รีวิวหนัง "Subservience เอไอร้อนรัก" กับบทบาทที่ดีที่สุดของ เมแกน ฟ็อกซ์ (นี่คือคำชม)

เอาเป็นว่าถ้าคุณยังไม่เบื่อหน่ายกับหนังระทึกขวัญเกี่ยวกับเอไอ (ปะปนความหวาบหวิวมาด้วย) กับเป็นแฟนคลับตัวยงของดาราสาวสุดเซ็กซี่ไม่เจือจาง "เมแกน ฟ็อกซ์" ก็คิดว่า "Subservience เอไอร้อนรัก" หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยสนองความปรารถนาของคุณได้ในระดับหนึ่ง เพราะนี่คือคอนเทนท์ระทึกใจและพยายามรุกล้ำเข้าสู่ห้วงหัวใจระหว่างมนุษย์กับหุ่นปัญญาประดิษฐ์

Subservience เอไอร้อนรัก เป็นเรื่องราวของ นิค หัวหน้าครอบครัวที่ที่กำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะภรรยาของเขานอนป่วยรอรับบริจาคหัวใจดวงใหม่อยู่ ทำให้เขาตัดสินใจซื่้อหุ่นยนต์แม่บ้านมาช่วยดูแลเรื่องต่าง ๆ ในบ้าน โดยที่ไม่รู้เลยว่าหุ่นเอไอตัวนี้เริ่มที่จะรับรู้การมีอยู่ของตนเอง พร้อมกับถลำลึกเกินความสัมพันธ์สู่อันตราย จนกลายมาเป็นศัตรูกับทุก ๆ คนในครอบครัว

นี่ก็คือผลงานใหม่ของผู้กำกับ "เอส.เค. เดล" ที่หวนกลับมาร่วมงานกับ เมแกน ฟ็อกซ์ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่งานในหนังเรื่องแรกของเขา อย่าง Till Death ที่ฉายเมื่อช่วงโควิดที่ผ่านมา แน่นอนว่าผู้กำกับและนักแสดงนำก็น่าจะเข้ารูปเข้ารอยในการทำงานเป็นอย่างดี เพียงแต่ทว่าใน Subservience กลับเป็นหนังที่หาความสดใหม่ไม่ได้เลย ยังพาผู้ชมวนเวียนอยู่กับพล็อตซ้ำ ๆ กับความพยายามปลุกพลังตัณหาที่ใช้เสน่ห์ของนักแสดงมาเย้ายวนเบา ๆ ก็แค่นั้น

แต่อย่างน้อย ๆ ก็ต้องชมว่างานโปรดักชันดีไซน์ของเรื่องนี้ทำออกมาใช้ได้ดีเดียว คุ้มค่าคุ้มงบประมาณที่ลงทุนไป แม้ว่าจะมีวน ๆ อยู่แค่ไม่กี่ฉากก็ตาม แต่พวกเขาก็ดีไซน์ออกมาดูล้ำสมัยและเหมาะเจาะกับการสะท้อนสังคมยุคเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้ค่อนข้างตอบโจทย์ดี อาจจะมีจุดบกพร่องประปรายอยู่เยอะแยะระหว่างทางบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ข้อด้อยที่บั่นทอนคุณภาพของตัวหนังลงไป

Subservience เป็นฝีมือการเขียนบทหนังโดย "วิล ฮอนลีย์" ที่เคยไปได้สวยในหนังภาคต่อ Escape Room 2 แน่นอนว่าเขายังคงใส่มาตรฐานความระทึกขวัญเข้ามาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ แต่กิมมิกและรายละเอียดต่าง ๆ ที่นำใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้นั้นก็แทบจะไม่มีอะไรที่ชวนถวิลหาเลยสักนิด เพราะพล็อตทุกอย่างช่างง่ายดาย เหมือนจะมีลูกเล่นแต่ก็เล่นไม่ออก จึงเป็นหนังชั่วโมงเศษ ๆ ที่ค่อนข้างแห้งเหือดและไม่มีอะไรให้น่าจดจำนัก

และการแสดงของ เมแกน ฟ็อกซ์ ที่ต้องบอกตรง ๆ ว่าคำพาดหัวที่โปรยเอาไว้นั้น เป็นคำชมจริง ๆ เพราะถือว่าบทบาทนี้เข้าทางสาวผู้นี้ได้เป็นอย่างดี จะหาใครมาเล่นบทหุ่นยนต์เอไอได้เหมาะเจาะกว่าสาวเมแกนได้อีก ด้วยธรรมชาติของเมแกนที่พักหลัง ๆ แทบจะถ่ายทอดคาแรกเตอร์ตัวละครในผลงานอื่น ๆ ของตัวเองไม่ค่อยได้เลย เมื่อต้องมาเป็นหุ่นทื่อ ๆ แบบนี้ มันดันกลายเป็นงานแสดงที่ฟิตกับตัวเธอดียิ่งนัก และเธอก็ทำออกมาได้ชวนขนลุกขนพอง ถือว่าเป็นการหยิบเอาจุดบอดมาเป็นจุดเด่นทางการแสดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางด้าน "มิคาเอล มอร์โรเน" พ่อเทพบุตรอิตาเลียนหุ่นน่าฟัดของสาว ๆ ทั่วโลก ที่พยายามลบล้างภาพความเซ็กซี่ติดตาจากผลงานหนังอีโรติกไตรภาคที่แจ้งเกิดให้กับเขา มาในหนังเรื่องนี้มีซีนและมีบทเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นหน่อย แต่ก็ยังไม่ใช่บทบาทที่ดีมากนัก แต่อย่างน้อย ๆ ก็เห็นลำดับพัฒนาการทางการแสดงของเขาเพิ่มขึ้น แม้ว่ามันจะหนีไม่พ้นการเซอร์วิสแฟน ๆ ที่บอกตามตรง บั้นท้ายเปลือยฉ่ำ ๆ ของเขาในหนัง มันแทบไม่กระตุ้นให้รู้สึกเร้าใจอีกต่อไปแล้ว

สรุปในท้ายที่สุด Subservience เอไอร้อนรัก ก็เป็นแค่เพียงความระทึกขวัญแบบซ้ำซากจำเจดี ๆ เรื่องหนึ่ง ขายพล็อตเขย่าขวัญที่มีระบบเอไอที่คาดเดาไม่ได้เป็นโครงเรื่องหลัก ที่ช่างเป็นพล็อตที่มีอยู่เกลื่อนตลาดในเวลานี้ เป็นหนังที่ไร้ความสดใหม่ ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ ปั่นอารมณ์และห้วงความระทึกแบบผิวเผินยังไม่สุด แต่โชคดีที่มี เมแกน ฟ็อกซ์ มารับบทเป็นหุ่นยนต์เอไอ ที่นับว่าเป็นการใช้จุดด้อยเป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ได้อย่าวปังปั๊วะในระดับหนึ่งอยู่ (ถือว่าเป็นคำชมนะ)