กุ้งพลอย สัญญา โสดเพื่อลูก เผยชีวิตเบาตัว เหลือแต่หนี้ 'น้องวีจิ'
กุ้งพลอย สัญญา โสดเพื่อลูก เผยชีวิตเบาตัว เหลือแต่หนี้ 'น้องวีจิ'
กุ้งพลอย สัญญา - แฟนคลับแห่ดีใจ อย่างมีความหวัง เมื่อ กุ้งพลอย หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ประกาศข่าวดีกลางไอจีว่า "เขาบอกให้ฉันรอ ฉันก็รออย่างมีจุดหมาย" พร้อมเผยคลิปสวมกอดพ่อด้วยความดีใจ หลังใช้หนี้ส่วนตัวหมด
โดย กุ้งพลอย ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดบันเทิงออนไลน์ถึงข่าวดีที่เกิดขึ้นว่า "ตอนนี้ก็ดีนะคะ ทุกอย่างโอเค (ดูสดใสขึ้น?) ขอบคุณค่ะ ดูแลตัวเอง พอชีวิตดำเนินมาถึงตอนที่เราแก้ไขอะไรได้ เราก็พูดกับตัวเองทุกวันจริงๆ เพราะเมื่อก่อนทุกข์มากๆ แต่ตอนนี้พอเราฝึกทุกๆ วัน ทุกวินาที ทุกชั่วโมง มันสะสมเข้า แล้วตอนนี้เกือบ 2 ปีแล้ว เราก็เริ่มปล่อยวางอะไรๆ ได้มากขึ้น"
มันทำให้เรานิ่งขึ้น? "พอเรามีความสุข ลูกก็เติมพลังความสุข เราก็รู้สึกว่าพอเรามีความสุข เราคิดได้ เราคิดเป็น เราคิดจะแก้ไขชีวิตให้มันดีขึ้น ทุกอย่างมันก็ดี"
ชีวิตเราดีขึ้น จากคนที่ติดลบเป็นหนี้ ตอนนี้มีบริษัทเป็นของตัวเอง เป็นเจ้านายคนแล้ว สู้มาขนาดไหน? "ยังรับจ้างอยู่เลยค่ะ (หัวเราะ) ก็ขอขอบคุณมากเลย จะบอกว่าเราก็เคยผ่านมาหมดแล้วนะคะ ไม่มีเงินที่จะกินข้าว พอผ่านมาแล้วเราก็ต้องคิดว่าวันนี้เรามีลูกแล้ว ข้อเสียอะไรที่เรามีบ้างก็ค่อยๆ แก้ อย่างเช่นความใจร้อน ด่ามาด่ากลับไม่โกง มันคือสเตตัสของหนูเลยล่ะ
เราก็มานั่งคิดค่ะ มาจดใส่กระดาษไว้ว่าข้อเสียของเราที่มันไม่น่ารักมันมีอะไรบ้าง เพราะว่าเราจะไม่โกหกตัวเองอย่างแน่นอนค่ะ ถ้าเราไม่โกหกตัวเอง เราก็จะได้แก้ถูก มันก็จะเดินไปได้เร็ว แต่ถ้าเราไปหลงผิดฟังคนนั้นทีคนนี้ที แต่เราไม่ฟังหัวใจตัวเองมันก็จะทำให้ช้าลง พอลิสต์ออกมาเราก็ได้เห็นข้อเสียของตัวเองเยอะมาก
แต่ว่าข้อเสียมันก็มีข้อดี เวลาที่แก้แล้วมันก็จะมีข้อดีว่าแก้แล้วเราจะได้อะไร เช่น กุ้งพลอยต้องยอมรับนะว่าเกเร ไม่ได้เป็นคนดีหรอกค่ะ เราก็เกเรมาก่อน ผิดพลาดหลายอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีกก็เคย ก็มานั่งคิดว่าถ้าเราจะแก้แล้วเราเป็นแบบอย่างให้กับสังคมได้บ้างมันก็จะดีนะ
วันหนึ่งกุ้งพลอยไม่รู้ว่าอาจจะตายก่อนได้เจอลูกด้วยซ้ำไป จริงๆ ช่วงสถานการณ์โควิด มันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้หรอก เลยมานั่งคิดว่าเราจะแก้ไขอะไร เริ่มแรกมันยากหน่อย เพราะมันทำไม่ได้เราเป็นคนใจร้อน เราต้องหาอะไรหัด ฝึก ทุกวัน พอเราฝึกทุกวันมันก็ค่อยๆ แก้ได้ ก็อยากเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมบ้าง อะไรที่มันเสียไปแล้วก็โอเคค่ะ"
เห็นชื่อบริษัทแล้ว ทำอะไรบ้าง? "ชื่อบริษัทว่ามาม่าวีจิ คิดว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่มันเหมาะแล้วก็ลงตัวที่สุดแล้วล่ะ ไม่ต้องไปหาชื่อให้ใครตั้งชื่อให้หรอก ก็คิดว่าแม่กับลูกเราจะทำอะไรได้ เราผิดพลาดอะไรมาละหลายอย่างที่เราไม่รู้ ไม่รู้เราเลยผิด อะไรที่เราผิดพลาดเราก็ทำใหม่ ปรึกษาผู้ใหญ่ที่เขามีธุรกิจเป็นของเขาแล้ว จะทำยังไงให้มันรอบครอบขึ้น บัญชีต้องมี ที่ปรึกษาต้องมี
มันเป็นเรื่องบังเอิญที่กุ้งพลอยก็ไลฟ์ขายของอยู่แล้ว พอไลฟ์ขายของก็จะได้เจอเจ้าของ หรือคนที่เขาอยากจะสั่งของ สั่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งในโลกของโซเชี่ยลถ้าเรามองในทางแง่ดี เราก็จะได้เจอกัลยาณมิตรที่ดีๆ เลยมีคนติดต่อว่าพี่กุ้งพลอยทำอะไรอยู่บ้าง เราเลยคิดว่าจริงๆ เรามีคนที่เขาจะช่วยเรา เขาให้โอกาสเราเยอะนะ
แค่เราปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นมา แล้วเราไลฟ์ทุกๆวัน เราก็จะทำตารางไว้เลยว่ามีใครกี่คนเป็นสถิติ พอคนมันเยอะก็เปิดบริษัทเลย เปิดรับซื้อ รับมาขายไป จดและควบคุมหมดเลยค่ะ แม้กระทั่งถ่ายงาน ออกกอง ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งกุ้งพลอยจะทำหนังลงของตัวเอง เป็นหนังบู๊ค่ะ เราก็ทำทุกอย่าง จดให้ครบหมดเลย จ่ายภาษีให้กับรัฐบาลครบหมดค่ะ"
บริษัทของเราทำเกี่ยวกับอะไร? "เป็นบริษัทรับจ้างผลิต ผลิตภัณฑ์สินค้าค่ะ อย่างเช่นจะผลิตแป้ง ครีมสระผม หรือไม่ก็แพ็กเกจจิ้ง มีหมดทุกอย่างเลยค่ะ หรือไม่ก็ไปทำคอนเทนต์ ออกกองค่ะ เป็นกองเล็ก รับจ้างหมดค่ะ
เน้นการผลิตค่ะในนามบริษัทมาม่าวีจิ แต่บางคนเขาก็อยากจะออกในแบรนด์ของกุ้งพลอย เขาก็รับไปค่ะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมาย คือรับผลิตแบรนด์เป็นของตัวเองผ่านบริษัทกุ้งพลอย"
ลงทุนเท่าไหร่? "ทำแบบเล็กๆ (ยิ้ม) ทำแบบพอดีตัว (ตอนนี้ไปได้สวย?) พอได้อยู่"
ตั้งเนื้อตั้งตัวได้แล้ว ใช้หนี้หมดแล้ว? "(หัวเราะ)ขอบคุณค่ะ ตอนนี้ก็เบาตัวแล้ว ตอนนี้เหลือแค่หนี้ลูก เพราะว่าจริงๆ แล้วทุกคนก็คิดว่ามันคงไม่ใช้หนี้หรอก แต่กุ้งพลอยคิดว่ามันเป็นหนี้ หนี้ที่เอาเงินของลูกมา เอาเงินของคนที่เราเคยรักมา เอามาทำอะไรก็แล้วแต่
กุ้งพลอยก็อยากที่จะทำตรงนี้ ถึงได้ทำงานหนัก รับจ้างทำหมดทุกอาชีพ ใครจ้างอะไรก็ทำอ่ะ ทำหมด ขนาดอาบน้ำแมวอะไรก็ทำมาหมดแล้ว (ยิ้ม) รับจ้างเอาน้องหมา น้องแมวไปส่ง ทำมาหมดแล้ว ก็อยากจะเก็บเงิน จนเหลือแต่หนี้ลูกนี่แหละค่ะ"
ลูกสาวได้คุยกันเยอะขึ้น? "มีความสุขมากเลยนะคะ มีความสุขมากขึ้น เพราะว่าวีจิเป็นแรง กำลังใจแบบตัวเต็ง ม้ามืดมาเลย ทุกครั้งที่วิดีโอคอลคุยมันจะทำให้หนูมีแรงขับเคลื่อน บางวันทำงานเยอะ เศรษฐกิจตอนนี้ก็ไม่แน่นอน สุดท้ายตัวกุ้งพลอยก็ได้กำลังใจจากลูกทุกครั้งที่ได้โทรคุย หายเหนื่อยเลย
ลูกก็จะส่งสัญญาณให้รู้ว่าเขาก็คิดถึงเรานะ แล้วก็รอเราอยู่นะ มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่เราสามารถบ่งบอกด้วยแววตา แล้วก็การตอบโต้ จะบอกว่ากุ้งพลอยอยู่ในโลกของจินตนาการของความรัก มโนกับลูกก็ได้ กุ้งพลอยมีความสุข แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนค่ะ"
เห็นลูกพัฒนามีความสุข? "เป็นแม่เนาะ เวลาที่เราเห็นลูกพัฒนา เราเองก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นใกล้ๆ ในช่วงที่เขาต้องการเราจริงๆ เราไม่ได้มีโอกาส แต่ว่าเราจะทำยังไง ให้เราคิดว่าในสิ่งที่เราไม่มีโอกาส เราจะทำให้มันมีความสุขที่สุด เท่านั้นแหละค่ะ เราก็ต้องคิดบวก คิดดี แล้วเราก็ต้องพอใจในสิ่งที่เราได้ แล้วเราก็จะมีความสุข"
ได้คุยบ่อยไหม? "บ่อย ได้พูดบ่อยขึ้นเยอะมาก หนูแฮปปี้มาก"
หลายคนโฟกัสจากที่เราเขียนแคปชั่นว่ามีข่าวดี? "พอดีไปวันเกิดวันพ่อที่อ่างทอง ก็มีทีมงานของเรานี่แหละค่ะอัพเดตข่าว ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรอก แต่ดีใจมากกว่า แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นข่าวร้ายเพราะว่าหนูมองว่าทุกอย่างมันเป็นข่าวดีอ่ะ คนเราถ้ามองบวกมันบวกหมด
แต่ถ้าเราคิดลบทุกอย่างมันลบอ่ะ เราก็จะงัดหมดทุกคนค่ะ ก็เห็นได้รับข่าวมาว่าจะให้ได้เจอลูกอาทิตย์ละ 1 วัน แต่ว่าก็น่าจะเป็นสถานการณ์ปกติ หมายความว่าโควิดหาย แต่ไม่เป็นไรแค่ได้ยินคำว่าอาทิตย์ละ 1 วันก็ดีใจแล้ว อันนี้คือข่าวดี อย่างน้อยเรายังได้รับข่าวดี"
เตรียมอะไรที่จะทำเพื่อลูกบ้าง? "เราจะมีแฮชแท็ก คือตอนที่เราไลฟ์ขายของหนูอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง คาแร็กเตอร์หนึ่ง แต่จริงๆ เราเป็นคนมีสมาธินะ แฮชแท็กเราก็จะเขียนไว้เพื่อเตือนใจตัวเองหลายๆ อย่างที่เราเขียนไว้ในโซเชี่ยล หนึ่งตอนนี้เราอยู่ในขั้นฝึกฝนตัวเอง ปรับปรุง พัฒนาตัวเอง เพราะฉะนั้นเราต้องมีหลักในการเตือนตัวเองว่าจะทำอะไร ซึ่งมันคือวินัย
เพราะเราต้องมีหลักเป้าหมายที่ชัดเจน แฮชแท็กอันนี้คือหนูกำลังที่จะสร้างประติมากรรมให้ลูกดู ซึ่งเราก็คิดแล้วว่าวันหนึ่งเราจะต้องเป็นผู้สร้างสิ่งที่เสียไปมาทดแทน ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกดู แล้วเราต้องทำให้ได้ เราจะไม่สร้างอะไรที่มันเล็กๆ เราจะหัดสร้างให้มันใหญ่ๆ สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองนี่แหละ"
ยังไม่บอกว่าจะสร้างอะไร แต่ตั้งเป้ามาใหญ่ๆ? "มันใหญ่มากแหละ แต่ว่ามันไม่ได้เป็นของเรานะ อะไรที่เราใช้ของวีจิไปมันอยู่ในความรู้สึกเรา ว่าเรายังเป็นหนี้ลูกอยู่ เพราะฉะนั้นอะไรที่เราได้เอาอะไรของลูกมาในการทดแทนใช้ค่าหนี้สินที่มันมีอยู่ในช่วงนั้น เราก็จะใช้คืนลูก ค่อยๆ เก็บค่ะ ให้ลูกได้มากกว่าเดิมด้วย เพราะว่าตอนนี้เราได้เรียนรู้วิธีการหางาน หาเงิน ขยันแล้ว เพราะฉะนั้นหนูคิดว่ามันไม่ยากค่ะ มันหาง่าย"
จะอยู่เป็นโสดตลอดชีวิตจริงๆ? "คิดมั้ยว่าคนๆ หนึ่งที่กล้าใช้แฮชแท็กอันนี้ ในช่วงที่ตัวเองต้องอยู่แบบนี้ ทำไมเราไม่หาคนอื่นมาช่วยเรา เราน่าจะมีคนจีบเนาะ คนอื่นมาเลี้ยงดูเราในช่วงนี้ แต่เพราะเรารู้แล้วว่า เราไม่ให้ใครมาช่วย ผู้ชายไม่ได้สนใจ
ที่ผ่านมาเราก็ทำงานด้วยมือของเราเอง ทำงานด้วยความขยันของเราเอง ทั้งชีวิตเราไม่อยากให้ใครต้องมาเลี้ยงดู เราไม่เคยเอาเงินเสี่ย ไม่เคยอยากมีเสี่ย ไม่เคยอยากมีผู้ชายมาเปย์
ฉะนั้นเรารู้อยู่แล้วว่าต้องเดินไปทางไหน ซึ่งตอนที่เรามีวีจิอยู่ในท้อง เราก็ได้พูดกับลูก เขาเรียกว่า 4 วีกทูเดย์ เราบอกวีจิวันแรกเลยว่าเราจะรักเขา เป็นความรักที่เราสัญญาไว้ให้เขาว่านี่แหละคือความรักสุดท้ายแล้ว เราเลยมีความรู้สึกว่าเรารักษาสัญญานะ บางอย่างหนูอาจจะเกเร อาจจะไม่รักษาสัญญา แต่กับลูกเรารักษาสัญญา และเราก็ทำได้ด้วย
ไม่อย่างงั้นที่ผ่านมามันเป็นช่วงที่ลำบากมาก คนเข้ามาจีบเหมือนกัน แต่เราไม่เคยคุย ไม่เคยไปออกเดต ไม่เคยเลยค่ะ เราเลยคิดว่าตอนนี้จะ 2 ปีแล้ว เราทำได้ เราจะรักษาสัญญาอะไรที่เราสามารถที่จะทำให้วีจิได้ก็จะทำ ถ้าเขาโตแล้ว เขาบอกว่าแม่ มีเลย โอเควันนั้นแหละค่อยว่ากันอีกที"
รอลูกอนุญาต? "คือแม่เราเสียตั้งแต่อายุ 22 ปี เราก็มองถึงตัวเองว่า ถ้าเรามามองตัวเองว่าวันนี้เรามีลูกละ แล้วถ้าเราย้อนถามกลับพ่อเรา ว่ามีแฟนใหม่ มันคงจะ... เราเลยตอบแทนลูกได้เลยว่า เราคิดว่าวีจิคงไม่อยากให้แม่มีแฟนใหม่หรอก คิดว่าตรงนี้เราก็จะ 39 ปีแล้ว คิดว่าเราใช้ชีวิตมาคุ้มละ ฉะนั้นเราอยากจะทำอะไรที่มันดี ดีจริงๆ กับลูก"
ไม่กลัวคำพูดมันจะมัดตัวเอง? "ไม่กลัวเลย เราใจนักเลงนะ (หัวเราะ) เราไม่กลัวเลย แล้วเราก็ทำได้จริงด้วย เราถึงบอกว่าทุกวันนี้สัจจะ เราเริ่มตั้งสัจจะให้กับตัวเอง แล้วก็พยายามรักษาสัจจะให้ได้ เชื่อมั้ยข่าวที่ออกไปเรื่องผู้ชาย บางทีเราไปกับรุ่นพี่ รุ่นพี่เราเป็นเกย์ ข่าวไม่รู้ คนข้างนอกไม่รู้หรอก แต่คนข้างในเขารู้ แล้วเราจะไปแคร์คนข้างนอกทำไม
เวลาเราโพสต์อะไร เราต้องมานั่งอธิบายเหรอ ว่าอันนี้เป็นแค่พี่นะ เราคิดว่ามันไม่จำเป็นหรอก สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือเรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ก็พอแล้ว แล้วเพื่อนที่อ่างทองเขาก็เป็นเพื่อน และเขาก็มีครอบครัวแล้ว เวลาถ่ายคลิปอะไรด้วยกัน แฟนเขานั่งอยู่ พ่อเราก็นั่งอยู่ อาเราก็นั่งอยู่ เราก็ถ่ายคลิปด้วยกันได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเราค่อนข้างที่จะไม่ปลอม"
เอฟซีหวง? "เราก็ไม่เข้าใจนะ เอฟซีบ้านเรา บางทีเขาก็หวง บอกว่าแม่จะไปทำอะไรก็ได้นะ แต่แม่อย่ามีแฟนใหม่ เอาจริงๆ นะ ตัวเราเองไม่ได้ทำเพื่อเสียงรอบข้างเลย เสียงรอบข้างเราไม่ค่อยได้ยินหรอก ได้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเอง ถ้าเราอยากจะรักใครก็รัก คนอื่นมาห้ามไม่ได้
ถ้าเรารักใครเราก็รัก ไม่จำเป็นต้องเลิกรัก ไม่รัก หรือไม่ชอบคนนี้ ไม่มีใครห้ามหัวใจเราได้ แต่ถ้าวันหนึ่งเราก็ยังคงคิดว่าความรักมันก็ยังสวยงามเสมอ เหมือนที่หนูรักลูก เราคิดว่าเรารักลูก เราก็สามารถทำอะไรได้ตั้งเยอะแยะ ตอนนี้ก็ได้พิสูจน์มาอีกก้าวหนึ่งแล้ว"