#หีบเข้าโรง ชวนดู พี่นาค2 “มึงสึก มึงตาย”สวัสดีครับทุก ๆ คน ที่ติดตาม “น้องหีบ” มาเป็นเวลานานแสนนาน วันนี้ น้องหีบขอพาทุก ๆ ท่านเข้าสู่มิติใหม่แห่งการรีวิว ที่จะแยกหมวดหมู่เอาไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้การติดตามทุก ๆ อย่างง่ายขึ้นไปกว่าเดิมมาก ๆสำหรับช่วงนี้ ได้แก่ช่วง #หีบเข้าโรง ซึ่งเป็นช่วงที่หีบจะพาทุกๆ คนไปรับชมภาพยนตร์เข้าใหม่แบบล่าสุด(กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว) โดยมีจุดประสงค์หลักของการรีวิวก็คือ “ไม่มีการสปอยล์” เนื้อหาที่มีผลต่อการรับชมของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ แน่นอนสองพันเปอร์เซ็นต์ครั้งนี้เข้าโรงกันมาสดๆ ร้อนๆ กับภาพยนตร์ภาคต่อความฮาปนหลอนอย่าง “พี่นาค 2” นั่นเองครับ โดยเนื้อหาเรื่องนี้จะต่อเนื่องจากภาคแรกกันมาเลยแบบสุดๆ ร้อนๆ ดังนั้นแล้ว ใครที่ยังไม่ได้ดูภาคแรก ควรไปดูภาคแรกก่อน แล้วข้ามการย้อนเรื่องภาคแรกในส่วนข้างล่างนี้ไปซะ แต่ถ้าไม่อยากดูแล้วละก็ นี่จะเป็นการย้อนเรื่องราวคร่าวๆ ให้ทุกๆ คนได้รับรู้ก่อนเข้าโรงครับรู้ไว้ก่อนเข้าโรงพี่นาค เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับตัวละครหลัก 3 คน บอลลูน เฟิร์ส และโหน่ง ที่ผ่านเรื่องราวเกี่ยวกับโชคชะตาแบบหวิดตายกันในทุกๆ วินาทีที่ใช้ชีวิต รวมทั้งมีการบนบานศาลกล่าวของบอลลูน และเฟิร์ส ที่จะมาบวชที่วัด “ธรรมนาคานิมิต” แห่งนี้ แต่กว่าจะรู้ว่าวัดแห่งนี้มีอาถรรพ์ว่า “ไม่เคยมีใครบวชที่วัดนี้ได้” ก็ในช่วงเวลาที่ทั้งสามต้องเตรียมตัวบวชแล้วดังนั้นทั้งสามจึงต้องเอาชีวิตรอดจากอาถรรพ์ของผีพี่นาคที่คอยเอาชีวิตผู้ที่หมายจะมาบวชที่วัดแห่งนี้ กระทั่งสามารถปลดปล่อยวิญญาณอาฆาตแค้นของวิญญาณพี่นาคนั้นได้สำเร็จ จนได้บวชเป็นพระตามคำบนบาน หากแต่วินาทีที่ทุกๆ อย่างกำลังจะจบลง ก็เกิดอาถรรพ์ใหม่ขึ้น...จู่ๆ พระที่ใกล้จะสึกก็กลายเป็นศพถูกนำผ่านหน้าพระทั้งสามไป พร้อมกับรับทราบอาถรรพ์ครั้งใหม่ว่า ที่วัดแห่งนี้ไม่ได้มี “อาถรรพ์ห้ามบวช” อย่างเดียว...แต่มันกำลังเริ่มต้น “อาถรรพ์ห้ามสึกอีกด้วย” มึงสึก-มึงตายนั่นก็เป็นเรื่องย่อแบบสรุปง่ายๆ ไม่สปอยล์จากเรื่องราวในภาคแรกครับ คราวนี้มาเริ่มกันที่เรื่องราวในภาคที่ 2 กันเลยเรื่องย่อของพี่นาค 2 ว่าไว้ด้วยเรื่องราวหลังจากที่ทั้งสามนั้นบวชแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน มีเพียง “หลวงพี่โหน่ง” ที่ครองไตรจีวรต่อไป ที่วัดธรรมนาคานิมิตแห่งนี้ ได้ขยับขยายจนกลายเป็นโรงเรียนสอนธรรมะให้แก่สามเณร มีตัวละครเพิ่มเติมขึ้นมาอีกพอประมาณ โดยตัวละครหลักๆ อย่างบอลลูนกับเฟิร์สนั้นด้วยความที่อยากรีบๆ สึกเพื่อหนีอาถรรพ์ จึงแอบสึกกันไปเรียบร้อยแล้วหากแต่ในเวลานั้น ที่วัดก็มีศพใหม่เข้ามา เป็นศพปู่ของอ๊อด(เด็กวัด)นั่นเอง เนื่องด้วยเขาแอบสึก และกำลังจะกลับมาบวชเพราะโดนวิญญาณตามอาฆาต แต่ก็ไม่ทันแล้ว...ตัดมาที่สองเพื่อนรัก ที่หลังจากสึก ชีวิตก็เจอแต่ความวิปโยค วิญญาณพี่นาคตนที่2 ตามอาฆาตแค้น หมายปลิดชีวิตกระทั่งต้องขอกลับมาบวชอีกครั้งเพื่อลบเลือนคำสาปนั้น ในขณะเดียวกัน ที่วัดแห่งนี้ก็มีหนุ่มศิลปินชื่อดัง “โท มิน จุน” มาบวชเพื่อแก้บนที่คุณแม่บนบานไว้ว่า “ถ้าได้เดบิวท์ป็นศิลปินที่เกาหลีจะให้มาบวชที่นี่” และนั่นก็ทำให้สตอรี่พี่นาคสองทวีความหลอนต่อไป เมื่อทั้งสามคนที่หมายจะบวชเริ่มพบความน่ากลัวของอาถรรพ์โดยไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า ความตายที่หมายหัวทั้งสามคนนี้ คืออาถรรพ์วิญญาณนาคตนใดอาถรรพ์ห้ามบวชที่กำลังเอาชีวิตโทมินจุนหรืออาถรรพ์ห้ามศึกที่กำลังเอาชีวิตของเฟิร์สกับบอลลูนทั้งหมดต้องผ่านพ้นคำสาปเหล่านั้นไปให้ได้ความรู้สึกหลังออกจากโรงผมต้องบอกกับทุกๆ คนก่อนเลยว่า ผมไม่ได้มีความประทับใจมากนักกับภาคแรกครับ เนื่องด้วยบทบาทและการแสดงรวมทั้งเรื่องราวนั้นเน้นไปที่ตัว “บอลลูน” หรือเนต ไอดอลชื่อดัง “เอม ตามใจตุ๊ด” ที่ส่วนใหญ่แล้วกว่าครึ่งเรื่องเป็นการแสดงแบบโผงผาง นั่นคืออารมณ์แบบตะโกนตลอดเรื่อง “มึ้งงง ผีมาแล้ว” “มึ้งงง ช่วยกูด้วย” “มึงอย่าแหกปาก” อะไรประมาณนั้น ซึ่งในแง่ตลกมันทำออกมาได้ดีครับ แต่พอเชื่อมเข้ากับอรรถรสหนังแล้วมันทำให้หนังดูขาดๆ เกินๆ ด้วยความไม่สมจริง และเน้นความตลกมากเกินไปกระทั่งในภาคแรกนั้นมาทำได้ดีในช่วงท้าย ที่แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า เอม ตามใจตุ๊ด ไม่ได้มีดีแค่แหกปากแหกเสียง เธอแสดงอารมณ์ออกมาได้ดี สื่อความรู้สึกมาถึงผม ฉะนั้นแล้ว ภาคแรกผมจึงชอบครึ่งหลังของเรื่องราวมากกว่า เพราะมันทำให้ภาพยนตร์ดูกลมกล่อมไหลลื่นกว่าในช่วงแรก ที่ตลกบ้างไม่ตลกบ้างแต่ภาคนี้...ผมไม่มีความรู้สึกเหล่านั้นเลย แม้ตัวละครจะมีความวี้ดว้ายอยู่บ้าง แต่มันกลับลดทอนความกร้าวของน้ำเสียงลงไป ทำให้ตัวหนังนั้นดูไหลลื่นมากขึ้น ความตลกนั้นมาแต่พอดี และขับเคลื่อนเรื่องราวได้อย่างสมเหตุสมผลมากกว่าภาคแรก คือแม้มันจะเป็นหนังตลก แต่มันให้ความรู้สึกตลกที่จับต้องได้มากกว่านั่นเองละครับมาที่เรื่องราวของภาคนี้ มีตัวละครเข้ามาเพิ่มเติมความสนุกของเรื่องราวอีกมากมายเลยทีเดียว ทั้งเด็กวัดคนใหม่ และสามเณรรูปใหม่ ที่เข้ามาสร้างความหลากหลายให้เรื่องราวดูมีมิติมากขึ้น สำหรับความฮานั้นต้องบอกเลยว่ามันมีอยู่ตลอดเวลาครับ แต่ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เล่นใหญ่เหมือนภาคแรก แต่กลับทำให้รู้สึกสนุกมากกว่าภาคแรกมากพอประมาณเลยละครับการหลอกหลอนของผีก็มีหลายๆ ฉากที่ทำออกมาได้ขนลุกขนพอง ความโหดของนาคคนที่ 2 ที่ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา และภาคสองนี้ ก็ยังมีสตอรี่เพิ่มเติมอีกมากมายที่เจาะเข้าไปที่ตัวละครบางตัวได้อย่างดีเลยละครับ ผมว่าภาค 2 นี้ทำการบ้านมาจากภาคแรกได้ดี อะไรที่คนดูสะท้อนกลับมา ก็ถูกแก้ไข ปรับปรุง กระทั่งรู้สึกได้ว่า มันทัชกับความรู้สึกและครบรสในการดูมากๆ ครับโดยเรื่องราวของภาคที่ 2 นี้ผมมั่นใจว่ามีการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้วแน่ๆ เพราะเรื่องราวที่ “ไม่ค่อยน่าสนใจ” ในภาคแรกนั้น กลับมาเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการตามหาหนทางการแก้คำสาปของภาคนี้ครับ และที่สำคัญ ในภาคนี้นั้น สร้างเรื่องราวอันเป็นต้นเหตุของคำสาปได้หนักหน่วงกว่า ซึ่งมันเป็นตัวพล็อตที่เข้ามาเพื่อคลายปัญหาคาใจต่างๆ ว่าทำไมต้องมาบนในวัดนี้ตั้งแต่แรก ทำไมทุกคนต้องมาที่แห่งนี้และรับเหตุการณ์แสนทรมานนี้...ทุกอย่างถูกโยงใยเข้าด้วยกันอย่างแยบยลและเฉลยออกมาในจังหวะที่ถูกต้องและพอดีความครบรสของเรื่องราวในภาคนี้ ผมให้น้ำหนักมากกว่า เพราะมีการแสดงฉากอารมณ์ที่หนักหน่วง รุนแรงมากขึ้น ทำให้ผมรู้สึกอินและปล่อยอารมณ์ไปได้อย่างถึงที่สุด ฉากไหนขำก็หัวเราะเต็มปาก ฉากไหนกลัวก็นั่งขนลุกซู่ หรือฉากไหนที่เล่นกับอารมณ์คนดู ผมก็ร้องออกมาโดยไม่มีการเสแสร้ง มันตอบโจทย์ด้านการสื่อสารอารมณ์อย่างถึงที่สุดจริงๆการเดินเรื่องของภาคนี้สิ่งแรกที่ชัดเจนเลยคือการวางหมากล่อหลอกคนดู ว่ามันจะเป็นทางนี้ แต่กลับเป็นอีกทางหนึ่ง ทำให้เรื่องราวมีจุดหักมุมเพิ่มอรรถรสได้ดีกว่าภาคแรกได้แบบมากๆ เลยละครับ ทั้งการแทรกเสริมหลักธรรมคำสอนใดๆ ก็ตาม ทำได้แบบไม่ยัดเยียดครับ กลมกล่อมกำลังดีพร้อมทั้งปมหลักของเรื่อง...ผมชอบปมหลักของเรื่องนี้ ที่มันค่อยๆ เกี่ยวพัน สร้างความสมเหตุสมผลของเรื่องราวทั้งสองภาคได้อย่างลงตัว ทำให้อะไรก็ตามที่ขัดใจ คาใจในภาคแรก กลายเป็นคำตอบที่ชัดเจนภาคนี้ แล้วดำเนินต่อไปในเส้นเรื่องที่แข็งแรงสำหรับการสรุปโดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมขอเรียกมันว่าการกลับมาเพื่อเพิ่มความสนุก และทำลายข้อสงสัยของภาคเก่าจนหมดสิ้น และปิดสตอรี่นั้นๆ ได้อย่างเสร็จสรรพสมบูรณ์ครับ งานพล็อตดี งานภาพดี งานตลกก็ดี เป็นเรื่องที่ผมแนะนำให้ทุกๆ คนได้ดูเลยละครับส่วนตัว :: เมื่อรีวิวถึงจุดนี้ ผมกลับรู้สึกอยากขอโทษต่อคำปรามาสที่ใส่ไปในช่วงต้น เพราะอะไรน่ะหรือ ?นั่นเพราะว่าผมได้สัมผัสแล้ว ว่าตัวหนังทั้งสองภาคสอนอะไรกับเรา...เรื่องราวที่เกี่ยวกับพระธรรมคำสอนใดๆ ก็ตามนั้นสอนให้เราเป็นคนดี รู้จักปล่อยวาง และเติบโตขึ้นในหนทางที่ถูกที่ควร แน่นอนว่าวันนี้ ตัวละครอย่างบอลลูน และเฟิร์สนั้น ก็ค่อยๆ โตขึ้นเช่นกัน บางทีบุคลิกตัวละครอาจจะไม่ได้โดนปรับแก้เพราะถูกคอมเม้นต์ว่าโหวกเหวกโวยวายก็ได้...แต่มันควรจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วเนื่องจากตัวละครของเราโตขึ้น และมีเหตุผลในการดำเนินชีวิตมากขึ้นนั่นเองรีวิวมาทั้งหมดแล้ว หากจะไม่กล่าวถึงพี่นาคคนที่ 2 ก็กะไรอยู่ ผมติดตามหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่ตัวอย่างในเว็บและเห็นว่ามีคอมเม้นต์มากมาย "ไม่ชอบ” เมคอัพของผีตนนี้เพราะดูน่ารังเกียจ ทุเรศ เหมือนผิวหนังคางคกบ้างละ เหมือนอีสุกอีใสบ้างละ...ผมอยากจะบอกว่าเตรียมตัวลบคำปรามาสเหล่านั้น เพราะเรื่องราวจะพาคุณไปยังเหตุผลทั้งหมดเอง...สำหรับภาพยนตร์เรื่องพี่นาค 2 นี้ผมยินดีที่จะแนะนำให้ทุกคนไปดูครับ มันคือปัจฉิมบทของคำสาป มาเอาใจช่วยกันว่าตัวละครของเรานั้นจะฝ่าฟันมันไปได้อย่างไร...แล้วตอนจบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ?เข้าไปสัมผัสกับรสชาติที่หลากหลายอย่างลงตัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ที่โรงภาพยนตร์ครับ...เพิ่งเข้าโณงไปสดๆ ร้อนๆ เลยทีเดียวเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้วเมื่อคุณดูจบ กลับมาอ่านรีวิวนี้อีกครั้ง...คุณอาจจะรู้สึกเช่นเดียวกับที่ผมรู้สึกก็ได้ท้ายที่สุด ผมขอฝากวลีฮิตของหนังเรื่องนี้ไว้ก่อนจากกันครับ “โคคุณทวย”สวัสดีครับ!เรื่องและภาพโดย "น้องหีบ"