“เกรท วรินทร” เปิดใจถึง “พรหมลิขิต”… ละครที่แต่งตัวนานที่สุด ขนลุกที่สุด บทยาวที่สุด พูดยากที่สุด
“เกรท วรินทร” เปิดใจถึง “พรหมลิขิต”… ละครที่แต่งตัวนานที่สุด ขนลุกที่สุด บทยาวที่สุด พูดยากที่สุด
ถือว่าเป็นละครสุดฟีเว่อร์เรื่องหนึ่งของปี 66 สำหรับ “พรหมลิขิต” หลังจากที่ละครจบลงไปก็มีคอมเมนต์มากมายจากแฟนละคร ซึ่งเชื่อว่าทางผู้จัดละครก็จะอธิบายต่อไป
ล่าสุด“เกรท วรินทร” เปิดใจถึง “พรหมลิขิต”ว่าละครที่แต่งตัวนานที่สุด ขนลุกที่สุด บทยาวที่สุด พูดยากที่สุด
เขาโพสต์ว่า พรหมลิขิต ขอบันทึกไว้ว่า เป็นละครที่แต่งตัวนานที่สุด ขนลุกที่สุด บทยาวที่สุด พูดยากที่สุด และพูดตรงบทที่สุดแล้ว
“รู้สึกเป็นเกียรติแก่ตัวเองและวงศ์ตระกูลมากครับสำหรับบทนี้ งานที่เราตั้งใจทำในหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ แล้วได้รับการชื่นชม การพูดถึงในแง่ที่ดีเป็นส่วนใหญ่ นั่นทำให้ผมภาคภูมิใจกับผลงาน รู้สึกใจฟู รู้สึกอิ่มเอม รู้สึกคุ้มค่ากับเวลาและความทุ่มเทที่ตั้งใจทำลงไป”
“กราบสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่9 ด้วยหัวใจครับ”
“ทั้งนี้ทั้งนั้นผมเป็นแค่ส่วนหนึ่งของละครที่ถูกผู้จัดและทีมงานทุกฝ่ายคอยผลักดันอยู่เบื้องหลังอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็น ช่อง3พระราม4 พี่หน่องผู้จัด พี่นายผู้กำกับ และทีมผู้ช่วยที่คอยพลักดันระมัดระวังเรื่องบทให้ผม พี่เอ๊ะหน้า พี่อิ้งค์ผม ทีมไฟ ทีมงานที่คอยดูแลทุกๆอย่าง ทีมเสื้อผ้าที่คอยต่อปากต่อคำ ทีมพร็อพสำหรับพลังที่มองไม่เห็น สวัสดิการ อาหาร เติมน้ำ ทีมPRของกองและทางช่อง ฟิลเตอร์ฟิลใจหน้าใสกิ๊ก ทั้งหมดนี้เลยครับ กราบงามๆจากใจครับ”
“ที่สุดแล้วนักแสดงร่วมทุกคนเลย พี่โป๊ป น้องเบลที่เราเคยทำงานด้วยกัน แต่ในวันนี้ตัวผมเข้ามาทำงานในอีกบทบาทนึง ทำให้ได้มองพี่โป๊ปน้องเบลในอีกมุมมองนึง ได้เห็น เสน่ห์ ฝีมือ และเคมีของทั้งคู่ ผมทำให้ผมเข้าใจเลยว่าทำไมคู่นี้มีเอฟซีมากมายยิ่งนัก”
นังเด่น เอ้ยน้องเด่นคุณ ถึงจะพูดจาควบคุมไม่ค่อยได้แต่ก็เป็นน้องที่น่ารักมากและฝีมือดีเลยทีเดียว