สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้ เถาวัลย์สีชมพู จะมารีวิวอนิเมชั่นหลังดูค่ะ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูหรือดูไม่ครบทุกภาค ขอเตื่อนไว้ก่อนว่าบทความนี้มีเนื้อหาสปอยแน่นอน หากยังไม่ได้ดูกดออกทันทีได้เลยค่ะ หรืออยากรู้คร่าว ๆ ก่อนดูก็ไม่ว่ากันค่ะ เค้าเตือนแล้วนะตัวเอง หลังจากที่อนิเมชั่นเรื่องอภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ได้ออกตัวครบไปแล้ว 3 ภาค ด้วยกันแถมยังมีภาคพิเศษให้เราได้ชื่นชมกันอีกด้วย คนเราก็มีอนิเมชั่นขวัญใจกันใช่มั้ย วัยเด็กก็คงจะรุ่นก้านกล้วยกันเลยละสิ แต่ว่า วันนี้เราจะมาพูดถึงอนิเมชั่นเรื่อง อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรกันค่ะ แค่ชื่อก็ตราตรึงใจแล้ว อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรภาคแรก ก็ทำให้ขนลุกซู่เลย มีครบทุกฉากไม่ว่าจะฉากฮาฮา ฉากดราม่า ฉากบู้ ฉากโรแมนติก เปลี่ยนอารมณ์กันแทบไม่ทันกันเลยที่เดียว โดยภาคแรกนั้น เป็นเรื่องราวของหนุ่มน้อยไวกิ้งนาม ฮิคคัพ ผู้อาศัยอยู่บนเกาะเบิร์ค ที่ซึ่งการสู้รบปรบมือกับมังกรเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต มุมมองหัวก้าวหน้าและอารมณ์ขันแบบจิกกัดของเขาทำให้เขาไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งเผ่าหรือแม้แต่ตัวหัวหน้าเผ่า…สโต๊ยค์ เดอะ วาสต์ ที่บังเอิญเป็นพ่อของฮิคคัพเองเสียด้วยเมื่อฮิคคัพต้องร่วมฝึกมังกรกับหนุ่มสาวชาวไวกิ้งคนอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแอสทริด, สนอทเลาท, ฟิชเลก, และฝาแฝดรัฟนัท และทัฟนัท เขาก็มองว่ามันเป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ว่าตัวเขาก็มีคุณสมบัติในการเป็นนักรบเช่นกัน แต่เมื่อเขาได้พบ กับมังกรบาดเจ็บ และได้ผูกมิต โลกของเขาก็พลิกตารปัตร และสิ่งที่เริ่มต้นเป็นโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองเพียงหนึ่งเดียวของฮิคคัพก็เปลี่ยนกลายเป็นโอกาสที่จะสร้างอนาคตใหม่ให้กับคนทั้งเผ่าไปในที่สุด ฉันหลงรักในความอ่อนโยนของฮิคคัพจริงๆนะ อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรภาค 2 ก็ทำเอาปลื้มปลิ่มน้ำตาคลออยู่เหมือนกันน้าโดยเรื่องย่อ เรื่องราวเกิดขึ้นในอีก 5 ปีต่อมาหลังจากที่ชาวไวกิ้งหนุ่มผู้กล้าหาญ ฮิคคัพ ผูกมิตรกับมังกรที่ได้รับบาดเจ็บ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของชาวเบิร์คกับพวกพ่นไฟได้ไปตลอดกาล ตอนนี้ชาวไวกิ้งและมังกรอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนเกาะสุดอัศจรรย์ที่กลายเป็นดินแดนสุดอัศจรรย์สำหรับมังกรไปแล้วแต่เมื่อโตขึ้นภาระหน้าที่ก็เพิ่มมากขึ้น ฮิคคัพและเขี้ยวกุด มั้งกรผู้ซื่อสัจได้โบยบินเพื่อค้นหาคำตอบต่าง ๆ มันมีอะไรมากกว่าที่เขาคาดไว้เมื่อฮิคคัพพบว่าผู้ขี่มังกรลึกลับนั่นคือ วอลก้า แม่ของเขาที่หายสาปสูญไปนาน และความสงบสุขระหว่างมังกรกับชาวไวกิ้งกำลังถูก ดราโก้ ผู้กระหายอำนาจมาก่อกวน โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ดักล่ามังกรอย่างเอเร็ต, แอสทริด, ก็อบเบอร์ และเพื่อนชาวไวกิ้ง สนอทเลาท์, ฟิชเลก และฝาแฝดรัฟนัทและทัฟนัท ที่ให้การช่วยเหลือฮิคคัพ แม่ของเขา และพ่อของเขาคือสต๊อยค์ผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องมังกรที่เลี้ยงดูด้วยความรักขณะเดียวกันฮิคคัพก็ต้องหาคำตอบที่เขาค้นหามานานอย่างที่เขาเองก็คาดไม่ถึงด้วย อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรภาค 3 เป็นภาคที่ตื่นเต้นที่สุด ด้วยเรื่องราวของ ไวกิ้งหนุ่ม ฮิคคัพ ที่ตอนนี้ได้รับตำแหน่งผู้นำของเผ่า ทุกคนอยู่ร่วมกับมังกรอย่างสงบสุข แต่พักหลังมันชักมาอยู่กันเพียบจนล้นเกาะเบิร์ก ฮิคคัพเลยต้องออกตามหา เกาะของเหล่ามังกรในตำนานที่ซ่อนเร้นเพื่อหาที่อยู่ใหม่ให้มังกรพวกนี้แต่ระหว่างทางมิตรภาพระหว่าง ฮิคคัพ และเขี้ยวกุดก็ถูกทดสอบอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่เจอมังกรตัวเมียสีขาวผ่อง แถมยังสายพันธุ์เดียวกับเขี้ยวกุด งานติดหญิงมากกว่าเพื่อนก็มาเยือนจนได้ เขี้ยวกุดหลงสเน่ห์มังกรสาวหัวปักหัวปำฮิคคัพถึงจะว้าเหว่ใจกับเขี้ยวกุดที่เริ่มห่างเหิน แต่ก็ยังคงค้นหาเกาะนั้นต่อไป และพบว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่กำลังหาเกาะมังกรในตำนานที่ว่า แต่ยังมีคู่แข่งอย่าง กริมเมลล์ นักล่ามังกรมาเป็นกว้างขวางคอ ทว่าจุดประสงค์เขานั้นต่างไปโดยสิ้นเชิง เขาต้องการสังหารล้างเผ่าพันธุ์มังกรทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่เพลิงนิล ไวกิ้งหนุ่มจึงต้องค้นหาเกาะให้เจอก่อน กริมเมลล์ และหาทางปกป้องบ้านเกิดของตนก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป คงกลิ่นอายภาคก่อนไว้พอสมควร ยังรู้สึกถึงฟิลลิ่งเดิมๆของเกาะเบิร์ก และตัวละครที่เคยรู้จัก งานภาพเกือบจะไร้ที่ตินะในความเป็นสไตล์ของทุกภาค ภาคนี้ดูลงทุนสุด พวกเอฟเฟคแสงสี ทั้งหมอก ไฟ ระเบิด ก้อนเมฆ พายุ คือสมจริงมาก ยิ่งฉากในถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยนี่นึกว่าของจริงเลยเสียงดนตรีไพเราะดึงอารมณ์ได้ดีตามฉบับ John Powell ที่ทำดนตรีให้เรื่องนี้ตั้งแต่ภาคแรก ให้ประเด็นข้อคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อย่างมิตรภาพ การจากลา และการเป็นผู้นำ แฝงมุกตลกฮาๆ แก้เครียดไว้เยอะ ก็ฮาบ้างแป้กบ้างปนๆกันไป ส่วนใหญ่ตลกเพราะท่าทางตัวละครมากกว่าคำพูด ที่ฮาพีคที่สุดต้องยกให้คู่หูมังกรสองหัว รัฟนัท และทรัฟนัท ถ้าขาดไปนี่มีกร่อยแน่ ๆ มีการใส่มุมน่ารักของตัวละครหลักเข้ามาเต็มเปี่ยม ระเบิดความจิ้นเคอะเขินกันได้อีกหลายลำเรือ ทั้งคู่เพลิงนวล - เพลิงนิล และฮิคคัพ-แอสทริด ก็น่ากรี๊ดกันทั้งนั้น ชอบการดีไซน์ดินแดนลับแลของมังกร มีความสวยงามแฟนตาซีมาก ถึงจะมีการรีโมเดลฉากรังมังกรจากภาคแรกเยอะ และพาไปชมวิวได้ไม่นานพอจะดื่มดำก็ตาม พวกแอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวทำได้เนียนตาดี ทั้งคนทั้งมังกร โดยเฉพาะมังกรหลักสองตัว ทีมงานทำการบ้านมาดีมากมีการผสม นิสัย ท่าทางของแมวบ้านเข้าไป แม้แต่การจีบกันของมังกร ก็มีอ้างอิงลีลาท่าทางเกี้ยวพาราสีจากสัตว์อื่น หนังดำเนินเรื่องเน้นดูได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ถึงกับสนุกมาก หรือพีคตรงจุดไหนเป็นพิเศษ ฉากแอ็คชั่นมันส์และลุ้นใช้ได้ แต่ไม่ถึงกับ epic เท่าไหร่ ดูไม่ใช่การต่อสู้ปิดตำนานชอบตรงฉากย้อนอดีตฮิคคัพตอนเด็กกับพ่อ ดูอบอุ่นและชวนยิ้มอิ่มหัวใจดี หลายจุดเล่าเรื่องไม่ค่อยต่อเนื่อง เหตุการณ์ดูปุบปับรีบเล่าเกินไปหน่อย จนไม่มีฉากไหนที่อินเป็นพิเศษดีไซน์มังกรตัวใหม่ๆดูพิลึกกึกกือยิ่งกว่าภาคสอง หนังดูไม่ค่อยตั้งใจทำในส่วนนี้สักเท่าไหร่ ยิ่งมังกรลูกผสมท้ายเรื่องเห็นได้ชัดว่าคนทำโมเดลรีบขนาดไหน ไม่รู้สึกถึงมิตรภาพของฮิคคัพเขี้ยวกุดมากนัก เทียบกับภาคก่อนๆ ไม่ค่อยลึกซึ้ง ไม่พีคสมกับที่รอคอย เขี้ยวกุดแม่งเจอตัวเมียปุ้บแทบไม่หันกลับมามอง เหมือนขาดฮิคคัพก็ได้ เจอก็ดีไรงี้ การจากลาของฮิคคัพและเขี้ยวกุดยังไม่ซึ้งกินใจเท่าที่ควร กลับเป็นซีนที่อิมแพคน้อยที่สุดในหนัง และห่างไกลจากคำว่าเสียน้ำตามาก ๆตัวร้ายแกเหมือนจะมาเหนือนะภาคนี้ ดูมีสมองกว่าชาวไวกิ้งทั่วไป แต่คำพูดคำจาค่อนข้างหน่อมแน้ม และตอนสู้จริงก็ไม่เก่งเหมือนราคาคุย เป็นพวกลอบกัดซะมากกว่า เหตุผลที่ทำก็ไม่มี เป็นตัวละครที่มีมิติน้อยมาก ๆ หลายคนคงไม่อยากให้จบเท่านี้ใช่มั้ยล่ะ ฉันก็ด้วย :3 อยากให้มีรุ่นลูกต่อจังเลยส่วนภาคพิเศษเป็นภาคน่ารักมาก และ อบอุ่นในคราเดียวกันเจอกันบทความหน้า สวัสดีค่ะขอบคุณรูปภาพจาก dreamworks