ทำได้ไม่เท่าตอนก่อนหน้านี้มันเลยดู Fail ไปอย่างมาก ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share รีวิวของผม EMCONCEPT และ หนังที่รีวิวใน Facebook ชื่อ EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไปกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับขอขอบคุณภาพประกอบโดย :Pixabay / JordyMeow = ภาพประกอบหน้าปกPixabay / Engin_Akyurt = ภาพประกอบที่ 1Pexels / Tomáš Malík = ภาพประกอบที่ 2Pexels / Joanne Adela Low = ภาพประกอบที่ 3Pexels / Mitja Juraja = ภาพประกอบที่ 4Pexels / Sam Pineda = ภาพประกอบที่ 5Pexels / Elīna Arāja = ภาพประกอบที่ 6Pexels / Aleksandar Pasaric = ภาพประกอบที่ 7เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !