รีเซต

"นก จริยา" เล่าเหตุการณ์ถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนแพนิกกำเริบ!

"นก จริยา" เล่าเหตุการณ์ถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนแพนิกกำเริบ!
EntertainmentReport2
25 ตุลาคม 2565 ( 19:10 )
306

นักแสดงมากความสามารถ "นก จริยา" เปิดใจที่แรกหลังโพสต์ลงอินสตราแกรมเล่าเหตุการณ์ถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนโรคแพนิกที่เคยดีขึ้นแล้วกลับมาแย่ลง แต่ในสถานการณ์ไม่ดีก็ยังได้เจอคนดีที่เข้ามาช่วย พร้อมเล่าสาเหตุที่เกิดโรคแพนิกและอาการ ทุกวันนี้ขอใช้ชีวิตให้มีความสุข แถมยังลงรูปชุดว่ายน้ำถี่ๆ แบบนี้คุณสามีว่ายังไงบ้าง? และเรื่องการเมืองของสามีไม่เห็นด้วยแต่ไม่ห้าม ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

"นก จริยา" เล่าเหตุการณ์ถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนแพนิกกำเริบ!

มีเรื่องเกิดขึ้นบนเครื่องบิน?
นก : ก่อนที่พี่จะตัดสินใจโพสต์ คือผ่านเหตุการณ์มาแล้ว 2 เดือน พอพี่มาประมวลแล้วเรารู้สึกว่าไม่ได้เป็นคนที่มีอะไรแล้วลงโซเชียลปั๊บเราเล่าไม่ได้เก่ง พอผ่านมา 2 เดือนพี่มีความรู้สึกว่าที่เราเจอมามันมีมุมดี เราได้เจอคนที่เค้าดีมาก ๆ น่ารักมาก ๆ ณ วันนั้นยังไม่รู้สึกว่าขอบคุณเค้ามากพอ อีกอย่างนึงประสบการณ์ไม่ดีในวันนั้นที่เกิดขึ้นกับเรา เรามารู้ว่าผู้หญิงเจอแบบนี้บนเครื่องเยอะนะคะ เรารู้สึกว่ามันควรมีอะไรที่ดูแลกันมากกว่านั้นเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องผู้หญิงผู้ชายก็แล้วแต่หรือเดินทางคลาสไหนก็แล้วแต่ ทุกคนต้องได้รับความปลอดภัย

 

"นก จริยา" เล่าเหตุการณ์ถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนแพนิกกำเริบ!

เกิดอะไรขึ้น?
นก : มันเป็นช่วงที่โควิดซาใหม่ ๆ เราเริ่มเดินทางกันได้ออกนอกประเทศ ลูกสาวอยากไปทำธุระเราอยากไปพักด้วยที่อังกฤษ เราก็จองตั๋วกันไป คิดว่าปลอดภัยเพราะเราใส่แมส 2 ชั้นตอนเดินทาง วันนั้นไปสายการบินที่ไม่ค่อยคุ้นเคยก็ไม่ค่อยรู้อะไร เก้าอี้ค่อนข้างมีระยะและค่อนข้างส่วนตัว ภาวะการบินที่ไม่ปกติเกิดขึ้นได้อย่างดีเลย์เราเข้าใจ แต่มีผู้โดยสารที่ต้องนั่งติด 3 ท่าน มีพี่ ลูกสาว และผู้โดยสารอีกท่านเป็นชาวตางชาติ เราก็มองว่าลูกนั่งตรงนั้นเพราะมันก็มีระยะ เค้าใส่เฝือกที่มือใส่เฝือกที่ขา เรายังสะกิดบอกกับลูกวาสงสารเค้าจังเลยเนอะ เราก็นั่งของเรากันไปไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พอนั่งไปสักพักเครื่องออกลูกสาวก็ทำหน้าตกใจแล้วบอกว่า มี๊เค้าเกาต้นแขนหนูอ่ะ เราก็ตกใจชะโงกไปดูกับลูกเหมือนเค้ากึ่งหลับกึ่งตื่น เราบอกเค้าละเมอมั้งลูก อาจไม่ได้ตั้งใจ เรายังมองในแง่ดี นั่งไปอีกสักพัก ลูกบอกว่ามี๊้มือเค้าไหลมาข้างหนูบ่อยมากเลย ไม่ดีละ เราก็ยังคิดว่าเค้าไม่ตั้งใจ เราก็คิดว่าไปบอกพนักงานสายการบินกันมั้ยให้เค้าเปลี่ยนที่หรือว่าดูแลเรามากขึ้น เพราะเรารู้สึกไม่สบายใจ เราก็เดินไปบอกพนักงานสายการบิน แต่พี่คงโชคไม่ดีไปเจอคนที่จัดการไม่ดี เค้าเป็นแอร์ผู้หญิง เรารู้สึกว่ามีความปลอดภัยที่จะบอกผู้หญิงด้วยกัน ให้เค้าช่วยเดินไปดูหน่อยผู้โดยสารที่นั่งข้าง ๆ ลูกสาวเค้ามีมือเลยมาเกาหรือไม่ตั้งใจก็ไม่รู้ เค้าก็ไม่ท่าแบบไม่ว่างมาก เค้าต้องไปถามฟังความข้างเดียวไม่ได้ เราก็โอเคถ้าเค้าจะไปถามซอฟๆ เค้าก็ให้ลูกสาวเดินตามไปแล้วก็ไปถามผู้โดยสารที่เกาแขน คนนั้นเค้าก็โวยขึ้นมาเลย เค้าไม่สนใจหรอก เค้าแต่งงานแล้วเห็นมั้ย มันกลายเป็นสถานการณ์มันแย่ขึ้นไปอีก เพราะไม่มีที่ให้พี่เปลี่ยนได้ไฟล์ทเต็มจริงๆ  แต่เราต้องการการดูแลจากเค้า แต่การดูแลจากเค้าและวิธีแก้ปัญหากลายเป็นว่าไปทำให้ผู้โดยสารคนนั้นโวยมาใส่พี่กับลูกสาวใหญ่เลย แอร์เลยบอกว่าคุณต้องนั่งที่เดิม เราก็โกรธไงสถานการณ์มันแย่ลง พี่เลยสลับที่กับลูกสาวเรานั่งกลางเอง ต้องนั่งอีกเกือบ 10 ชั่วโมง

สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?
นก : พี่เริ่มตกใจละ เพราะว่าพี่มีภาวะแพนิกอยู่ด้วย กำลังรักษาอยู่ แต่ว่ามันดีขึ้นแล้ว ณ วันนั้นเราเริ่มตกใจละก็กังวลเยอะ แต่เราจะไม่ยอมกินยา แต่มีความรู้สึกว่ายามันทำให้ง่วง พี่ก็ไม่รู้สถานการณ์อีตาคนนี้ยังไง ก็เลยฝืนไม่กินยา

หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีกมั้ย?
นก : เค้าก็ดื่มเครื่องดื่มไปเรื่อย ๆ เลย เค้าก็หันมาสบถใส่เรา เราก็บอกพอหยุด ต่างคนต่างนั่งไป เราสองคนแม่ลูกโกรธการจัดการที่มันแย่มาก น้ำตาไหลอะ มันไม่ควรเกิดขึ้น

โกรธถึงขั้นอาการกำเริบหายใจไม่ออก?
นก : พี่เริ่มมีการแพนิกตีกลับ แต่ไม่ยอมกินยาอยู่ดี กลัวแพ้มัน เกิดมันลุกขึ้นมา

สุดท้ายมีคนมาช่วย?
นก : ก่อนมีคนมาช่วยมันพีคขนาดที่เค้าปัดแก้ววิสกี้ราดพี่หมดเลย เค้านั่งสบถไปเรื่อย ๆ เราบอกพอ ๆ พยายามยุติทุกอย่างแล้ว เพราะมันแก้ไขปัญหาไม่ได้ เค้าก็กินไปเรื่อย ๆ พูดโน่นพูดนี่ไปเรื่อยก็คงหมั่นไส้ แล้วทำเป็นปัด เราดูรู้เค้าไม่ได้ง่วงหรืออะไร ปัดใส่พี่ราดเต็มกางเกงเลย พี่ก็แบบอะไรเนี่ย เราก็ลุกขึ้นไปกับลูกสาวไปเรียกหัวหน้าที่อยู่ไฟล์ทนี้มาพี่ไม่ไหวแล้ว เห็นมั้ยว่าพี่เปียก เค้าก็มากันเลยทุกคน มาแค่พูดขอโทษ เราก็บอกว่าไม่นั่งแล้วตรงที่นั้นมันไม่ปลอดภัยจะทำยังไงให้ดูแลเราได้มากกว่านี้ ควรแก้ไขด้วยวิธีให้เรารู้สึกปลอดภัยด้วย

สุดท้ายมีผู้โดยสารเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย?
นก : แทนที่จะเป็นการแก้ไขจากสายการบิน กลายเป็นผู้โดยสารที่นั่งถัดจากพี่ไป 2 แถว เค้าเดินมาบอกว่าถ้าต้องการเปลี่ยนที่บอกผมนะครับ ผมยินดี พี่แบบขอบคุณมาก แต่เราก็เกรงใจเค้าเพราะที่นั่งเราเปียกวิสกี้หมดเลย เค้าก็พยายามเดินมาบอกว่าไม่เป็นไร เราก็รับความช่วยเหลือจากเค้า เค้ามากับครอบครัว คุณแม่ แล้วก็ภรรยาเค้า เค้าย้ายไปนั่งของพี่ 2 ที่ โดยที่เราก็ไม่หลับอีกเลย นั่งจ้องอย่างเดียวเมื่อไหร่จะถึง เครียดมาก พอเจ้าหน้าที่สายการบินรู้เรื่องแล้วก็เดินมาดูบ่อยขึ้น

คนที่มาช่วยชาติไหน?
นก : คนลาว ตอนแรกพี่คิดว่าเป็นคนไทย น่ารักมาก ๆ เลย เดินเข้ามาผมยินดีนะครับ ผมมีลูกสาวผมเข้าใจ แล้วมันไม่ควรเกิดขึ้น

อยากบอกอะไร?
นก : รู้สึกว่าสิ่งที่ขอบคุณไปวันนั้น ยังไม่ได้รู้สึกว่าขอบคุณเท่าที่เราอยากจะขอบคุณเลย เราเลยตัดสินใจมาลงโซเชียลอีกครั้งนึง เพราะรู้สึกว่าการพูดถึงคนดีมันไม่ใช่สิ่งที่ผิดพี่อยากขอบคุณ เพื่อคำขอบคุณไปถึงเค้าได้อีกเราเลยตัดสินใจลงไอจีในวันนั้น ถ้าไม่ได้เค้าอาการแพนิกคงกลับมาแย่กว่าเดิมเยอะ พี่ยังทำเรื่องราวกับสายการบินต่อเราไม่ได้ปล่อยผ่าน อย่างน้อยๆจะได้กระตุ้น เผื่อระวัง ให้มันดีขึ้นได้บ้างพี่ว่ามันไม่ควรเงียบ

ลูกสาวเป็นยังไงบ้าง?
นก : เค้าโกรธมากน้ำตาไหล เค้าเป็นห่วงแม่ด้วย อยู่ดี ๆ มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราก็ยังมองเค้าในแง่ดี

อาการแพนิกเป็นมานานหรือยัง?
นก : เป็นในช่วง 2-3 ปีที่ทุกคนโดนภาวะโควิด พี่งงตัวเองมากเลย เราเป็นคนทำงาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคนแข็งแรงมาตลอด เราจะไม่เคยรู้จักเลยแพนิกคืออะไร แต่ช่วงที่เป็นมันมีภาวะของการทำงานไม่ได้ ต้องหยุดงาน ชีวิตลูกน้องครอบครัวลูกน้อง เราเก็บทุกภาวะความเครียด ทุกข่าว เป็นช่วงที่คุณพ่อของพี่ไม่สบาย 
หมอก็ต้องไปดูแลคนไข้โควิดมากกว่า โรงพยาบาลไม่สามารถไปได้ มันเลยทำให้การรักษายากลำบาก ทำให้เราเครียด ห่วงพ่อ ห่วงงาน ห่วงลูกน้อง มันคงเป็นมวลรวมของคนที่เจอในช่วงนั้น

แพนิกเกิดขึ้นได้เพราะความกังวล?
นก : ใช่ค่ะ มันเป็นโรคของความวิตกกังวล เราคงเครียดไม่รู้ตัว สิ่งที่เพิ่งมารู้มาเห็นคือคนที่เป็นแพนิกมักคิดว่าตัวเองแข็งแรง เก็บโน่นเก็บนี่ไว้เอยะๆโดยที่ไม่รู้ตัว มันเป็นสิ่งเคมีในร่างกาย ภาวะทางอารมณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ แต่คิดว่ามันมาจากความเครียด

เจอเหตุการณ์รถชน เกี่ยวโยงกันมั้ย?
นก : มันกระตุ้นอาการออกมา เป็นคนชอบขับรถเอง ไปได้เองโดยไม่ต้องรอใคร มีช่วงละครถ่ายต่างจังหวัด คงเหนื่อยเครียด จากภาวะที่เล่า วันนั้นก็ดื้อขับรถไปเองตอนกลางคืนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องขับรถแต่เช้า ไปตอนเที่ยงคืน อยู่ดีๆเกิดอาการหลับใน เห็นอีกทีเป็นท้ายรถบรรทุก เราตกใจเลยชะลอเข้าข้างทาง เราบอกตัวเองว่าเราง่วงตบหน้าตัวเองใหญ่เลย พอขับออกไปอีกเป็นอีกแล้ว เพราะภาวะตกใจเมื่อกี้มันสตั๊นท์มาก บอกกับตัวเองฉันไม่ไกลับแน่ ๆ เลย ฉันตายแน่ ๆ วันนี้ มันเลยทำให้แขนขาชา เลยโทร.บอกน้องสาวให้มารับหน่อยจอดอยู่ข้างทาง

จนวันนี้ยังขับรถไม่ได้?
นก : ยังขับไม่ได้เลยจะ 2 ปีกว่าแล้ว ช่วงแรกเราไม่เชื่อคิดว่าแค่เพลีย คิดว่าแค่ตกใจ เหมือนสักพักนึงอาการมันพัฒนาแรงขึ้น ๆ มีอาการอื่นแทรกซ้อนเข้ามาอีก มีอาการตามมาคือพอนอนปุ๊ปตกใจตื่น ผวาขึ้นมา กว่าจะดีขึ้นต้องใช้เวลา อีกอย่างคือวันไหนถ้าเราตกใจหรือมีความกังวลอะไรเราจะเดินไม่ได้ แพนิกไม่ได้ทำให้ใครตายหรือป่วยทางกาย มันเป็นที่จิตสั่งและเคมีในสมอง

การรักษา?
นก : ตัวเองรักษาตัวเองไม่ได้แล้ว เลยหาหมอดีกว่า เราไม่อยากเป็นภาระลูกหรือคนรอบข้างงานก็ทำไม่ได้ดี หาหมอจิตแพทย์ 

ไม่ได้บอกคนในครอบครัว?
นก : ตอนนั้นเราไม่รู้เป็นแพนิก บอกลูกว่าอาการยังไง ไปหาหมอยังถามหมอเลยเราจะเป้นคนบ้าหรือเปล่า คุณหมอบอกคนเป็นเยอะมาก จากภาวะโควิด มันเป็นสภาวะกระทบจิตใจไม่รู้ตัว คุณหมอจะคุยแล้วดูตามสิ่งที่เราเป็นว่าควรปรับเคมี หรือได้นอนแบบไม่ผวา รักษาตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา แล้วก็ทานยา

อาการแพนิกแย่ลงเพราะเจอเหตุการณ์บนเครื่องบิน?
นก : พี่ดีขึ้นแล้วนะ แต่พอเจอคนนั้นในวันนั้น เป็นอะไรที่เราแบบจะไปเที่ยวสบายใจ แล้วมาเจอ

เยียวยาตัวเอง?
นก : 2-3 ปีนี้สอนอะไรเราเยอะมาก เรามาเรียนรู้ว่าชีวิตมันไม่แน่นอนจริง ๆ เราจะเครียดทำไม รักษาตัวเองด้วยการหาหมอ พยายามบอกตัวเองว่ามีความสุขเถอะทุกวันนี้ มองโลกอย่างที่โลกเป็น

ลงรูปชุดว่ายน้ำถี่?
นก : พี่เป็นคนชอบว่าย้ำ ภูเก็ตก็ใช้ชีวิตกับทะเล

สามีว่าไงบ้าง?
นก : บ่นทำไมละ พี่ไม่ได้ทำไรผิดนะ ลูกสาวถ่ายให้ พี่จอนนี่เค้าไม่ได้ว่าเรื่องแบบนี้เค้าชินกับพี่อยู่แล้ว เราไม่ได้ทำอะไรไม่ีเราใช้ชีวิตให้มีความสุข ใจไม่ได้คิดเรื่องโชว์ไม่โชว์ เราจะอ้วนจะผอม จะแก่ เราควรมีความสุขกับชีวิตเราได้อยากไปทำอะไรก็ทำเถอะ ไม่รู้พรุ่งนี้ตายหรือเปล่า

รักกันมา 30 ปีแล้ว ยังสวีต?
นก : ไม่มี ๆ แต่เค้าก็มีความน่ารักของเค้า เราก็เรียนรู้ความเป็นเค้า เค้าก็เรียนรู้ความเป็นเรา ไม่รออะไรจากเค้า เราอยากได้ก็ซื้อให้ตัวเอง

ทะเลาะกันเรื่องพี่จอนนี่ลงการเมือง?
นก : ไม่ได้ทะเลาะนะคะ แต่เค้ามาบอกเราว่าต้องคุยกับครอบครัวนะ ว่าเค้าอาจจะเปลี่ยนไปสายการเมือง เราก็ตกใจแต่ว่าเราไม่ห้าม ไม่สนับสนุน แต่มันเป็นสิทธิของเค้า เราแค่บอกว่าถ้าคุณอยากทำงานทำให้ดีที่สุดแล้วกัน เราไม่ได้สนับสนุนเพราะเราเป็นห่วงแต่ว่าเราไม่ห้าม พี่ไม่ชอบให้ใครบังคับพี่ก็จะไม่บังคับใคร ทุกวันนี้เค้าก็ยังไม่ได้ไปลงอะไรชัดเจน ยังไม่มีวาระหรืออะไร แล้วเค้าก็ยังมีงานของเค้าอยู่ แต่ก็ขอบคุณที่เค้ามาปรึกษาครอบครัว แต่เราก็ให้สิทธิกัน

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama