หากคุณนอนดึกจนตื่นสายเป็นประจำ หรือบางครั้งก็ดองงานเอาไว้เยอะ ๆ และชอบพูดว่า “ เดี๋ยวค่อยทำ ” “ เอาไว้ทำพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย ” หากเป็นไม่บ่อยก็ยังถือว่าสบายใจได้ แต่หากคุณนอนดึกตื่นสายและผลัดวันประกันพรุ่งจนเกิดเป็นนิสัย อันนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงมากเลยค่ะ เพราะว่าคุณกำลังจะกลายเป็นคนที่ขี้เกียจ และแน่นอนว่าอนาคตของคนที่ขี้เกียจคงจะไม่ได้สวยงามสักเท่าไหร่ คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ หรือพ่อแม่ของคุณ ก็มักจะบ่นให้คุณอยู่เสมอว่าทำไมขี้เกียจแบบนี้ ฉันเข้าใจดีว่าคุณพยายามจะออกจากความขี้เกียจหลายครั้งมาก ๆ แต่คุณก็ยังทำไม่สำเร็จสักที ทำแป๊บเดียว ก็เหนื่อย ก็ถอดใจไปในที่สุดวันนี้ฉันมีเรื่องราวดี ๆ ที่อยากจะแบ่งปันกับทุก ๆ คน ที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ พอดีฉันมีโอกาสได้เจอหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊ค ฉันจึงลองซื้อมาเพื่ออ่านดู หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า “ ไม่ยากถ้าอยากเป็นคนขยัน ” ซึ่งเป็นหนังสือที่จะซ่อนเคล็ดลับเอาไว้ในตัว เพื่อที่จะให้เรานำเอาเคล็ดลับต่าง ๆ ไปพัฒนาตนเอง ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นรูปแบบของการ์ตูน รับรองได้ว่าอ่านได้ไม่สดุด ไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน หนังสือมีทั้งหมด 199 หน้า ราคา 145 บาท ภาพการ์ตูนในเล่มสีสันสวยงามมาก ๆ เนื้อเรื่องก็ชวนให้ติดตาม รับรองได้ว่า เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเลยจริง ๆ ค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยว่าในเล่มนี้จะมีเคล็ดลับอะไรอยู่บ้าง*** เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนในเล่ม ***ในหนังสือ “ ไม่ยากถ้าอยากเป็นคนขยัน ” จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 23 ตอน โดยจะกล่าวถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า “ พิ้งกี้ ” ที่เธอนั้นขี้เกียจ ชอบตื่นสายและทำการบ้านไม่ทันส่งเป็นประจำ แต่แล้ววันหนึ่งเธอต้องเลือกชมรม แล้วเธอก็ตัดสินใจเลือกชมรมที่มีรุ่นพี่ที่เธอแอบชอบอยู่ในนั้น เมื่อเธอเข้าไปอยู่ในชมรมนั้นเธอก็ต้องพบกับรุ่นพี่ ที่บอกว่าเธอขี้เกียจ ทำผลงานต่าง ๆ ออกมาได้ไม่ดีเอาเสียเลย เธอจึงพัฒนาตนเองในทุก ๆ ด้าน จนในที่สุดเธอก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นคนที่มีระเบียบวินัย ถึงแม้ในตอนแรก ที่เธอทำการพัฒนาตนเองนั้น เธอจะเหนื่อยและท้อมาก ๆ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ จนเธอสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจากคนที่ขี้เกียจสุด ๆ ให้กลายเป็นคนที่ขยัน และกลายเป็นไอดอลของใครหลาย ๆ คนซึ่งในแต่ละตอนของเนื้อเรื่องนั้น จะได้สอดแทรกเทคนิคและวิธีการในการพัฒนาตนเองเพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากความขี้เกียจ เอาไว้ทุกตอน ยกตัวอย่าง เช่น ในตอนแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “ ความเกียจคร้านคือศัตรูของฉัน ” ในท้ายตอน ก็จะได้กล่าวให้ทราบว่าความเกียจคร้านทำชีวิตเราให้แย่อย่างไร หรือจะเป็นในตอนที่ 5 ที่กล่าวถึงลักษณะของคนขี้เกียจ ซึ่งในท้ายตอนก็จะมี การเปรียบเทียบให้เห็นถึงลักษณะของคนขี้เกียจ ยกตัวอย่างเช่น “ ชอบพูดว่าน่ารำคาญ ” “ เดี๋ยวทำ " " ไม่มีเวลา ” จนติดปาก นอกจากนี้ยังไม่รักษาคำพูด และต้องรอให้คนอื่นมาสั่งก่อนค่อยทำ ชอบอ่านหนังสือตอนใกล้สอบจึงทำให้คะแนนที่ออกมาไม่ดี เป็นต้นหลังจากที่ฉันได้อ่านหนังสือเล่มนี้จนจบ ฉันก็รู้สึกว่ามันดีมากจริง ๆ เพราะว่ามีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถทำให้เรานำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการให้กำลังใจตัวเอง เทคนิคการเก็บกวาดห้องให้เป็นระเบียบเพื่อที่จะสร้างบรรยากาศ ให้รู้สึกว่าอยากจะทำงานหรือทำการบ้าน เทคนิคการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ อันนี้ฉันชอบมาก ๆ และอีกอย่างที่ชอบสุด ๆ ไปเลยก็คือ เทคนิคของการเป็นผู้นำ อันนี้ฉันได้เอาไปใช้จริง ๆ ในชีวิตประจำวัน ในตอนที่นำเสนองานหน้าห้อง มันใช้ได้ผลดีสุด ๆ เลยล่ะค่ะ ฉันรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก ๆ เลยกับเงินเพียงแค่ 145 บาท ที่ฉันเสียไป เพื่อซื้อหนังสือเล่มนี้มา เพราะมันสามารถใช้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงวัยใด ด้วยเหตุนี้นี่เองฉันจึงอยากนำมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปหาอ่านกันดู รับรองได้ว่าเพื่อน ๆ จะมีชีวิตที่เปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย แล้วหวังว่าทุกคนจะหยุดออกจากวงจรความขี้เกียจได้นะคะ หากสนใจจะอ่าน สามารถสั่งซื้อที่เว็บไซต์ www.se-ed.com ได้เลยนะคะภาพประกอบบทความ1.ส่วนของภาพหน้าปก ภาพหนังสือ ถ่ายโดยผู้เขียน2. ภาพประกอบอื่น ๆ จากแหล่งที่มาดังนี้ ภาพที่ 1 จาก pexels / ภาพที่ 2 จาก pexels / ภาพที่ 3 จาก pexels