Movie Review Harbin (2024) เดินหน้าด้วยความอยากรู้สะกดคนดูด้วยความสงสัยกับความพอดีในการบีบคั้นและปลุกเร้าจนอาจกลายเป็นจุดด่างพร้อยในความสมบูรณ์ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! อย่างที่เคยบอกกล่าวเล่าให้ฟังมาหลายครั้งแล้วและฉายซ้ำอีกครั้งอย่างไม่มีเบื่อว่าถ้าจะหาหนังเกาหลีเก่าๆ กลางเก่ากลางใหม่ หรือหนังเกาหลีใหม่ๆที่อาจได้เข้าฉายหรือไม่ได้เข้าฉายในบ้าเราให้ไปหาดูทางแอปเหลือง เพราะบ่อยครั้งที่ผู้เขียนเองได้ไปหาดูหนังเกาหลีที่คิดถึงหรือหนังเก่าแต่ดีและกระทั่งหนังใหม่ที่คิดว่าไม่น่าจะได้ดูแล้วเพราะฟอร์มหนังไม่น่าจะขายได้ในบ้านเรา แต่บางครั้งนักแสดงเกาหลีดังๆจะดีอย่างคือถ้าบทดีหนังฟอร์มเล็กหรือยักษ์ก็รับเล่นไม่ได้หวงชื่อเสียงมากมายทำให้หนังที่ฟอร์มไม่น่าสนใจกลายเป็นน่าสนใจเพราะนักแสดงอันนี้เอาที่คนที่ดูหนังได้ทุกแนวว่าเพราะบางครั้งหนังบางเรื่องก็อาจไม่ใช่ความบันเทิงสำหรับทุกคน และสำหรับบทความนี้ที่ท่านกำลังจะได้อ่านก็เป็นหนังใหม่ที่เหมือนจะไม่ได้เข้าฉายในบ้านเราทั้งที่ฟอร์มดีและน่าจะขายได้เพราะเป็นผลงานของพระเอกเบอร์ใหญ่อย่างฮยอนบิน ร่วมด้วยนักแสดงสมทบมีชื่อชั้นที่น่าสนใจทั้งอีดงอุคและจอนยอบินรวมถึงทางฝั่งญี่ปุ่นที่คุ้นหน้าอย่างลุงลิลลี่ แฟรงค์กี้เอาแค่นี้ก็ไม่ควรพลาดแล้ว เมื่อประเทศเกาหลีถูกรุกรานโดยญี่ปุ่นชาวเกาหลีจำนวนไม่น้อยจึงลุกขึ้นมาสู้ในนามของกองทัพทหารอาสาเพื่อเอกราชเกาหลีที่ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นในแบบกองโจร และในภารกิจหนึ่งความยึดมั่นในมโนธรรมและกฎการทำสงครามสากลทำให้อันจองกึน (ฮยอนบิน) ปล่อยเชลยศึกที่เป็นผู้นำทหารคือทัตสึโอะ โมริ (พัคฮุน) ไป แต่โมริหาใช่คนที่มีศักดิ์ศรีและมโนธรรมที่ทำหน้าที่ทหารอย่างมีเกียร์ติจึงแว้งมาลอบกัดพวกพ้องของอันจองกึน แน่นอนเมื่ออันจองกึนรอดมาได้เขาจึงถูกสงสัยว่าเป็นสายลับญี่ปุ่นเขาจึงอาสาที่จะทำภารกิจเพื่อชาติด้วยการลอบสังหารฮิโรโบมิ อิโตะ (ลิลลี่ แฟรงค์กี้) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่กำลังจะเดินทางมาทำภารกิจในเกาหลีผ่านประเทศจีนและรัสเซีย เมื่อแผนการถูกกำหนดอันจองกึนพร้อมกับอีชางซอบ (อีดงอุค) จึงไปหามาดามกง (จอจยอบิน) เพื่อหาระเบิดสังหารทว่าก็ถูกพวกญี่ปุ่นรู้ทันเพราะมีหนอนบ่อนไส้ สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอันจองกึนจะต้องเดินหน้าไปลอบสังหารนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้จงได้ที่เมืองที่ถูกปกครองโดยรัสเซียที่นี่ที่ฮาร์บิน ละเอียดละเมียดในการพาคนดูไปรับรู้รับทราบถึงเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยแรงจูงใจและความอุ่นระอุข้างใน ก่อนอื่นต้องบอกว่าเกาหลีไต้คือประเทศที่มีหน้าประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดมากมายที่สามารถหยิบเอามาเล่าได้ไม่มีหมดเพื่อที่คนดูรุ่นใหม่บ้านเขาจะได้ไม่ลืมความเจ็บปวดนั้น แต่เกาหลีก็จะมีดีตรงที่การเขียนบทหนังที่เล่าเรื่องจริงอิงความบันเทิงได้น่าทึ่งอยู่บ่อยๆและเรื่องนี้ก็ยังเป็น เพียงแต่หน้าหนังที่คนดูคาดหวังอาจไม่ตรงกับตัวตนที่หนังเป็นเพราะนี่คืองานดราม่าหนักหนาเล่าเรื่องคนที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ หนังจึงเล่าตั้งแต่จุดเริ่มของภารกิจพลีชีพครั้งนี้ตั้งแต่จุดเริ่มอย่างละเอียดละเมียดเพื่อที่คนดูจะได้เข้าใจในการตัดสินใจเพราะเต็มไปด้วยแรงจูงใจ และสิ่งที่มันต้องมีคือความอุ่นระอุในใจในเรื่องคุณธรรมน้ำมิตรที่กลายมาเป็นจุดพลิกผันได้อย่างเนียนเหนือความคาดหมาย แต่นั่นคือการมองในมุมของคนเกาหลีที่รู้เรื่องราวนี้อยู่แล้วแต่ถ้ามองในมุมคนต่างชาตินี่ก็คือความสามารถในการเล่าเรื่องจริงให้เป็นความบันเทิงได้อย่างยอดเยี่ยม มีความพอดีในการเล่าเรื่องที่เน้นรายละเอียดจึงสะกดได้ด้วยความสงสัยใคร่รู้ค่อยๆบีบจนเคร่งตึงได้ในเวลาที่ต้องการ ผลของการละเอียดละเมียดเล่าจะออกมาได้สองทางหนึ่งคือทุกอย่างที่หนังพาไปจะหนักแน่น ทำให้คนดูเข้าใจในสิ่งที่บุคคลนั้นกระทำหรือไม่กระทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เล่าเรื่องของคนที่มีตัวตนจริงอย่างเรื่องนี้ สวนอีกทางอาจกลายเป็นความเนิบช้าเพราะความที่เล่าอย่างละเอียดทำให้หนังจะพยายามลงลึกในภาวะบางอย่างอย่างเรื่องนี้คือเรื่องของความรู้สึกที่มีต่อสหายร่วมรบที่อุ่นระอุข้างใน และเมื่อหนังเล่าเรื่องได้จึงสะกดด้วยความสงสัยใครรู้ว่าบทสรุปจะออกมาหน้าไหนที่อาจเดาได้ไม่ยากแต่ระหว่างทางคือมีความพลิกผันมากระตุ้นอยู่เรื่อย แล้วเมื่อเรื่องเล่าด้วยความละเมียดสิ่งที่ตามมาคือความพอดีในความไม่พยายามบีบคั้นแบบเร่งรีบให้เวลาทำงานของมันคือเมื่อถึงเวลาอารมณ์จะเคร่งตึงในตัวเองอาการลุ้นก็ตามมา และสิ่งที่นับว่าดีมากคือความไม่พยายามยัดเยียดความรักชาติหรือชาตินิยมสุดขั้วเข้ามาถ้าเข้าใจในตัวหนังได้มันก็คือความพอดี เหมือนเป็นงานที่มาเพื่อปล่อยของของ "ฮยอนบิน" ที่มาตรฐานสูงอยู่แล้วเลยไม่รู้สึกแปลกเท่าไหร่นักนอกนั้นก็กระจายๆกันไป เพราะนี่คือการเล่าเรื่องของอันจองกึนที่เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์กับวีรกรรมที่ทำเพื่อเอกราชชาติเกาหลีที่ตอนนั้นยังไม่มีเหนือหรือไต้ (สงครามเกาหลีเกิดขึ้นเมื่อปี 1950) หนังจึงโฟกัสที่ตัวละครอันจองกึนที่รับบทโดยฮยอนบินนักแสดงดาวค้างฟ้าของเกาหลีที่ไม่ต้องสงสัยเรื่องมาตรฐานการแสดง เพราะเรื่องนี้เขาจะจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของตนเองและสิ่งนั้นคือสิ่งที่บีบเขากลายๆให้ทำภารกิจให้ลุล่วงให้จงได้ และฮยอนบินก็สามารถทำให้หนังกลายเป็นของเขาแทบจะทั้งหมดซึ่งก็ควรเป็นแบบนั้นเพราะบทหนังมีทิศทางไปแบบนั้นจริงๆเอาง่ายๆในเสื้อผ้าหน้าผมที่เป็นแทบจำไม่ได้ว่าใครเป็นใครนอกจากฮยอนบิน แต่หนังก็เต็มไปด้วยนักแดงสมทบชั้นยอดทั้งโจอูจิน,อีดงอุค,จอนยอบินรวมถึงยอดฝีมือฝั่งญี่ปุ่นที่นับว่าน่าแปลกที่ยอมรับเล่นในหนังที่ญี่ปุ่นเป็นผู้ร้ายกับลุงลิลลี่ แฟรงค์กี้ เป็นความลุ่มลึกมากกว่าอึกทึกมีจังหวะปล่อยของที่ลงตัวแต่อาจต้องเข้าใจว่าหนังเลือกไปทางดราม่าอัตชีวประวัติมากกว่าแอ็กชัน เอาจริงก็สารภาพกันตรงๆเลยว่าผู้เขียนเองก็คิดว่านี่น่าจะเป็นหนังเอพิกสงครามอิงประวัติศาสตร์ที่มีความเป็นแอ็กชันมันส์ๆในตัว แต่เปล่าเลยหนังกลายมาเป็นหนังดราม่าเต็มรูปแบบโดยมีฉากแอ็กชันเป็นส่วนประกอบให้เรื่องที่เล่ามีความสมดุลสมเหตุสมผล ซึ่งมันแน่นอนที่ว่าถ้ามองจากหน้าหนังแล้วคาดหวังทางนั้นอาจผิดหวังเพราะหนังค่อนข้างจะพูดกันทั้งเรื่องฉากแอ็กชันมีน้อยกว่าจะมาก็กินเวลาพอสมควร และนั่นอาจกลายเป็นรอยด่างพร้อยบนความสมบูรณ์ของหนังในความเป็นหนังดราม่าที่เข้มข้นเรื่องเชิงลึกทางอารมณ์ที่มีดีที่ความไม่พยายามยัดเยียด แต่ผู้เขียนยอมรับว่าชอบหนังดราม่าอยู่เป็นทุนจึงไม่ได้ผิดหวังอะไรกลับกันคือแม้จะไม่เป็นอย่างที่คาดแต่กลับรู้สึกว่ามันดีไปอีกแบบคือมีความบันเทิงในทางที่หนังดราม่าชั้นดีควรเป็น เพราะนี่คือหนังดราม่าอัตชีวประวัติที่เล่าเรื่องของคนหนึ่งคนที่ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่ยากเย็นนั่นเอง ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 จาก Instagram cjenmmovie จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !