เจมส์ วาน เผยซีนของ แอมเบอร์ เฮิร์ด ใน "Aquaman 2" ถูกลดบทบาท เพราะหนังเปลี่ยนแนวทาง
ดูเหมือนว่าภาคต่อ ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ หนังเรื่องสุดท้ายของยุค DCEU ก่อนรีเซ็ตจักรวาลไปสู่ DCU ดูจะตกในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงมากกว่า จากการที่หนึ่งในนักแสดงอย่าง แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) แพ้คดีฟ้องร้องหมิ่นประมาทกับอดีตสามี จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) จนทำให้แฟนหนังต่างออกมาแอนตี้ และทำให้หนังเรื่องนี้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านรายได้แบบเดียวกับ ‘The Flash’ ที่เกิดปัญหาด้านภาพลักษณ์จากนักแสดงนำเช่นเดียวกัน
ล่าสุด ผู้กำกับหนังเรื่องนี้อย่าง เจมส์ วาน (James Wan) ได้ใหัสัมภาษณ์ Exclusive กับเว็บไซต์ Entertainment Weekly โดยเขาได้พูดถึงบทบาทการแสดงของเฮิร์ด ผู้รับบทเป็น เมรา (Mera) ราชินีแห่งแอดแลนติส และภรรยาของ Aquaman ที่หลายคนยังสงสัยอยู่ว่าเธอจะได้ปรากฏในหนังมากน้อยแค่ไหน และได้มีการลดบทบาทของเธอจริง ๆ อย่างที่เฮิร์ดได้ให้การกับชั้นศาลในระหว่างพิจารณาคดีว่า ตนเองถูกลดบทบาทลงอย่างชัดเจน
ซึ่งวานได้ออกมายืนยันชัดเจนว่า บทบาทของเฮิร์ดนั้นไม่ได้ถูกลดลงแต่อย่างใด แต่บทบาทของเฮิร์ดนั้นไม่ได้มีความสำคัญในภาคนี้ ในฐานะตัวละครหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อเนื่้อเรื่องมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ด้วยเพราะแนวทางของเรื่องที่เปลี่ยนไปและแตกต่างจากภาคแรก ทำให้ภาคนี้ Mera จึงน่าจะปรากฏในฐานะตัวละครสมทบมากกว่า
“ผมมักจะเล่าเรื่องนี้ให้ทุก ๆ คนฟังมาตั้งแต่แรกแล้วครับ ใน ‘Aquaman’ ภาคแรกเป็นเรื่องราวของ อาร์เธอร์ เคอร์รี (Arthur Curry) และเมรา ส่วนภาค 2 นี้ จะเป็นเรื่องราวของอาเธอร์ กับออร์ม (Orm) เป็นหลัก ในภาคแรกจึงเป็นเรื่องราวแนวแอ็กชันผจญภัยผสมโรแมนติก ส่วนภาค 2 จะเป็นหนังคู่หูแอ็กชันผจญภัยแนวโบรมานซ์ (Bromance) ซึ่งเราไม่ได้ไปเปลี่ยนอะไร”
หลังจากที่ในปี 2018 เฮิร์ดได้เขียนบทความเกี่ยวกับความรุนแรงของอดีตสามี ทำให้อดีตสามีได้ดำเนินการฟ้องกลับ จนมีข้อตัดสินให้เฮิร์ดแพ้คดีใน 2 ประเด็น ซึ่งในเวลานั้นได้มีการเรียกร้องให้ถอดเฮิร์ดและเปลี่ยนนักแสดงคนใหม่ ทำให้มีข่าวลือว่าเฮิร์ดอาจถูกตัดออกจากหนังเหลือรวมเพียง 10 นาที บ้างมีข่าวลือว่า บทของเฮิร์ดถูกตัดออกไปจนเกลี้ยง
ในการพิจารณาคดีครั้งหนึ่ง วอลเตอร์ ฮามาดะ (Walter Hamada) อดีตประธานของดีซี ฟิล์ม (DC Films) ได้ให้การในฐานะพยาน โดยได้เผยสาเหตุที่เฮิร์ดถูกลดบทบาทลงใน ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ นั้นเป็นเพราะว่าเคมีนักแสดงของเธอนั้นไม่เข้ากันกับนักแสดงเจ้าของบท Aquaman อย่าง เจสัน โมโมอา (Jason Momoa)
และตั้งใจให้หนังภาคนี้เป็นแนวคู่หูระหว่าง อาเธอร์ เคอร์รี (Arthur Curry) หรือ Aquaman ผู้ครองนครใต้สมุทร เป็นหัวหน้าครอบครัวบนบก และ Orm (แพทริค วิลสัน – Patrick Wilson)) น้องชายต่างมารดา ที่ต้องรับมือกับวายร้าย แบล็กแมนตา (Black Manta) (ยาห์ยา อับดุล-มาทีน ที่ 2 – Yahya Abdul-Mateen II) ที่หวังจะแก้แค้น Aquaman และทำลายอาณาจักรใต้สมุทรให้สิ้นซาก โดยที่ไม่ได้มี Mera เป็นตัวละครหลัก
ส่วนเฮิร์ดเองได้ให้การในชั้นศาลโดยเผยว่า “พวกเขาเหมือนกำลังจะปลดฉันออกจากหนัง ฉันต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้ได้อยู่ในหนังเรื่องนี้ พวกเขาไม่ต้องการให้ฉันอยู่ในหนัง ฉันได้รับบทภาพยนตร์มาแล้ว หลังจากนั้นฉันก็ได้บทเวอร์ชันใหม่ ที่มีฉากแอ็กชันที่ฉัน และตัวละครอีกตัวที่เปิดเผยไม่ได้ เพื่อไม่ให้เป็นการสปอยล์หนัง กำลังต่อสู้กัน โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาตัดบทบาทของฉันไปเยอะมาก เอาออกไปแบบทั้งยวง”
กว่าจะถึงวันที่ 21 ธันวาคม ตามกำหนดฉายของหนังเรื่องนี้ น่าจะได้เห็นกันอย่างชัดเจนว่า บทบาท Mera ของเฮิร์ดนั้นจะปรากฏตัวอยู่ในหนังรวมกี่นาที และมีบทบาทสำคัญต่อเนื้อเรื่องอย่างไร รวมทั้งพฤติกรรมของเฮิร์ด จะมีผลต่อรายได้ Box Office หลังฉายมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าหากดูจากตัวอย่างใหม่หนัง เราจะได้เห็น Mera 3 ช็อต เช่น ในฉากนั่งปิกนิกที่บ้านของ อาเธอร์ เคอร์รี ฉากที่บ้านของเคอร์รีถูกไฟไหม้ และฉากที่ Mera ทุบทำลายยานใต้น้ำของ Black Manta ซึ่งทั้งหมดมี Mera แบบแวบ ๆ เพียงเสี้ยววินาที
ที่มา: Entertainment Weekly, Comicbook, Cosmicbook