รีเซต

5 สถานที่ท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ ตามรอยละคร เพลิงฉิมพลี

5 สถานที่ท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ  ตามรอยละคร เพลิงฉิมพลี
21 ตุลาคม 2557 ( 17:28 )
32.1K

 

          นั่งดูละครเพลิงฉิมพลีอยู่เพลินๆ มองกล้ามพระเอกจนน้ำลายหก แต่ต้องหยุดสงสัยว่าบางฉากนี้ ถ่ายทำตรงไหนของประเทศไทย ทั้งฉากปางไม้ของพระเอกมันจะมีอยู่จริงมั้ย แสงธรรมชาติที่ลอดผ่านเงาไม้ตลอดทั้งเรื่องก็ทำให้ยิ่งสงสัยว่าฉากเหล่านั้นอยู่ที่ไหนกัน ล่าสุดพระเอกนางเอกพลอดรักกันกลางน้ำตกที่แสงกระทบน้ำเป็นสีเขียวมรกต ทำให้อยากจะเอาตัวเองแช่ลงน้ำไปบ้าง วันนี้เลยต้องมาไขข้อสงสัยถึงฉากสวยๆ ต่างๆ ในละครเรื่องนี้กัน

 
 

          1.ปางช้างแม่สา จังหวัด เชียงใหม่ ถือเป็นฉากหลักของเรื่อง ที่พูดถึงปางไม้ที่พระเอกเป็นเจ้าของ และเป็นที่อยู่ของเนื้อนาง นางเอกของเรื่อง โดยปางช้างแม่สา ก่อตั้งขึ้นในพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ติดกับลำน้ำแม่สาในเขตหุบเขาแม่สาเมื่อปี พ.ศ. 2519 โดยเจ้าของได้ซื้อช้างจากที่ต่างๆ มาเพื่อทำการฝึกและพัฒนาทักษะต่างๆ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ความสามารถของช้างเหล่านี้ให้แก่นักท่องเที่ยวผู้ที่หลงเสน่ห์ในความน่ารักของช้าง และหวังว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะเกิดความรักและตระหนักในคุณค่าของช้างไทย

           ปางช้างแม่สา ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่มากนัก ใช้เวลาขับรถจากตัวเมืองมาถึงปางช้าง ภายในเวลาประมาณ 20 นาที โดยสามารถสัมผัสได้กับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ของสอง ข้างทางไปจนถึงปางช้างแม่สา จากประสบการณ์ที่มากกว่า 30 ปี และ จำนวนช้างที่มีกว่า70 เชือกที่อยู่ภายใต้การเลี้ยงดู อย่างดี

 

          2. ปางช้างไทรโยค จังหวัด กาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งฉากที่ถ่ายบางมุมของปางไม้ในเรื่อง พระเอกนางเอกยังคงเดินหมุนเวียนงอนง้อกัน โดย ปางช้างไทรโยค เปิดบริการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่พ . ศ 2539 โดยมีผู้ก่อตั้งเป็นลูกหลานตระกูลช้างโดยกำเนิดด้วยความรักความเข้าใจความผูกพันในวิถีการดำรงชีวิตของช้าง สถานที่ที่ร่มรื่นมีลำธารให้ช้างได้อาบได้ดื่มได้เล่นอย่างมีความสุขมีป่าที่ร่มรื่นให้ร่มเงาและความอุดมสมบูรณ์ช้างจึงมีความเป็นอยู่ที่ดีมีความสุขผสมพันธ์กันและให้ผลผลิต ดีมีการเพิ่มจำนวนช้างน้อยขึ้นเรื่อย ๆ

           ปางช้างไทรโยคอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีตามเส้นทางกาญจนบุรี – ไทรโยค เส้นทาง 323 ประมาณ 50 กม . มีช้างนักท่องเที่ยวไว้บริการ 50 เชือก จึงเพียงพอต่อการบริการนักท่องเที่ยวทีนี่อยู่ใกล้ป่าใกล้น้ำมีภูเขาเหมาะสมสำหรับช้างและอยู่ใกล้ตลาดใกล้แหล่งชุมชนใกล้สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สถาน ที่ราชการจึงสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวยิ่งนัก

 
 

          3. น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่เป็นฉากที่พระเอกสุดล่ำ กับนางเอกลงเล่นน้ำด้วยกันตอนล่าสุด แถมยังแอบไปจูบกันที่ใต้น้ำตก ยอมรับเลยว่าต้องจิกหมอนเขิลอายเหมือนโดนจูบเอง บรรยากาศที่สวยงามของน้ำตกทำให้เพิ่มความโรแมนติกเป็นพันเท่า ต้องขอไปย้อนรอยแช่น้ำที่น้ำตกเอราวัณสักหน่อย

 

            โดยที่นี่เป็นน้ำตกที่มีระยะทางยาวประมาณ 1,500 เมตรติดต่อกัน ซึ่งแบ่งออกเป็นชั้นๆ ได้ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ซึ่งในชั้นที่ 7 อันเป็นชั้นบนสุดของน้ำตก ลักษณะของสายน้ำที่ไหลบ่า มองดูคล้ายกับหัวช้างเอราวัณซึ่งมี 3 หัว จึงกลายมาเป็นที่มาของชื่อ “น้ำตกเอราวัณ” การเข้าชมต้องเสียค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท


          4. น้ำตกกระทิง จังหวัดจันทบุรี ฉากที่พระรองอย่างแสนคำ ตัดสินใจปล้ำ เนื้อนาง และมีปากเสียงกันในฉากนี้ แอบซ่อนสถานที่ท่องเที่ยง ที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาคิชฌกูฏ คือ น้ำตกกระทิง ฉากคุ้นตาคือ ฉากที่มีสะพานไม้ทอดยาว ที่มีไว้ให้เดินชมวิวนั้น เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวแนวรักธรรมชาติเป็นอย่างดี โดยน้ำตกที่นี่ มีขนาดใหญ่และมีถึง 13 ชั้น ซึ่งล้วนมีความงามแตกต่างกัน เล่นน้ำได้ แต่ละชั้นห่างกันราว 20 เมตร ในระหว่างทางจะผ่านป่าไผ่และพันธุ์ไม้หลากชนิด บางชั้นมีพืชจำพวกมอส เฟิร์น ขึ้นปกคลุมเต็มทั้งสองข้างทาง ชั้นน้ำตกที่สวยงามที่สุด คือ ชั้นที่ 8 และชั้นที่ 9 ที่มีชื่อว่าผากระทิง มีน้ำตกจากผาสูงประมาณ 100 เมตร ทางขึ้นน้ำตกแต่ละชั้นมีสภาพชันลำธารดูเขียวชอุ่ม เมื่อต้นไม้ผลัดใบใบไม้สีเหลืองแกมแดงจะโรยใบปูทางเดินสวยงามยิ่ง การเข้าชมต้องเสียค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

 
 
 

           5. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี คุณผู้ชมลองนึกถึงระเบียงไม้ที่ยื่นออกจากผา ที่พระเอกและนางเอกของเรา ชอบมาแอบคุยกันบ่อยๆ ฉากนี้อยู่บริเวณที่เรียกว่า เนินเสาธง ที่ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 114

           โดย เนินเสาธง เป็นพื้นที่ยอดเขาที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหภาพพม่า โดยที่ทางการทหารไทยได้จัดตั้งเสาธงพร้อมติดธงชาติไทยขนาดใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพื้นที่นี้เป็นจุดพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหภาพพม่า ทางการทหารไทยจึงได้ให้ชื่อพื้นที่แห่งนี้ว่า “เนินเสาธง” และได้อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าเที่ยวชมได้ โดยมีกำลังของทหารไทย และกองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนของไทยรักความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเราอยู่บนเนินเสาธงนี้แล้ว เราจะได้พบกับบรรยากาศเย็นสบาย อากาศสดชื่นแสนบริสุทธิ์สามารถมองลงเห็นทิวทัศน์ได้รอบตัวเรา ทั้งทิวทัศน์ที่สวยงามในประเทศไทยและทิวทัศน์ในประเทศสหภาพพม่า และเมื่อวันใดท้องฟ้าเปิดเราก็จะได้เห็นท้องทะเลอันดามันได้อีกด้วย

 

           ต้องยอมรับถึงความใส่ใจในรายละเอียดของทีมงานและผู้จัด เพื่อความสมจริงของแต่ละฉากจึงเดินทางขนของขึ้นเขาลงห้วยไปหลายๆ จังหวัด เพื่อหาโลเคชั่นที่สวยงามมาให้เราชม ยังคงมีสถานที่สวยๆ อีกหลายที่ ที่ใช้ในละครเรื่องแต่เราขอยกตัวอย่าง5 สถานที่ ที่ติดตาคุณผู้ชมมาให้ตามรอยกัน

 


ขอบคุณเนื้อหาจาก

http://www.maesaelephantcamp.com/ http://www.elephantpark.com/pang_chang.php http://travel.truelife.com/detail/2799668 http://firefliesfreedom.blogspot.com/2013/06/blog-post.html http://dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp

ขอบคุณรูปประกอบจากเปาจินจง และอินสตาแกรม esiotrot


 

ชมทีวีออนไลน์ช่อง 3 แบบสดๆ ได้ที่นี่
ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง
     Facebook.com/TVSociety