รีเซต

"เบสท์ คำสิงห์" ควงพ่อ "สมรักษ์" เปิดชีวิตหลังโสด ยันยังไม่เข็ดความรัก

"เบสท์ คำสิงห์" ควงพ่อ "สมรักษ์" เปิดชีวิตหลังโสด ยันยังไม่เข็ดความรัก
EntertainmentReport2
11 กันยายน 2566 ( 20:30 )
164

"เบสท์ คำสิงห์" นางเอกสาวสายลุยและยูทูบเบอร์สุดปัง ที่วันนี้ออกมาเปิดเผยชีวิตโสดนานกว่า 5 เดือน ซึ่งบอกเลยว่านี้คือช่วงเวลาที่โสดนานที่สุดในชีวิตแล้ว เคลียร์ข่าวเมาท์เหตุโสดเพราะยังเข็ดกับความรักครั้งเก่าหรือเปล่า พร้อมควงคุณพ่อบาส สมรักษ์ คำสิงห์ ย้อนเล่าความหวงลูกสาวขั้นสุดแบบไม่ได้โม้ ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกร

"เบสท์ คำสิงห์" ควงพ่อ "สมรักษ์" เปิดชีวิตหลังโสด ยันยังไม่เข็ดความรัก

 โสดมา 5 เดือนแล้ว นานไปมั้ย  ?
เบสท์ : โสด 5 เดือน นานมากเลยค่ะ

นี่นานที่สุดเลยมั้ย ?

เบสท์ : จะบอกว่านานที่สุดในชีวิตก็ไม่ได้เพราะเรามีแฟนคนแรกอายุ 14 พอเริ่มมีแฟนตั้งแต่อายุ 14 ก็ไม่เคยโสดเลย อันนี้ 5 เดือนก็คือนาน

โสดสั้นสุดกี่วัน ?
เบสท์ : 3 วันค่ะ

พอเลิกปุ๊ปอีก 3 วันเราคุยกับคนอื่นเลย ?

เบสท์ : ใช่ค่ะ แต่จริง ๆ ก็ไม่ใช่ 3 วันนะ ตื่นมาอีกวันก็พร้อมมีคุยกับคนอื่นเลย

คุณพ่อว่ายังไงคะ ลูกบอกว่าโสดนานสุด 5 เดือน ?

สมรักษ์ : ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนหน้าตาดี

 

ทำไมน้องเบสท์มูฟออนไว ?

เบสท์ : เพราะว่าตอนที่รักเราจะเต็มที่มากๆ ทุ่มเทสุดๆ วันไหนที่เราตัดสินใจเลิกเราก็ไปเลย เราก็ก้าวไปข้างหน้าเลย ไม่หันหลังกลับมาแล้ว เราเป็นคนเด็ดขาดเลย ตัดสินใจแล้วก็ตัดสินใจเลย

แล้ว 3 วันที่ว่าที่มูฟออนไปแล้วมีแฟนใหม่ทันทีเลยมั้ย ?

เบสท์ : แค่คุย แต่ก็คือคนนี้เลย ก็คือเล็งแล้วว่าคนนี้เลย

ก็เท่ากับมีแฟนใหม่นั่นแหละ ?

เบสท์ : มีแฟนใหม่มั้ย มันอยู่ที่ผู้ชาย ผู้ชายต้องขอ แต่เราก็รู้สึกแล้วว่าเราจริงจังกับคนนี้

 

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บ Show

คุณพ่อล่าสุดไม่ใช่ 5 เดือน 3 วันค่ะคุณพ่อ ?

สมรักษ์ : ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนหน้าตาดี หมายถึงว่าเขาก็มีเพื่อนเยอะเวลามีข่าวคราวอะไรเพื่อนๆเขาก็โทรให้กำลังใจ ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวนักสู้อยู่แล้วแพ้วันนี้พรุ่งนี้ก็ลุกขึ้นสู้ต่อ ไม่ได้สอนว่าพอแพ้ปุ๊ป อกหักปุ๊ปนอนซมเป็นปี ไม่ได้สอนแบบนั้นสอนให้ก้าวไปข้างหน้า เป็นนักสู้

แต่นี่ไม่มูฟเลยนะพ่อ 5 เดือนแล้ว ?

เบสท์ : หนูอะมูฟแต่ไม่มีใครเข้ามา

ไม่เข้ามาหรือเธอไม่เลือก ?

เบสท์ : ก็ยังไม่เลือกด้วย

ตั้งใจปล่อยให้นานขนาดนี้ ?

เบสท์ : หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ แต่ที่เข้ามายังไม่ถูกใจ

ที่เข้ามาเข้ามายังไง ทางไหน ?

เบสท์ : ส่วนใหญ่ก็โซเชียลในไอจี

เขาทักยังไง คนที่จะเข้ามาจีบน้องเบสท์ได้?

เบสท์ : ส่วนมากผู้ชายเขาก็จะดูไอจีสตอรี่เราก่อน สมมติว่าเราอยู่สถานที่นี้ เขาก็จะทักมาว่าที่ไหน ถ้าเราลงหมาก้จะบอกว่าหมาน่ารัก จริงก็จะทักมาคุยกับเราแหละ แต่ทำเป็นมีส่วนร่วมกับสตอรี่เรา

แล้วไม่มีคนถูกใจ ?

เบสท์ : ตอนนี้ยังค่ะ ยังเลย

ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาจีบเราจะเป็นคนในวงการบันเทิงหรือว่านอกวงการ ?

เบสท์ : นอกนะ ที่หนูเจอตอนนี้ ถ้าคนในวงการจะเป็นฟีลพี่น้องค่ะ

ถ้าในวงการมาจีบได้ไหมพ่อ ?

สมรักษ์ :  มันอยู่ที่เบสท์ หัวใจเบสท์ มันสิทธิ์ของเขา

เบสท์ : หนูถึงขั้นบอกพ่อว่าช่วยหาให้หน่อย คือที่เข้ามายังไม่ถูกใจ ไม่เข้าตาเราเลย เราก็เลยให้พ่อดูแต่ละคนที่เข้ามา เราก็บอกว่าพ่อรู้จักคนเยอะมี่อีกมั้ยแนะนำได้

เรามีสเปคไหมถ้าผู้ชายประมาณนี้ถึงจะโอเค ทำงาน อายุเท่าไหร่ ?

เบสท์ : ชอบคนโตกว่าแล้วก้ชอบผู้ชายที่แบบผู้ชายจริง ๆ คือแมน ๆ สมมติไปกินข้าวเขากันซัพพอร์ตอะไรเราบ้าง เขาเทคแคร์อะไรยังไงบนโต๊ะอาหาร ซึ่งควรเจอกันก่อน พอคุยถ้าหนูว่างก็จะไปกินข้าวก็จะสังเกตว่าแต่ละคนเป็นยังไง แต่ก็ต้องดูประเด็นบนโต๊ะอาหารเขาคุยเรื่องอะไร มันก็จะบ่งบอกว่าเขาเป็นคนนิสัยยังไง บางคนคุยเรื่องของเขาก็น่ารักดีแชร์เรื่องของเขา แต่บางคนมาถามเรื่องของเราแบบถามลึกเกินในเรื่องดราม่าต่างๆ เราก็รู้สึกแปลกๆ ทำไมอยากรู้เรื่องเราเยอะ

คนจะมองว่าที่โสดนานเพราะเข็ดเรื่องราวของความรักหรือเปล่า ?

เบสท์ : ไม่ได้เข็ด ไม่เคยเข็ดเลย ถ้าเข็ดคงจะไม่ได้ผ่องขนาดนี้ ทุกวันนี้ขัดผิวไม่หยุดดูแลตัวเองไม่หยุด ดูแลตัวเองไม่หยุด เจอพี่เบนซ์กับพี่ตั๊กแตนคำแรกก็บอกว่าหาแฟนให้หน่อย นี่คือเข็ดหรอ อยากมีมากเลยนะ อยากมีสุดๆ เจอใครในวงการก็บอกว่าพี่แนะนำได้นะ

แบบไหนที่ไม่เอาเลย ถ้ามาแบบนี้ไม่ชอบ ?

เบสท์ : ก็ทรงผู้ชายโม้ ๆ (หัวเราะ) ขี้อวด ติดหรูหน่อยก็จะไม่ชอบ ชอบง่ายๆสบายๆ ไม่ต้องอวดอะไร เป็นคนที่ไม่ได้ชอบคนรวย

ไม่ต้องรวยไม่ต้องติดหรู เพราะเราหาเงินเองได้ ?
เบสท์ : ส่วนหนึ่งด้วย กับอีกส่วนหนึ่งคือถ้าเราคบคนรวยแล้วเขาเจ้าชู้ คนรวยเขาจะทางเลือกเยอะ

ก็ไม่ทุกคน ?
เบสท์ : ก็รอเจอคนที่จะไม่เป็นแบบนั้นค่ะ

 รวยไม่เจ้าชู้ก็มี คนไม่รวยไม่เจ้าชู้ก็เยอะ ?
เบสท์ : หนูแปลกมาก ผู้ชายเขารู้ว่าเราชอบเปย์ เขาบอกว่าต่อไปนี้ไม่ต้องเปย์แล้วนะ เดี๋ยวเขาเปย์เอง หนูเลิกคุยเลยนะ รู้สึกไม่ชอบผู้ชายแบบนี้ เป็นอะไรไม่รู้ไม่ชอบผู้ชายที่มาเปย์ คือถ้าอยากเปย์ทำไมไม่ซื้อให้เลย ทำไมต้องมาพูด ถ้าซื้อให้ก็รับแต่ถ้าซื้อให้เยอะเกินหนูก็จะคืนตังค์ เราอยู่ในจุดคนคุยเราไม่ใช่แฟนกัน ไม่ใช่คบกันมานานแล้วที่ต้องมาเปย์อะไรขนาดนี้

 คุณพ่อมีลูกเขยในฝันไหม ?
สมรักษ์ : เรื่องความรักมันเป็นเรื่องของเขา แต่เรื่องการเรียนพ่อแม่ต้องดูแล ตอนเด็ก ๆ วัยรุ่น ม.4 ม.5 ม.6 พ่อแม่ต้องดูแลให้ความรักความอบอุ่น เรียนจบแล้วเป็นหน้าที่เขาแล้ว

 เวลาลูกคบกับใครแล้วมานั่งร้องไห้กับพ่อ ?
สมรักษ์ : ก็เคยมี

เบสท์ : ล่าสุดคือฉ่ำ คือที่หนูเลือกที่จะร้องไห้กับพ่อเพราะเขาเป็นผู้ชายแล้วสิ่งที่เขาตอบกลับมามันคือมุมมองของผู้ชาย จากที่เราโกรธมากๆเราอาจจะให้อภัยแฟนของเราได้

 ตอนที่เราร้องไห้พ่อบอกว่ายังไง ?

เบสท์ : พ่อบอกว่าถ้ารักก็ไปต่อ บางทีไม่ต้องรู้เยอะก็ได้

สมรักษ์ : ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คิด ถ้ารักเขาอยู่ก็อภัยไป ถ้าไม่รักแล้วก็ทิ้งไปเลย

เบสท์ : พ่อบอกว่าเรื่องบางเรื่องไม่ต้องหาคำตอบ

สมรักษ์ : เรื่องบางเรื่องไม่ต้องหาคนผิด ให้มันจบ เรื่องที่ทะเลาะกันให้จบตรงนั้นแล้วก้าวไปใหม่

แสดงว่าทุกครั้งที่เรามีแฟนก็จะได้บทเรียนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ที่เราได้มาคือเรื่องอะไรบ้าง ?

เบสท์ : เราก็ได้แค่คนนั้นที่เราคบ เราไม่ได้ฝังใจกลัวคนใหม่ แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนมีความคิดแบบนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้ อีกคนอาจจะเจ้าชู้หน่อย คนเจ้าชู้ เจ้าชู้ยังไงได้บ้าง เราก็จะได้รู้


ถ้าเจอคนเจ้าชู้ก็คุยได้ ?

เบสท์ : คุยได้ พร้อมเจ็บ (ยิ้ม) หนูรักเขา ถ้าเราลงใจไปแล้ว เราสู้สุดเลย เหมือนขึ้นสังเวียนเลย เราต้องได้เข็มขัดแชมป์

สมรักษ์ :  เบสท์พร้อมเจ็บ เดี๋ยวพอทะเลาะกันแรง ๆ พ่อก็ตามไปเก็บเองแหละ

ถามความรู้สึกคุณพ่อรู้สึกอย่างไร ?

สมรักษ์ : ก็ธรรมดาของพ่อแม่ ถ้าลูกเราไม่มีความสุขเราก็เป็นทุกข์ เป็นเรื่องธรรมชาติ บางครั้งเราก็เจ็บกว่า บางครั้งเราทำอะไรมากไม่ได้เพราะเราเป็นผู้ใหญ่ เราก็ต้องคอยให้กำลังใจลูกต่อไป ไม่เป็นไรลูก เริ่มต้นใหม่

ที่บอกว่ายังไม่เจอคนถูกใจ แล้วคนนี้ คนที่ชื่อคิวเท ตอนนี้สถานะเป็นอะไรกัน?

เบสท์ : เป็นเพื่อนกันค่ะ เป็นเพื่อนกันมาตลอดเลย 4 ปีได้แล้ว

ตอนนี้คนนี้เขาก็ดูมีอะไร ไปบ้าน ไปซื้อทีวี ?

เบสท์ : คือหนูไม่เคยคุยกับเพื่อนค่ะ แค่คุยก็ไม่คุยแล้วอ่ะ หมายถึงว่าคุยแบบจีบกัน ส่วนใหญ่รุ่นพี่หมดเลย ชอบรุ่นพี่ ถ้าเพื่อนก็คือเพื่อนเลย

แต่ไม่มีแนวโน้ม ?

เบสท์ : ไม่มีๆ เพื่อนก็คือเพื่อน เป็นคนชัดเจนมาก 

ก็มีโมเมนต์ประทับใจอยู่นะเพราะว่าเขาก็ซื้อทีวีให้ ?

เบสท์ : ใช่ค่ะ ซื้อทีวีให้หนู หนูก็ตกใจเหมือนกันเพราะว่าเรื่องทีวี บรรดาเพื่อนเราหนูบอกทุกคนเลย เวลาไปกินข้าวเจอใครก็จะเอากำแพงนั้นให้ทุกคนดู แล้วอยู่ๆนางก็มาซื้อแล้วก็มาเซอร์ไพร์สจริงๆ เราก็แบบจำได้ด้วยหรอ สมมติบอกไป 20 คน 19 คนก็ไม่มีใครรีแอ็คชั่นอะไรกลับมา แค่ฟังเฉยๆ แต่คิวเทไปทำการบ้าน ไปดูว่าเราไม่มีทีวีแล้วจะเซอร์ไพร์สเรายังไง คือนางวางแผน ทำไมต้องไปห้างนี้ ทำไมต้องไปที่นี่ นางก็บอกว่านางมาเอาของแต่จริงๆแล้วนางพาไปซื้อทีวี

แล้วถ้าคนเขาจิ้นกันอยากให่เบสท์กับคิวเทคบกันเบสท์จะว่ายังไง ?

เบสท์ : ไม่ได้ค่ะ เป็นเพื่อนอ่ะ คือหนูเป็นคนชัดเจนจริง ๆ คือหนูชอบรุ่นพี่จริง ๆ เพื่อนก็คือเพื่อนเลย

ถ้าได้คิวเทเป็นแฟนพ่อโอเคไหม ?

สมรักษ์ : แล้วแต่เขา ความรักมันบังคับกันไม่ได้

น้องเบสท์มีมุมประทับใจคิวเท ?

เบสท์ : นี่แหละค่ะ ที่ประทับใจที่สุดก็คือซื้อทีวี ตอนแรกที่เป็นเพื่อนกันก็คือเป็นเพื่อนเฉยๆคุยกันได้ แต่พอมาซื้อทีวีเรารู้สึกถึงความใส่ใจของเขา

ไม่มีแอบคิดบ้างหรอว่าเขาอาจจะมีใจให้เราหรือเปล่าเขาถึงใส่ใจเราขนาดนี้ ?

เบสท์ : ไม่นะ เขาคงคิดเพื่อนแหละ หนูไม่รู้นะ ต้องไปถามเขา ซื้อทีวีมันเซอร์ไพร์สจริง หนูไม่คิดว่าเขาจะจำได้ว่าหนูเคยเปิดกำแพงเปล่า ๆ ให้ดู

ทุกคนจิ้นมากอยากจะให้คู่นี้ชอบกันจริงๆ เราก็รอไป ?

เบสท์ : แต่ว่าทุกคนก็เข้ามาจีบได้อยู่

ตอนเด็กคือหวงมากใช่ไหมพี่บาส ?

สมรักษ์ : ตอนเด็กก็ดูแลดีไปรับส่ง

เบสท์ : เขาไม่ให้หนูนั่งรถเมล์ รถสองแถว แท็กซี่ ไม่ให้นั่ง เขาดูข่าวเยอะ สมัยนั้นมันจะมีข่าวเยอะ โดนปล้น โดนนู่นโดนนี่ เขาก็จินตนาการ

มีกฎให้ลูกไหมว่าลูกสาวห้ามอะไร ?

สมรักษ์ :  ห้ามไปงานเลี้ยงบ้านเพื่อนแต่ให้เพื่อนมากินบ้านเราได้ แต่ถ้าจะไปกินก็ให้ไป แต่พ่อก็ไปรับอยู่ข้างนอก

เบสท์ : แต่พ่อเคยไปจริง ๆ ค่ะ เที่ยงคืนตีหนึ่งก็เฝ้า แต่ไม่ได้วุ่นวายกับเด็กๆนะ แกก็ปล่อยให้จอยกันแล้วเฝ้าอยู่ข้างหน้า

แล้วเป็นอย่างนั้นอยู่นานไหม พ่อถึงจะปล่อยให้ลูกเป็นอิสระ ?

สมรักษ์ : ก็ช่วงเรียนจบ ไม่ใช่แค่เบสท์ ลูกชายอายุ 16 ไปบ้านเพื่อน ผมก็ต้องไปรับกลับ

เบสท์ : มหาลัยก็เริ่มปล่อยแล้วค่ะ

คุณพ่อหวงขนาดนี้ แล้วแอบมีแฟนตอนอายุ 14 ได้ยังไง ?

เบสท์ : หนูไม่ได้แอบ หนูมีแล้วก็เปิดรูปให้พ่อ คนแรกชอบเตะฟุตบอล พ่อก็บอกว่าชวนมาเตะฟุตบอลซิ

สมรักษ์ : 14-15 เป็นรักของเด็ก ๆ แบบนักเรียน

เบสท์ : คือพ่อกับแม่หนูสอนตั้งแต่เด็กเลยว่าห้ามโกหก ถ้าเราโกหก 1 เรื่อง เรื่องต่อไปมันจะมีแต่เรื่องโกหก หนูก็เลยไม่เคยโกหก ก็พูดเลยว่าคนนี้แฟน คนนี้เพื่อน

พ่อชิลได้ แต่เพื่อนไม่อยากให้มีแฟน ทำไม ?

เบสท์ : ใช่ค่ะ เพื่อนบอกว่าถ้ามีแฟนแล้วจะไม่ทำงาน คือสังเกตได้เลยว่าถ้ามีแฟน รูปลงไอจีก็จะน้อยหน่อย คลิปในยูทูปก็จะน้อยหน่อย แต่ตอนนี้คือทะเล คาเฟ่ ถ่ายรูปไม่หยุด ถ่ายคอนเท้นท์ไม่หยุด เดี๋ยวคนโน้นคนนี้มาออกช่อง ขยัน โปรเจ็คเยอะ พอโสด เพื่อนก็เลยบอกว่าอย่ามีแฟน เพราะมีแฟนแล้วจะไม่ทำงานอะไรเลย

แล้วเรื่องชุดว่ายน้ำถ่ายได้ไหมคุณพ่อ ?

สมรักษ์ : ถ่ายได้ไหม ก็ถ่ายไปแล้ว ก็เขาไปทะเลจะให้ใส่ชุดวอล์มหรอ

เบสท์ : แต่ชุดหนูไปซื้อกับแม่นะ แม่เป็นคนเลือกนะ แต่ว่าพ่อไม่รู้พ่ออาจจะรู้จากข่าว

สมรักษ์ : เวลามีดราม่าเข้ามาเราก็เถียงในใจนะว่า “ก็ลูกกูไปเที่ยวทะเลจะให้ใส่ชุดนอนหรือไงวะ”  แต่ว่าพูดอยู่ในใจไม่ได้พิมพ์ตอบ

คนมองว่าประชดรักเก่าหรือเปล่าถึงใส่ชุดว่ายน้ำแบบนี้ ?

เบสท์ : เรียกว่าเก็บกดดีกว่าค่ะ เวลาหนูมีแฟนหนูจะชอบเจอผู้ชายที่เขาไม่ชอบให้แต่งตัวโป๊ตลอดเลย กางเกงยาสั้นก็ไม่ได้ เสื้อกล้ามก็ไม่ได้ ยิ่งชุดว่ายน้ำก็คือไม่ได้เลย พอเราโสดก็เลยเต็มที่