รีเซต

“แม๊” ยกเลิกหนังสือมอบอำนาจในการฟ้องคดีแตงโม ของ “นายอัจฉริยะ”

“แม๊” ยกเลิกหนังสือมอบอำนาจในการฟ้องคดีแตงโม ของ “นายอัจฉริยะ”
ดาราเดลี่บันเทิง
15 มิถุนายน 2565 ( 18:20 )
234

“แม๊” ยกเลิกหนังสือมอบอำนาจในการฟ้องคดีแตงโม ของ “นายอัจฉริยะ”  

       เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่ ศาลจังหวัดนนทบุรี “นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน” มารดาคุณ “แตงโม นิดา”  พร้อมด้วย “นางสาวภคอร จันทรคณา”  รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ นายบุญถาวร ปัญญามณีโชติ ทนายความทีม เพื่อมายืนยันการยกเลิกหนังสือมอบอำนาจในการฟ้องคดีแตงโม ของ “นายอัจฉริยะ”  พร้อมกับ ต้องการแก้ไขข้อหาที่ได้ยื่นต่อศาลด้วย 

 

        นายบุญถาวร กล่าวว่า ที่ผ่านมาคุณแม่ไว้ใจนายอัจฉริยะ ส.ส.เต้ และ ทีมงานให้ตรวจสอบข้อเท็จในการเสียชีวิตของคุณแตงโม นิดา และประสงค์ ที่จะยื่นต่อศาลในหลายข้อหา ก่อนหน้านี้ทางตำรวจและอัยการสรุปว่าเป็นการประมาทจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ทางคุณแม่มองว่ามีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ซึ่งเรามีหลักฐาน ที่บางส่วนได้นำเสนอต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว และเมื่อวาน นายอัจฉริยะได้ยื่นฟ้องต่อศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เจตนาฆ่า และมาตรา289 ฆ่าคนตายโดยลักษณะชกรรจ์ ไตร่ตรองไว้ก่อน โดยไม่ได้ปรึกษาคุณแม่ก่อน 

       คุณแม่เห็นว่า นายอัจฉริยะเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ได้ฟังทีมงาน และไม่มีการปรึกษากันแต่มาฟ้องร้องเอง แม่จึงตัดสินใจทำหนังสือแจ้งยกเลิก หนังสือการมอบอำนาจต่อนายอัจริยะทางเมล์มาที่ศาล วันนี้ศาลจึงได้ให้แม่มายืนยันหนังสือขอยกเลิกการมอบอำนาจต่อนายอัจฉริยะด้วย

      นอกจากนี้ เดิมที่ตั้งใจมาถอนคำฟ้องของนายอัจฉริยะ แต่เมื่อมาคัดคำฟ้องพบว่ายื่นมาตรา 290 เจตนาทำร้ายร่างกายจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รวมถึงมาตรา288 และมาตรา 289 เป็นเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ทำให้ไม่สามารถถอนคำฟ้อง 288 ,289 ได้ จึงจะไม่ดำเนินการยกเลิกใบมอบอำนาจในการฟ้องเท่านั้น โดยจะมีการไตร่สวนวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ 
       ดังนั้นต้องกลับไปดูคำฟ้องอย่างถี่ถ้วน รวมถึงพยานหลักฐานที่แนบมาถึงการดำเนินคดีตั้งใจฆาตกรรมตั้งแต่ต้นหรือไม่ ก่อนจะยื่นแก้ไขคำฟ้อง โดยจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะคดีนี้กระบวนเสร็จสมบูรณ์และศาลได้นัดไตร่สวนแล้ววันที่ 22 สิงหาคม 2565 
       โดยขอให้เวลาแม่ในการพิจารณากระบวนการหลักฐาน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหลักฐานเลย ยืนยันว่าแม่และอัจฉริยะไม่ได้แพแตก หรือมีความขัดแย้งรุนแรง เพียงแต่ความเห็นทางกฎหมายไม่ตรงกัน และยังสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเป็นหนึ่งในพยานคนสำคัญในคดีนี้ 
       ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงทนายความตอนนี้ยังไม่รับใครมาเป็นทนายแทน เพราะตนได้แนะแม่ว่าแม่สามารถยืนฟ้องเองได้ และไปใช้ทนายตอนไตร่สวนเพื่อซักค้าน และสามารถแต่งตั้งเพิ่มอีก 10 คนก็ได้ แต่ใช้คนนำสืบเป็นทนายที่แม่ไว้ได้ วันนี้ยังไว้ใจทีมทนายอัจฉริยะเช่นเดิม 
      ทั้งนี้ที่นายอัจฉริยะ ขู่ยืนถอนใบประกอบวิชาชีพทนายความทุกคนที่มารับความว่าแม่ ย้ำว่ายังสามารถพูดคุยกันได้ เพราะตอนนี้ก็ยังรอโทรศัพท์นายอัจฉริยะอยู่ 
      ด้าน นางภนิดา กล่าวว่า วันนี้ตนไม่เครียดอะไร เพียงแค่อดนอนเท่านั้น ตอนนี้ไม่สามารถตอบว่ายังเชื่อใจการดำเนินการของอัจฉริยะได้ เพราะยังไม่ได้เห็นหลักฐานทั้งหมด แต่ตนไม่ได้รู้สึกโกรธ อะไร ยังสามารถพูดคุยกันปกติ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่ได้อยากฟ้องเรื่องฆาตกรรม เพราะไม่อยากจองเวรใคร และมองว่าคงไม่ใช่เจตนาฆ่าตั้งแต่ต้น แค่เชื่อว่าลูกถูกทำร้าย 
       ส่วนเรื่องการฟ้องแพ่งนั้น ขณะนี้มีการคืนเงิน 250,000 บาท ให้ส.ส.เต้ แล้ว แต่ที่ผ่านมาตนเองไม่ทราบว่าจะมีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท เพราะในใจไม่มีเรื่องเงินเลยเพียงต้องการแค่อยากรู้ว่าลูกสาวตายยังไงมากกว่า 
      “ ทุกวันนี้ยอมรับว่ามีการคุยกับคนบนเรือ โดย ปอเป็นคนโทรมาหาแม่เอง ซึ่งคุยล่าสุดเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา โดยรายละเอียดไม่ได้คุยเรื่องเงินเลย เป็นเพียงการถามถึงสารทุกข์สุขดิบธรรมดาเท่านั้น แต่เขาก็มีการนัดอยากจะขอคุยด้วย แต่แม่ไม่มีเวลาเลย “ นางภนิดา กล่าว