รีเซต

ปีเตอร์ ปลื้ม ลูกชายวาดภาพ อวยพรวันเกิด เผย อดีตเคยตั้งกำแพงหัวใจ ลั่นยังโสด

ปีเตอร์ ปลื้ม ลูกชายวาดภาพ อวยพรวันเกิด เผย อดีตเคยตั้งกำแพงหัวใจ ลั่นยังโสด
ข่าวสด
28 มกราคม 2565 ( 21:35 )
99

ปีเตอร์ ปลื้ม ลูกชายวาดภาพ อวยพรวันเกิด เผยอดีตเคยตั้งกำแพงหัวใจ ลั่นยังโสด

ปีเตอร์ ปลื้ม - วันที่ 28 ม.ค.ที่ ห้อง NEW YORK ROOMS โรงแรม Conrad Bangkok นักแสดงหนุ่ม ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล เดินทางมาร่วมงาน “Wwin” World class NFT ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องวันเกิดของตนเอง อายุครบ 47 ปี น้องแพนเตอร์ส่งภาพวาดมาอวยพรวันเกิด พร้อมอัพเดตชีวิตโสด

สถานการณ์โควิดตอนนี้ เริ่มกลับมารับงานได้แล้ว? "แน่นๆเลยครับ ต้องบอกว่าจริงๆ มีรับไว้หลายโปรเจ็กต์ ซึ่งมันจะต้องถ่ายต่อกัน แต่พอล็อกดาวน์เสร็จ เปิดมาทุกอย่างพร้อม วุ่นวายนิดนึง ทำงานอาทิตย์ละ 7 วันแน่นๆ ก็ดีครับ ได้เคลียร์จบทีละเรื่อง ผมไม่ค่อยจะอยู่นิ่งเฉยสักเท่าไหร่"

เล่าถึงวันเกิดที่ผ่านมาหน่อย ลูกชายส่งรูปวาดให้อวยพรวันเกิด? "วันเกิดผมน้ำตาไหล(ยิ้ม)"

ทำงานหนักจนลืมโพสต์รูป? "ใช่ครับ คือช่วงปีใหม่ผมไปช่วยเพื่อน มีโปรเจ็กต์ที่ต่างจังหวัดผมก็ยังไม่ได้พักเลยครับ แต่ก็สนุกได้ลุยดี ดีกว่าอยู่เฉยๆ อยู่บ้านแล้วเบื่อมากเลย นั่นแหละครับ(ยิ้ม) เขาก็วาดรูปเขียนข้อความส่งมาให้"

ประทับใจยังไงบ้าง ในฐานะปะป๊า? "ใจละลาย(ยิ้ม) น่ารักมากจริงๆ"

น้องทำแบบนี้ให้บ่อย? "ไม่ค่อยนะครับ แต่ก็มีบ้าง แต่ไม่ถึงกับบ่อยมาก"

สำหรับวันเกิดน้องที่กำลังจะถึงทีเตรียมของขวัญหรือแพลนเที่ยว? "ต้องดูด้วยว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง เพราะว่าโอมิครอนยังไม่เบามือ ก็อาจจะไม่เหมาะสมที่จะจัดงาน และรวมตัวคนเยอะๆ จะไปต่างจังหวัดก็ต้องดูอีกทีว่าเราสามารถเข้าต่างจังหวัดได้ไหม

จากข้อมูลที่ผมได้มา ดูท่าทางมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมาก อาการก็ค่อนข้างจะมีน้อย หลายคนก็ไม่มีด้วยซ้ำ คือเป็นเรื่องปกติของการแปรพันธุ์ไวรัส ไวรัสเขาก็ต้องการมีชีวิตรอดเหมือนกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออาการเบาลง เพื่อมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น สองแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับไข้หวัดใหญ่เหมือนกัน ไข้หวัดใหญ่ที่แพร่ระบาดครั้งแรกประมาณ 80 ปีที่แล้ว

คนก็เสียชีวิตกันเยอะมากทั่วโลก แต่ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องปกติที่จะเป็นไข้หวัดใหญ่ ทีนี้เรายังมีเรื่องของมาตรการที่ถึงแม้มันจะเบาลง แต่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นอะไรร้ายแรงได้ คือคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ ที่ต่อมไทมัสผลิตทีเซลล์ของภูมิคุ้มกันทำงานน้อยลง ก็อาจจะเป็นอะไรที่มีอาการหนักกว่าคนอื่นเขาได้

คือถ้าได้ฉีดวัคซีนมันก็ช่วยได้เยอะ แล้วประเทศก็อาจจะไม่ต้องมีมาตรการที่ความเข้มงวดมากก็ได้ หวังว่าสักวันหนึ่งในเร็วๆ นี้ หวังว่าจะเป็นแบบนั้นได้ เศรษฐกิจของเราจะได้ขับเคลื่อนเดินหน้าไปได้ครับ"

เป็นห่วงน้องเรื่องโควิด? "ต้องบอกว่าเด็กอายุ 5-18 ขวบ จะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากๆ เพราะว่าต่อมไทมัสผลิตทีเซลล์ ทำงานดีที่สุดในวัยนี้ หลังจาก 18 ปีขึ้นไป จะทำงานน้อยลงปีละ 3-5 เปอร์เซ็นต์ นี่คือเหตุผลที่คนอายุสูงมาหน่อย อาจจะได้รับอาการมากกว่า ช่วง 5-18 ปีก็แข็งแรงมาก ผมไม่ห่วงครับ"

เห็นก่อนหน้านี้พาลูกๆไปฝึกขับรถวิบาก? "(หัวเราะ) เป็นมอเตอร์ไซต์เล็กๆครับ ผมว่าเต็มที่วิ่งสัก 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง เขาชอบกันมากเลย ใส่อุปกรณ์ป้องกันเต็มตัวมีหมวกน็อก มีการ์ดอก การ์ดหลัง มีสนับศอก สนับเข่า มีบูทกันข้อเท้าบิด ตอนแรกก็เป็นห่วงอยู่นะ คือจูนไว้ให้มันวิ่งไม่ได้เร็วมากครับ มีล้มด้วย ผมก็ถามลูกเป็นไรเปล่า เขาก็ตอบไม่เป็นไรเลยปะป๊า เอาอีก ชอบมาก(หัวเราะ) สนุกมาก"

เป็นกิจกรรมที่เราทำกันบ่อยๆ? "ไม่ครับ อันนี้เป็นครั้งแรก ผมก็ลองก่อน คือเป็นรถราคาไม่สูงมาก สั่งช้อปปี้ด้วย(หัวเราะ) สั่งออนไลน์นะครับ โดยที่ให้เขาลองก่อน เขาก็ชอบกันมาก ดูท่าทางก็คงจะไปทางนี้ได้ดี"

มีติดใจ? "ใช่ๆ ชอบ อยากไปอีก ก็เดี๋ยวหาจังหวะ นี่ก็ 7 วันต้องเคลียร์งานอีกสักคืบนึงครับ เดือนหน้าก็เริ่มมีวันว่างมากขึ้นละ คงจะต้องพาไปลุยใหม่"

เรื่องงานปังแล้วเรื่องความรัก? "ความรักเหรอครับ(หัวเราะ) ต้องบอกว่าโอกาสที่เราจะเจอคนในช่วงนี้มันไม่ได้ง่าย เราไม่ได้ออกไปไหน ไปเจอใครสักเท่าไหร่ แต่ว่าจะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตก็คงไม่ว่า อยู่เป็นโสดมานานหลายปีแล้วนะ"

จู่ๆมีประกาศเลย? "ประกาศเลยเหรอครับ คงไม่ถึงขนาดนั้นครับ ต้องบอกว่าถ้าเจอใครสักคนหนึ่งที่ใช่ คุยกันรู้เรื่อง มันต้องเป็นคนที่คุยกันได้ การที่เราเคยเหงา เราจะรู้เลยว่าสิ่งที่เราต้องการคืออะไร ฉะนั้นเราจะเจอคนที่คุยกันคนละภาษา หมายถึงว่าวิธีการคิด มันไม่ได้ เราก็ต้องเจอคนที่คิดเหมือนกัน เราชอบอะไรเหมือนๆ กัน เราทำอะไรด้วยกันได้ นี่คือสิ่งที่จะแก้ในเรื่องของความเหงาได้"

ตอนนี้ไม่ได้ปิด? "ยอมรับว่าตอนแรกพักใหญ่นานหลายปีเลยครับ ผมก็ปิดนะ มีกำแพงจีนใหญ่ยักษ์มาก พอแล้ว(หัวเราะ) แน่นอนครับ คือลูกตอนนี้ก็เริ่มโตกัน ช่วงที่ผ่านมาผมก็โฟกัสในเรื่องของงาน เรียกว่าทุ่มเทแหละ ทำงานอาทิตย์ละ 7 วัน เพื่อสร้างอนาคต สร้างจุดยืนของตัวเองให้แข็งแรงที่เป็น การต่อยอดสร้างอนาคตให้ลูกไปในตัว

ซึ่งวันหนึ่งอีกไม่นานผมก็คงไม่อยู่แล้ว แต่ลูกยังอยู่อีกยาวนาน ฉะนั้นผมจากไปก็ต้องการทิ้งอะไรไว้ให้มากที่สุดเท่าที่มี เท่าที่จะทำได้กับลูก ช่วงนี้ผมก็ลุยไปก่อน ทุ่มเทให้กับงานมานาน พอสักพักหนึ่งปล่อยวางทุกอย่างได้ก็โอเค จริงๆ ถ้าอยู่แบบนี้คนเดียวไปเรื่อยๆ มันก็อาจจะเหงา

จริงๆ แล้วต้องเรียกว่าเป็นไลฟ์พาร์ตเนอร์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี เพราะบางทีเราคิดเอง เรารู้สึกอะไรอยู่คนเดียว มันก็ไม่ค่อยจะได้อะไรดีมาก แต่การที่เราได้พูดคุยกับใครสักคน ถ้าเราสนิทมันเป็นการได้ระบายความในใจ เราจะได้ฟีดแบ็กด้วย และสะท้อนอะไรบางอย่างที่จะทำให้เราทำอะไรได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาตัวเอง พัฒนางาน หรือพูดง่ายๆ คือมีคนคุยด้วย แล้วมีความสุข"

เคยคุยกับลูกชายไหม ถ้าพ่อมีรักครั้งใหม่จะแฮปปี้? "ยังไม่เคยครับ เดี๋ยวถึงเวลาแล้วค่อยคุย(ยิ้ม)"

แบ่งช่วงวันที่เจอลูกๆ บ่อยแค่ไหน? "มีการนัดเป็นช่วง เป็นครั้งครับ ช่วงหลังล็อกดาวน์ต้องยอมรับว่างานก็ต้องทำให้เสร็จ ก็แทบจะไม่ได้เจอลูกเลยครับ เป็นอะไรที่แอบเศร้าเหมือนกันนะ คิดถึงลูกอยู่แล้ว แต่เข้าใจทุกฝ่าย เข้าใจทุกคน ลูกก็บ่นคิดถึง ผมก็คิดถึงลูก

แต่ในแง่มุมของงานในช่วงที่เรายังถ่ายได้ เราก็ต้องทำให้มันจบ ทุกคนต้องเร่งหมด แล้วหนึ่งเรื่องก็ใกล้จะปิดกล้องแล้ว คือถ้าล็อกดาวน์อีกที คงจะเป็นเหมือนกระเช้าสีดาอีก ออกไปครึ่งนึง แล้วก็เบรก ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น ทุกคนเร่งมือเพื่อที่จะให้มันจบ และปิดไปทีละโครงการครับ จะได้ออนแอร์กันสักที ตอนนี้ก็ทุ่มให้กับงานครับ เดี๋ยวก็กลับไปทุ่มให้กับลูก"