รีวิวหนัง "Frankenstein แฟรงเกนสไตน์" เนรมิตเสกสรรตำนานมอนสเตอร์..ฉบับมหากาพย์
รีวิวหนัง Frankenstein แฟรงเกนสไตน์ - หนึ่งในมอนสเตอร์ที่มักจะถูกนำมาปัดฝุ่นรังสรรค์สร้างใหม่อยู่บ่อย ๆ และในปี 2025 เขาก็กลับมาอีกครั้งกับเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่แสนบรรเจิด "Frankenstein แฟรงเกนสไตน์" หนึ่งในหนังฟอร์มยิ่งใหญ่ของเน็ตฟลิกซ์ในปีนี้ ที่ได้คว้าตัวพ่อระดับผู้สร้างจินตนาการล้น "กิลเลอร์โม เดล โตโร" มาอยู่เบื้องหลังในการปลุกเสกความมหัศจรรย์ให้กลายมาเป็นมหากาพย์ครั้งใหม่ ที่พร้อมจะทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจกับปีศาจตนนี้
เรื่องราวอันแสนทะเยอทะยานของ วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ นักวิทยาศาสตร์หนุ่มผู้ปราดเปรื่อง แต่แฝงไปด้วยอุปนิสัยแสนเย่อหยิ่งเห็นทะนงตน ผู้ซึ่งให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตจากการทดลองอันน่าสะพรึงกลัว ที่นำไปสู่ความพินาศพังทลายของผู้สร้างและสิ่งมีชีวิตที่เขาสร้างขึ้น
ก็ถ้าหากจะให้ใครมาละเลงงานสร้างหนังท่วงทำนองนี้ ก็มีอยู่เพียงไม่กี่คนในปัจจุบันที่จะยั้งรู้และเข้าถึงอินเนอร์ของพวกเขามัน หนึ่งในนั้นก็ย่อมมีชื่อ กิลเลอร์โม เดล โตโร ผู้กำกับเจ้าของ 3 รางวัลออสการ์การันตี ที่ไม่แปลกใจที่เน็ตฟลิกซ์ไว้วางใจเขาให้มารับหน้าที่สร้างหนังเรื่องนี้ได้อย่างเต็มเปี่ยม กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานพิถีพิถันและทะเยอทะยานครั้งล่าสุดของเขา โดยรับหน้าที่กำกับหนังเอง อำนวยการสร้างหนังด้วย พร้อมกับลงมือเขียนบทหนังจากน้ำมือตัวเอง ที่รังสรรค์มาจากต้นฉบับนิยายโกธิคแห่งศตวรรษที่ 19 ของ แมรี่ เชลลีย์
แน่นอนว่า Frankenstein ฉบับปี 2025 เป็นชิ้นงานที่เราสามารถไว้วางใจในองค์ประกอบงานสร้างได้เลย เพราะฝีมือของ กิลเลอร์โม เดล โตโร ยังคงรสมือจัดจ้านในการดีไซน์โปรดักชันและเซ็ตฉากต่าง ๆ ออกมาได้ตื่นตาตื่นใจ ยิ่งหนังเรื่องนี้ได้ไฟเขียวให้เขาได้ละเลงผลงานได้อย่างเต็มที่ กับทุนสร้างระดับเทียบเคียงหนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มใหญ่ยักษ์เรื่องหนึ่ง ทำให้ทุก ๆ อณูของงานโปรดักชันเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเปล่งประกาย
ขณะที่การเซ็ตฉากต่าง ๆ มาพร้อมกับงานแสนละเอียดแบบตามฉบับของนักสร้างผู้นี้ เป็นงานที่ใส่ใจไปถึงแม้แสงตกกระทบที่ปรากฏเข้าเลนส์กล้อง ทำให้เชื่อได้เลยว่า Frankenstein เรื่องนี้น่าจะโดดเด่นบทเวทีรางวัลต่าง ๆ กับสาขาออกแบบโปรดักชันได้อย่างไม่ยากเย็น อีกทั้งยังมีการออกแบบเสื้อผ้าและการแต่งหน้าทำผมที่น่าพิสมัยยิ่งใหญ่ ออกมาเป็นงานสร้างที่ช่วยเต็มเติมและเพิ่มพูนอารมณ์ให้เข้ากับบรรยากาศของหนังได้เป็นอย่างดีอีกเช่นกัน
และอีกส่วนผสมที่น่าจะโดดเด่นได้ดีไม่น้อยหน้า ก็คืองานดัดแปลงบทหนัง ที่ กิลเลอร์โม เดล โตโร เป็นผู้ลงมือเขียนบทหนังเอง นี่คือ Frankenstein เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ไม่ได้เน้นโทนสยองขวัญและภาพดำหม่นแบบเวอร์ชันก่อนหน้านี้ หนังได้ตีความและนำเสนอในมุมมองเหลือจะเชื่อของอัจฉริยะสมองเฟื่องที่หมกมุ่นอยู่กับการสร้างผลงานในการชุบชีวิตได้อย่างเติมเต็มจินตนการเข้ากันอย่างลงตัว มันกลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยเลือดและศพชวนขยะแขยง ที่มีสีสันและสว่างกว่าครั้งไหน ๆ ที่ผ่านมา และบทหนังเรื่องนี้ใส่มิติให้กับตัวละครได้อย่างเต็มเปี่ยม อัดแน่นไปด้วยเนื้อหายาวกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่เอาจริง ๆ เป็นปริมาณที่แอบจะยืดเยื้อไปนิดหน่อย
Frankenstein ยังมาพร้อมกับทีมนักแสดงชั้นนำแบบจัดจ้าน "ออสการ์ ไอแซ็ก" มารับบทนำที่ทรงเสน่ห์ ศักยภาพของเขาแบกรับหนังเอาไว้ได้อย่างสบาย แน่นอนว่าเพราะบทส่งถึงเขาได้อย่างเปล่งประกาย ด้วยความเขาที่สวมวิญญาณเป็นคาแรกเตอร์เดียวกับชื่อเรื่อง ความแข็งแกร่งและพลังอันเรืองรองในการเป็นมืออาชีพทางการแสดงของเขาก็สามารถขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ได้อย่างมีติ โดยที่มี "มีอา ก็อธ", "ลาร์ส มิคเคลเซน" หรือ "คริสตอฟ วอลต์ซ" มาช่วยสนับสนุนเพิ่มพูนทางการแสดงให้กับแคสติ้งหนังเรื่องนี้
แต่กลายว่าการแสดงที่เจิดจ้าและเจิดจรัสได้ยิ่งกว่าคนอื่น ๆ กลับกลายเป็น "เจคอบ เออเลอร์ดี" ที่มอบการแสดงแบบขโมยซีนได้อย่างแกร่งกล้า จากดาราหนุ่มสุดฮอตที่สาว ๆ กรี๊ดกันมาต่อเนื่อง บัดนี้เขาได้บทบาทที่ท้าทายฝีมือทางการแสดงแล้ว แม้ว่าจะเป็นการรับบทเป็น เดอะ ครีเอเจอร์ สิ่งมีชีวิตประดิษฐ์เสมือนมนุษย์ ที่เน้นการแสดงในเชิงพฤติการณ์อย่างมีชั้นเชิง นั่นทำให้ทุกท่วงท่าทางการแสดงของเขาโดดเด่นตกผลึกออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และกลายเป็นนักแสดงที่น่าจะมีโอกาสและภาษีที่สูงกว่าใคร ๆ ในการมีบทบาทบนเวทีรางวัลในภายภาคหน้า
โดยภาพรวมแล้ว Frankenstein เวอร์ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานบล็อกบัสเตอร์ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดแบบบรรจงสร้าง เป็นงานที่เข้าทางและเข้ามือของผู้กำกับที่เลือกมารังสรรค์ได้อย่างเหมาะเจาะ ถึงแม้ว่าในลีลาการเล่าเรื่องและสไตล์การถ่ายทอดของหนังเรื่องนี้จะไม่ได้ฉูดฉาดและเร้าใจมากนัก วิธีการร้อยเรียงเรื่องค่อนข้างยาวนานไปสักนิด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุก ๆ ภาพที่หนังถ่ายทอดออกมานั้น ล้วนมีเหตุและผลในตัวเองทั้งสิ้น
กระนั้นแล้ว Frankenstein ก็ยังจัดได้ว่าเป็นผลงานที่น่าจะดีเด่นบนเวทีรางวัลต่าง ๆ ในช่วงต้นปีหน้าได้อย่างสบาย ๆ โดยเฉพาะรางวัลทางด้านงานสร้าง หนังน่าจะมีโอกาสได้เข้าชิงรางวัลหลากหลายสาขาในแบบที่ไม่ค้านสายตา เพราะนี่คือหนังที่เต็มไปด้วยการทุ่มทุนสร้างที่คุ้มค่า ถึงจะยังไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบทุกด้านใด ๆ แต่ก็จัดได้ว่าเป็นงานศิลป์ที่เติมเต็มจินตนาการได้อย่างเปี่ยมล้น
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Frankenstein แฟรงเกนสไตน์
- ประเภท: แฟนตาซี / สยองขวัญ / ดรามา
- ผู้กำกับ: กิลเลอร์โม เดล โตโร
- นำแสดงโดย: ออสการ์ ไอแซ็ก, เจคอบ เออลอร์ดี, คริสตอฟ วอลต์ซ, มีอา ก็อธ
- ความยาว: 149 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 7 พฤศจิกายน 2025 (ที่ Netflix)
Movie.TrueID METRIC: Frankenstein แฟรงเกนสไตน์
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.1/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.2/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.5/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.9/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.3/10)
ห้ามพลาด! แพ็กเกจ True 5G Super Netflix เอาใจคนรักความบันเทิงสนุก
กับการดู Netflix ได้คมชัดทุกจอ เริ่มต้นแค่เพียง 499 บาท/เดือน คลิกเลย!
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa