Short CommentHappiness (2021)สำหรับซีรีส์เรื่องนี้กับผู้เขียนถ้าให้เปรียบจนเห็นภาพคงไม่ต่างจากลูกนอกสมรส เมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณแม่บ้านดูก่อนด้วยอาการติดงอมแงม แต่ตอนนั้นผู้เขียนจำไม่ได้แล้วว่ากำลังดูเรื่องอะไรอยู่หรือกำลังติด NFL จนเมื่อการดู All Of Us Are Dead อีกหนึ่ง K-Zombie ที่เร็วเป็นวิ่งระยะสั้น อัดเข้ามาอย่างเร่งเร้ารุนแรง ทำให้แก่นสารที่เป็นของมันต้องมีจาก K-Zombie ไปหลบอยู่ข้างหลัง แล้วจึงได้ฤกษ์ดูเรื่องนี้ที่ระยะทางวิ่งเท่ากันคือสิบสองตอน แต่เรื่องนี้กลับเลือกเล่าเรื่องดราม่าความเป็นมนุษย์ที่ฉากหน้าทำให้เมื่อการมาดูทีหลังงานที่เร็วฟ้าผ่าทำให้อารมณ์ผู้เขียนตอนดูเรื่องนี้ต่างกันสุดขั้วกับคุณแม่บ้าน เมื่อนางดูเรื่องนี้ก่อนแล้วไปดูเรื่องนั้นจึงเห็นการค่อยๆวิ่งเหยาะๆจนได้ที่แล้วเร่งสปีดเข้าเส้นชัย แต่ผู้เขียนกลับกลายเป็นเร่งมาอย่างเต็มฝีเท้าแล้วหมดแรงตอนปลาย เลยทำให้การดูเรื่องนี้กลายเป็นแบบถ้อยที่ถ้อยอาศัย ว่างเมื่อไหร่ก็ดูจนอารมณ์ไม่ปะติดปะต่อ และเมื่อพยายามจะเขียนเป็นบทความขนาดยาวจึงไม่มีอะไรให้เขียนถึงนักซึ่งก็ต้องขออภัยเรื่องของยุนเซบม (ฮันฮโยจู) ที่เคยช่วยชีวิตจองยีฮยอน (พัคฮยองซิค) ไว้ตอนเรียน ม.ปลาย จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็เป็นไปแล้ว และจองยีฮยอนขอเธอเป็นแฟนและก็ละไว้ตรงนั้น จนมาถึงปัจจุบันยุนเซบมกลายมาเป็นตำรวจหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายและจองยีฮยอนกลายเป็นตำรวจสายสืบ และด้วยความที่ยุนเซบมอยากมีบ้านที่ทางการให้สิทธ์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีที่พักอาศัย แต่เธอต้องผ่านเกณฑ์หลายอย่างหนึ่งในนั้นคือการแต่งงานและคนคนนั้นก็ใช่ใครจองยีฮยอนคนนั้นนั่นเองที่มาแต่งงานหลอกๆ ประกอบกับทั้งคู่ต้องเจอกับคดีประหลาดที่ฆาตกรกัดเหยื่อตายเหมือนซอมบี้แต่เมื่อถึงเวลากลับเป็นปกติ และทางการเรียกโรคนี้ว่าโรคคนบ้า จนเมื่อมีเหตุการณ์ฆาตกรรมเกิดขึ้นในอะพาร์ตเมนต์ที่ยุนเซบมและจองยีฮยอนเพิ่งเข้าอยู่ แต่คนตายกลับไม่ตายเรื่องจึงดูมีเงื่อนงำเพราะนี่คือผู้ติดเชื้อ และในที่สุดทางการก็ปิดกั้นพื้นที่อะพาร์ตเมนต์นั้นเพราะมีคนติดเชื้อโรคคนบ้า และสองตำรวจสามีภรรยากำมะลอก็ต้องเจอกับสมาชิกในอะพาร์ตเมนต์ที่ต่างอุปนิสัยใจคอ แต่มนุษย์ก็ยังคงเป็นมนุษย์ที่ยังมีสันดานบางอย่างอยู่ลึกๆที่รอวันจะเปิดออกมาเมื่อเวลาวิกฤติ ทั้งสองจะเอาตัวรอดจากผู้ติดเชื้อได้อย่างไร และสถานการณ์โรคติดต่อนี้จะไปสิ้นสุดตรงไหน อาจไม่พลิกผันมากมาย แต่ก็ไม่ได้พื้นๆเกินไปจนอ่านออกหมดซึ่งเมื่อเรื่องมีเจตนาที่ชัดเจนในการมาตีแผ่ ขุด เผยความเป็นมนุษย์ในตัวมนุษย์ในภาวะวิกฤติที่ขาดแคลน และต้องรักษาชีวิตในสองทางคือการต้องรอดจากการติดเชื้อ และต้องรอดชีวิต บทจึงวางน้ำหนักไว้ที่ความเป็นมนุษย์ในตัวมนุษย์มากกว่า โดยทีเรื่องของโรคระบาดที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นปีศาจหรือซอมบี้ไว้เป็นน้ำหนักให้พักพิง และมันก็คือสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจในตัวบทรวมถึงตัวเรื่องแล้วเรื่องจะบันเทิงซึ่งในส่วนนี้บทถือว่าทำได้ดีเมื่อเล่าได้ครบรูปประโยค ประธานคือสาเหตุแห่งวิกฤตโรคระบาด กริยาคือการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อประคองสถานการณ์ และกรรมคือผลของการระบาดที่ไปกระตุ้นสัญชาตญาณสัตว์ป่าอันนำมาสู่จุดสุดท้ายของตัวละครทุกคน และบทสามารถตีแผ่สันดานส่วนลึกในตัวมนุษย์ได้ในหลากหลายมิติ ผ่านตัวละครมากมายที่มีพื้นฐานและบุคลิกนิสัยต่างกัน ทั้งยังสามารถสร้างจุดเปรียบเทียบระหว่างคนที่น่าจะดี คนที่น่าจะเลว คนดีแท้ และคนเลวจริงถ้านั่นยังไม่พอยังตีความหมายโดยนัยเรื่องของผู้ติดเชื้อ ที่ในความเป็นมนุษย์ยังสามารถอดทนเพื่อรอวันที่ฟ้าสดใสโดยที่ไม่ทำร้ายใคร และนั่นคือความดีที่ยังมีอยู่ในมนุษย์ทุกผู้ ไม่ต่างจากสันดานดิบที่เห็นทั้งที่ไม่ติดเชื้อแต่สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อผลประโยชน์และเพื่อเอาตัวรอด และเรื่องก็เล่าได้แข็งแรงพอไม่มีอะไรหลุดหรือละเลย เป็นงานด้านบทที่ดูลงตัวในระดับที่น่าพอใจเพียงแต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือการที่ตีตราว่านี่คืองาน K-Zombie จึงอาจถูกความคาดหวังของผู้ชมย้อนกลับมาทำร้าย ซึ่งความจริงงานแนวนี้ของเกาหลีก็มีเรื่องดราม่าประมาณนี้ เรื่องของชนชั้นผลประโยชน์มาก่อนชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ถูกเล่ามาในทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เลือกเล่าเรื่องแบบนี้เป็นแกนหลักทำให้ซอมบี้ไปหลบอยู่ข้างหลังพร้อมกับสาเหตุและการหาวิธีการรักษาเรื่องทั้งหมดจึงเข้มข้นอยู่ในสถานที่จำกัด และเป็นความบันเทิงแบบดราม่ามากกว่าจะมาตื่นเต้น หลอน ลุ้นระทึกอย่างที่หนังซอมบี้พึงเป็น และมันอาจทำให้ผู้ชมที่คาดหวังอะไรที่เร่งเร้ากว่านี้รู้สึกผิดหวัง และอาจไม่สามารถไปจนสุดทางเพราะไม่ได้เร้าใจขนาดต้องทุ่มเทเวลาดู ซ้ำยังไม่พอการเล่าเรื่องในสถานที่เดียวทั้งเรื่องก็ดูเหมือนเรื่องไม่พัฒนา วนอยู่กับเรื่องของสันดานมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ไปข้างหน้าสักที กระนั้นถ้ามองอย่างเข้าใจในการเลือกเล่าให้ดูต่างไป เรื่องนี้เข้าเป้าตามวัตถุประสงค์เมื่อเลือกจะดราม่าก็ดราม่าให้เห็นภาพจึงจะเห็นผล แต่ยังมีข้อแม้ที่ว่าเรื่องออกมาไม่ได้ยากเกินกว่าคาดเดา เพราะเรื่องสันดานมนุษย์ในงานแบบนี้มันก็มีให้เล่าได้แค่นี้ แค่เรื่องความสุขพื้นฐานในชีวิตอย่างการมีบ้านทำไมมันมายากเย็นแสนเข็นเหลือเกิน ประกอบกับเรื่องเลือกจะเดินไปตรงๆมีพลิกเล็กน้อยในช่วงท้าย ที่จะว่าหักมุมก็ไม่ใช่เพราะไม่ได้รู้สึกว่ามีอะให้ติดใจมาตั้งแต่ต้นรวมๆแล้วเรื่องนี้เป็นงานที่ดูเอาบันเทิงได้แต่ต้องเข้าใจในตัวตนของเรื่อง เพราะไม่ว่าจะแตะประเด็นไหน ก็มีเส้นแบ่งความเป็นมนุษย์ให้สัมผัสในทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งในอะพาร์ตเมนต์หรือฝั่งทางการที่พยายามหาวิธีรักษา แต่ความบันเทิงแบบนี้จะเข้าถึงผู้ชมทุกคนหรือไม่ก็ยังเป็นคำถาม เพราะแม้จะตั้งใจมาดูนักแสดงเรื่องนี้ก็ยังดูแปลกไป เมื่อแม้แต่นักแสดงที่เปี่ยมเสน่ห์อย่างฮันฮโยจูกลับไม่มีเสน่ห์ที่เปล่งประกายอย่างที่เคยเป็นส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะบทวางตัวมาขายความห่าม ห้าว และเท่ มากกว่าจะมาขายเสน่ห์แบบที่คุ้นเคย หรืออาจจะเป็นเพราะภาพในแอป viu ก็ไม่ทราบที่ดูเหมือนเธอจะหน้าขาวปากแดงผิดปกติ และที่สำคัญการแสดงเข้าคู่กับพัคฮยองซิคเหมือนไปคนละทางและเห็นชัดเลยว่าฮันฮโยจูอาวุโสกว่าพระเอก เลยทำให้มิติทางความรักไม่ได้ใจผู้ชมและกลายเป็นส่วนเกินคือไม่เล่าก็ไม่เสียหายแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่ก็คืองานที่ดูสนุก มีอะไรเป็นแง่คิดมากมายเพราะผู้ชมจะคิดตามว่า ถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นตัวเราจะเป็นเช่นไร จะคิดอย่างไร และจะทำแบบไหน แค่ว่ามันไม่ได้เร้าใจในระดับวิ่งหนีกันป่าราบ ลุ้นระทึกจนกลั้นหายใจ เพราะเรื่องไม่ได้มีตัวตนแบบนั้น แต่สำหรับผู้เขียนแล้วอาจจะดูไม่เร้าใจสุดขีดก็จริงแต่ก็ยังดูได้จนจบ เพียงแค่ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาดูอย่างเป็นจริงเป็นจังนับเป็นงานดีที่มีความหมาย อะไรที่พึงบอกผู้ชมก็บอกได้ แค่ต้องเข้าใจ และสุดท้ายจะเทก็เทไม่ลงสำนึกในการค้นหาความสุขที่ยากเย็นแสนเข็ญ โดยดูไปบ่นไปviuขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Facebook tvN (International)ภาพที่ 9 จาก Facebook Viu Thailandเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !