ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 กระแสของหนัง หรือซีรีส์เกาหลี ยังเป็นงานที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และยังไม่ได้รับความสนใจเป็นวงกว้างมากนัก เพราะภาพจำของหลาย ๆ คนต่างยังจดจำว่าหนัง หรือซีรีส์เกาหลี ล้วนแต่เป็นแนวโรแมนติก ชวนจิ้น ในขณะที่หนังอินดี้นอกกระแสของ ปาร์ค ชาน-วุค หรือบง จุนโฮ ในขณะนั้นก็เป็นที่รู้จักของคอหนังเฉพาะกลุ่ม จนกระทั่งในช่วงปลายปีนั่นเอง ก็ได้มีหนังม้ามืดอย่าง Train to Busan ที่ได้สร้างกระแสครั้งใหญ่ขึ้นในเมืองไทย รวมถึงทั่วโลก ก่อนที่หนังเรื่องดังกล่าวจะกลายเป็นปรากฏการณ์หหนังซอมบี้เอเชียที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยมีมา ซึ่งโพสต์นี้จะขอพาทุกคนย้อนกลับไปสำรวจถึงความสำเร็จของหนังเรื่องนี้กันอีกครั้ง ก่อนที่จะไปเตรียมชม Peninsula หนังภาคต่อของ Train to Busan ที่ถูกวางกำหนดฉายในปีนี้Train to Busan จะเล่าเรื่องราวของ สองพ่อลูก โดย ซอกวู ผู้เป็นพ่อ(รับบทโดย กง ยู) ทำอาชีพเป็นนักธุรกิจที่กำลังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่กลับล้มเหลวในด้านของความเป็นพ่อ ทำให้ลูกสาวอย่าง ซูอา(รับบทโดย อาน คิมซู) รู้สึกห่างเหินจากพ่อ จนกระทั่งในช่วงวันหยุดยาว ซอกวู ได้ตัดสินใจพา ซูอา เดินทางไปยัง ปูซาน เพื่อไปเยี่ยมผู้เป็นภรรยา และแม่ หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานาน โดยสองพ่อลูกได้นั่งรถไฟ ที่ตรงจากสถานีกรุงโซล แต่ทว่าเหตุไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อในรถไฟขบวนเดียวกันที่สองพ่อลูกขึ้นนั้น ได้มีผู้ติดเชื้อจากการถูกซอมบี้กัด ขึ้นมาบนรถไฟ ก่อนที่จะเกิดความโกลาหล และกลายเป็นการกระจายเชื้อให้คนบนรถไฟอย่างรวดเร็ว ซอกวู จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องซูอา และร่วมมือกับผู้คนบนสถานีรถไฟ เพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ในครั้งนี้ หากมองโดยภาพรวม Train to Busan คือหนังซอมบี้สูตรสำเร็จ ที่มาพร้อมทุกองค์ประกอบที่หนังซอมบี้ควรมี ไม่ว่าจะเป็นกองทัพซอมบี้กระหายเลือด ,ตัวละครในกลุ่มที่เหลือรอด ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งคนท้อง คนเห็นแก่ตัว คนที่เสียสละ แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้ สามารถประสบความสำเร็จ และสามารถสร้างความโดดเด่นจากหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่น ๆ คือการใส่ความเป็นเอเชียดราม่า ที่สามารถสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูได้อย่างอยู่หมัด หนังเลือกใช้วิธีการเล่าเรื่องผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในรถไฟขบวนเดียวตลอดทั้งเรื่อง ก่อนที่จะค่อย ๆ พาคนดูไปทำความรู้จักกับเหล่าตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง เมื่อหนังเริ่มเข้าสู่สถานการณ์สำคัญอย่างการโดนซอมบี้แพร่เชื้อ หนังก็จะค่อย ๆ พาคนดู ไปพบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ชวนตื่นเต้น กดดัน ลุ้นระทึก แต่ความน่าสนใจของหนังคือการค่อย ๆ ทำให้เราได้เห็นแก่นแท้ของผู้คนในสังคมผ่านเหล่าตัวละครในรถไฟ โดยเฉพาะเรื่องความเห็นแก่ตัวของผู้คนในยามคับขันที่หนังสามารถสะท้อนออกมาได้อย่างชัดเจนในด้านของความสยองขวัญ ระทึกขวัญ หนังก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้สมดีกรีหนังฟอร์มยักษ์ โดยเฉพาะฉากฝูงซอมบี้ที่บุกถล่มสถานีรถไฟ ที่ทำออกมาได้ยิ่งใหญ่ สมจริง และจุดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือคาแรคเตอร์ซอมบี้สไตล์เกาหลี ที่ได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ที่ส่งผลมาถึงหนังซอมบี้สัญชาติเดียวกันอย่าง Rampant และ Kingdom โดยซอมบี้ของหนังเรื่องนี้จะมีกระดูกที่บิดเบี้ยว และการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ถ้าพูดถึงความน่ากลัว และความไวของซอมบี้เกาหลี ถือว่าเหนือชั้นกว่าซอมบี้อเมริกันมากอีกหนึ่งจุดแข็งของหนังเรื่องนี้ คือการแฝงอารมณ์ของหนังดราม่าเอเชียแฝงอยู่ในหนังตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะความสัมพันธ์พ่อลูก ที่การแสดงของ กง ยู และอาน คิมซู สามารถเรียกน้ำตาใครหลาย ๆ คนได้อย่างทรงพลัง รวมถึงบทของ มา ดงซอก และ จอง ยูมิ ในบทสามี ภรรยาท้องแก่ที่ขโมยซีนจนกลายเป็นอีกสองตัวละครที่ถูกจดจำ และพูดถึงมาจนทุกวันนี้ด้วยความกลมกล่อมลงตัวของบทหนังที่หลากอรมณ์มากกว่าการเป็นแค่หนังซอมบี้สูตรสำเร็จที่เน้นความสยองขวัญ ระทึกขวัญเป็นหลัก ทำให้ Train to Busan ได้สร้างกระแสปากต่อปาก จนกลายเป็นหนังเกาหลีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2016 เคียงคู่กับ The Handmaiden ที่เป็นตัวแทนหนังเกาหลีเข้าชิงออสการ์ในปี 2017 ด้วยความประสบความสำเร็จทั้งรายได้ และคำวิจารณ์ ทำให้เรื่องราวซอมบี้ของ Train to Busan ยังไม่จบลงแค่นั้น หนังซอมบี้เรื่องนี้ยังได้มีการสร้างจักรวาลของตัวเอง ด้วยการสร้าง Seoul Station หนังอนิเมชั้น ก่อนเหตุการณ์บนรถไฟ และสร้างหนังภาคต่ออย่าง Peninsula ซึ่งเตรียมกำหนดฉายในปี 2020 นี้ความน่าสนใจของ Peninsula คือการเล่าเรื่องราว 4 ปีหลังจาก Train to Busan ที่เราจะได้เห็นเกาหลี ในรูปแบบหนัง Post Apocalypse หรือหลังจากวันสิ้นโลกนั่นเอง พร้อมทั้งหนังก็เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครนำชุดใหม่ที่นำทีมโดย กัง ดง วอน ซึ่งจากตัวอย่างที่หนังปล่อยออกมาไม่นานนี้ก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้หลาย ๆ คน เพราะคร้งนี้หนังไม่ได้แค่พาเราหนีเอาชีวิตรอดจากซอมบี้เท่านั้น แต่ยังยกระดับให้ตัวละครได้ออกไปบู๊กับซอมบี้ ด้วยอาวุธที่ครบมือกว่าเดิมสำหรับ Peninsula หนังยังถูกจัดจำหน่ายโดย บริษัทมงคล ภาพยนตร์ ที่อยู่ในเครือ สหมงคล ฟิล์ม แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ทำให้ทางค่ายภาพยนตร์เองก็ไม่สามารถประกาศวันฉายอย่างแน่นอนได้ในตอนนี้ และใช้คำว่า เร็ว ๆ นี้ แทน อย่างไรก็ตามหลังจากสิ้นสุดสถานการณ์ โควิด-19 เราอาจได้ทราบวันฉายอย่างแน่นอนของ Peninsula กันอีกทีCr. รูปภาพ http://sahamongkolfilm.com/saha-movie/train-to-busan/ http://sahamongkolfilm.com/saha-news/peninsula-teaser-trailer/ http://sahamongkolfilm.com/saha-news/peninsula-kor-teaser-poster/