รีเซต

โบว์ แวนดา ว่ายังไง! สาวๆ เตรียมยกป้ายไฟ น้องออโต้ ยิ่งโตยิ่งหล่อ-ออร่าปัง

โบว์ แวนดา ว่ายังไง! สาวๆ เตรียมยกป้ายไฟ น้องออโต้ ยิ่งโตยิ่งหล่อ-ออร่าปัง
ข่าวสด
15 กันยายน 2564 ( 12:53 )
160

โบว์ แวนดา ว่ายังไง! สาวๆ เตรียมยกป้ายไฟ น้องออโต้ ยิ่งโตยิ่งหล่อ-ออร่าปัง เผยแมวมองจีบเข้าวงการ พร้อมแง้มสถานะหัวใจลูกชาย

เรียกว่ายิ่งโตยิ่งหล่อ สำหรับ น้องออโต้ ลูกชายของคุณแม่คนเก่ง โบว์ แวนดา ที่ตอนนี้อายุ 17 ปีแล้ว แถมยังฉายแววศิลปินทั้งร้องทั้งเต้นแบบออร่าปังสุดๆ จนสาวน้อยสาวใหญ่เตรียมยกป้ายไฟรอเชียร์

ล่าสุด โบว์ แวนดา เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงออร่าความหล่อของลูกชาย พร้อมความสามารถทางด้านการเต้นสไตล์เกาหลี ทั้งที่ก่อนหน้านี้เหมือนจะเอาดีทางการร้องเพลงแบบชาวร็อก ก่อนจะแง้มสถานะหัวใจ น้องออโต้ ว่ายังโสดอยู่หรือไม่?!

ลูกชายหล่อบอกต่อด้วย? “หล่อใช่ไหม ปกติธรรมดานะ มีสาวๆ มาแซว น่ารักดีค่ะ เป็นวัยของเขาก็โอเคโตสมวัยเขา 17 แล้วอ่ะ เป็นหนุ่มแล้ว จริงๆ อย่าบอกต่อเลยเดี๋ยวปัญหาเข้ามาเยอะ(หัวเราะ) หล่ออยู่ในถ้ำนี่แหละ ลูกชายหล่อบอกต่อด้วย หล่อก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ที่โบว์อยากให้เขาเป็นมากกว่าก็คือลูกชายเก่งลูกชายดีบอกต่อด้วยดีกว่า หล่อไม่หล่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญค่ะ อยากให้เขาเป็นคนดีและทำหน้าที่ในสิ่งที่เขาต้องทำมากกว่า”

คนชมเยอะ? “จริงๆ ไม่มีใครชมเราก็ภูมิใจในตัวลูกเราในแบบของเราอยู่แล้ว แต่พอเรามาอ่านในโซเชี่ยลซึ่งต้องยอมรับว่าโซเชี่ยลมันมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ มีความน่ากลัว บางทีเราเห็นเขามีคนชมเยอะๆ ก็ดีใจแหละแต่ในความดีใจมันมีความกลัวมากกว่า กลัวเขาจะหลงในคำชื่นชม มีความสุขกับคำชม แล้วพอวันหนึ่งมันมีด้านลบที่เขาต้องเผชิญ กลัวเขาจะรับไม่ได้และรู้สึกนอยด์”

“เลยจะบอกเขาว่าเวลาเล่นโซเชี่ยลไม่ว่าจะเป็นไอจีหรือเฟซบุ๊กให้เล่นอย่างมีสติ เพราะเราอาจจะไม่ได้รับคำชมตลอดเวลา บางทีอาจจะหลุดมาที่แบบว่าเราอ่านแล้วเรารู้สึกไม่พอใจก็ต้องใช้สติในการเล่น เขาก็จะบอกว่าโอเคลูกแม่ไม่หลงอยู่แล้ว คือต้องคอยเตือนค่ะ”

เริ่มมีคนทาบทามเข้าวงการหรือยัง? “เริ่มมีมาบ้างค่ะ ทุกอย่างที่เข้ามาเราก็จะให้เขาตัดสินใจเอง อยากจะไปไหน อยากทำอะไร จะไปออดิชั่นที่ไหน เราก็จะถามเขาว่าเขาอยากไหม ถ้าไปแล้วได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง เวลาไปไหนก็ตามแต่โบว์ก็จะให้เขาไปเอง ไม่ได้ไปด้วย แต่ก็ต้องบอกเขาก่อนไม่ใช่ว่าแม่ไม่ได้ห่วงนะ แต่ว่าหนูโตแล้ว”

สนับสนุนให้ลูกเข้าวงการไหม? “จริงๆ แล้วแต่เขานะคะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งมะลิทั้งออโต้ ไม่ว่าจะเป็นวงการไหนบนโลกใบนี้ บอกทั้งคู่ว่าถ้าชอบอะไรทำอะไรแล้วมีความสุขก็ให้ตั้งใจทำและไปให้สุด ตัวเราเป็นแม่จะคอยดูเขาข้างหลังและคอยสนับสนุนในสิ่งที่เขาชอบ แต่ก็จะบอกเสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูชอบ อย่างหนึ่งที่หนูทิ้งไม่ได้และต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือการเรียน”

ลูกชายปรึกษาเรื่องเข้าวงการบ้างไหม? “ตอนนี้เขาชอบศิลปินบีทีเอสมาก แล้วเราก็ดูจากการที่เขาเต้น ออโต้ไม่เคยเรียนเต้นเลย ที่เขาเต้นเขาก็จะแกะมาจากยูทูบ แล้วกลายเป็นว่าเขาก็ตั้งใจและออกมาเป็นเพลงที่เราได้ดู อันนี้มันก็เหมือนกับความชอบและพรสวรรค์เขาแล้วเพราะออกมาดี ทุกครั้งที่ดูคลิปมันก็จะยิ้มอัตโนมัติ แต่บางทีก็จะให้กำลังใจเขาบอกว่า…เก่งนะเนี่ย ไม่น่าเชื่อ”

จากนักร้องสายร็อกมาเป็นนักเต้นสายเกาหลีได้ยังไง? “เออ…เอาจริงๆ เราเป็นแม่บางทีเราก็ยังงงกับเขาเลยเพราะปกติเขาเป็นเด็กขี้อาย แล้วก็ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ตอนร้องเพลงก็ไม่เท่าไหร่ เหมือนยังมีอะไรนิดหนึ่งที่มันยังไม่สุด แต่คือเหมือนมะลิเลย พอได้เต้นเมื่อไหร่แล้วเฮ้ย! ทำไมความอายที่เราเคยมองไว้ แต่เขาใส่ฟีลลิ่งทุกอย่าง เล่นหูเล่นตาตอนเต้น”

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย Bo Vanda (@vanda29)

“เราก็เลยรู้สึกว่าน่าจะมาสายเต้นแล้วล่ะ ไม่น่าจะมาสายร็อกแล้ว เลยถามเขาว่าถนัดแบบไหน เขาบอกชอบทั้งสองอย่าง แต่เวลาเขาเต้นเขาสามารถปลดปล่อยได้ ลืมความอายไปในตัว เราก็เลยบอกว่างั้นเต็มที่ อยากเรียนเพิ่มอยากอะไรก็ว่ามา”

คลิปพี่น้องเต้นคู่กัน คนชอบมาก? “เวลาได้ลงไปก็มีการตอบรับที่ดี คนดูก็เยอะ หลายคนก็บอกว่าแม่ทำคลิปบ่อยๆ เพราะว่าเวลาดูแล้วมันก็หายเครียด เหมือนแบบพี่สอนน้อง น้องสอนพี่ บางทีออโต้ก็จะถามมะลิว่าตรงนี้ทำยังไง บางทีมะลิก็จะถามพี่ออโต้ว่าตรงนี้มันยังไง เป็นอีกกิจกรรมที่คนเป็นแม่นั่งดูแล้วเราก็เพลินดี”

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย Bo Vanda (@vanda29)

เห็นว่ามีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกับลูกชาย? “จริงๆ อย่างออโต้เราเคยคุยกันแล้วว่าหนูรู้แล้วว่าหนูชอบอะไร ทีนี้มันคือสิ่งที่หนูต้องพยายามแล้วว่าหนูจะไปทางไหน แล้วก็ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูจะเป็นในอนาคตต่อจากนี้ แม่อยากให้มันมาจากออโต้เอง แม่ไม่อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันมาเพราะว่าเป็นลูกแม่โบว์คนนี้เลยเอาไป ดังมาได้เพราะแม่โบว์ หรือว่ามีตัวตนได้เพราะแม่โบว์หรือน้องมะลิ มันไม่ใช่”

“ถ้าวันหนึ่งเขาจะมีชื่อเสียง สมมตินะคะถ้ามีชื่อเสียงหรือประสบความสำเร็จในด้านที่เขาชอบก็อยากให้รู้สึกว่ามันมาจากตัวเขาเอง ไม่ได้มาจากแม่แล้วก็ไม่ได้มาจากมะลิ ซึ่งก็คุยกันเพราะเราก็กลัวลูกจะน้อยใจว่าบางทีทำไมลงรูปมะลิเยอะ ทำไมไม่ลงออโต้ ซึ่งตรงนี้เราก็เคลียร์และทำความเข้าใจกันแล้วว่าอะไรคืออะไร”

เรื่องสาวๆ ล่ะ? “ไม่หวงนะ แต่จะบอกเขาตลอดว่ายังเด็กอยู่นะ เรายังมีหน้าที่ที่จะต้องทำนะ ยังต้องสานฝันตัวเองอยู่ ต้องตั้งใจเรียนอยู่ ถ้ามีมีได้แต่ต้องรู้ขอบเขต ต้องรู้ว่าเราควรจะคบกันแบบไหน เราจะบอกเสมออะไรก็ได้นะลูก แต่ขอไม่ลักขโมย ไม่พูดโกหก ยาเสพติดให้ห่าง และอย่าทำผู้หญิงท้อง(หัวเราะ)

“เราก็จะพูดในแนวบ้านๆ อย่านะลูกมันยังไม่ถึงเวลา ราต้องให้เกียรติผู้หญิงก็จะบอกอยู่ตลอดว่าผู้หญิงคือเพศแม่ เพราะฉะนั้นหนูจะทำอะไรต้องให้เกียรติผู้หญิง แล้วอย่างหนึ่งที่ไม่ควรทำก็คือการเล่นกับความรู้สึกคน การบริหารเสน่ห์ตัวเอง หรืออยากรู้ว่าใครชอบเราก็ไปหว่านเสน่ห์ไปทอดสะพานให้เขา แล้วถึงเวลาก็ทำร้ายเขา อย่างนี้ไม่เอา สิ่งที่แม่เกลียดที่สุดก็คือการเล่นกับความรู้สึกของคน”

ลูกชายโสดไหม? “มีไหม…ก็ถามว่ามียัง เขาบอกก็คุยๆ กันอยู่แม่ สมัยก่อนนะ แต่ตอนนี้น่าจะโสดสนิทแล้วล่ะ ดีแล้วลูก โสดไปสัก 5-6 ปี(หัวเราะ)

น้องมะลิหวงพี่ชายไหม? “หวงไม่หวงไม่รู้นะ แต่เขาชอบถามว่า อย่าให้รู้นะว่ามีอ่ะ ถ้ามีจะฟ้องแม่ เป็นเด็กอ่ะอย่ามีนะ มะลิไม่มีออโต้ก็ต้องไม่มี คือถ้าเขาไม่มีทุกคนก็ห้ามมี มะลิจะหวงโบว์มากกว่า เราก็จะบอกว่าแก่อย่างนี้ไม่มีใครเอาแล้วลูก เขาก็จะแบบอย่านะแม่ ตามประสาเด็ก”

อยากให้ลูกมีความสุขกับเส้นทางที่เลือกเดิน? “แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เขาขาดพ่อทั้งคู่ แต่ว่าเราก็พยายามทำหน้าที่พ่อและแม่ให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ โบว์จะถือว่าชีวิตเขาทั้งออโต้ทั้งมะลิมันไม่ใช่ของเรา ชีวิตเขาก็คือของเขา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็แล้วแต่ซึ่งมันอาจจะดูไม่เข้าตาใคร แต่ถ้าเส้นทางที่เขาเลือกเดินมันเป็นเส้นทางที่ทำให้ชีวิตเขาทั้งคู่มีความสุข แค่นี้โบว์พอใจแล้ว”