รีวิวหนัง “Lonely Planet ที่หมายใจโดดเดี่ยว” ฉ่ำเฉิ่มกับพล็อตรักเชย ๆ ความเหงาเราสองคน

ถ้าคุณยังไม่เบื่อกับคอนเทน์โรแมนซ์ชวนเลี่ยนชวนเวียนหัวก็เชิญมาดื่มด่ำกับหนังโรแมนซ์ที่พยายามสะกิดต่อมศีลธรรมในลักษณะ...รักแท้แพ้ใกล้ชิด ใน “Lonely Planet ที่หมายใจโดดเดี่ยว” แม้ว่าชื่อเรื่องจะเหมือนกับนิตยสารท่องเที่ยวเล่มดังระดับโลก แต่เป็นการทำเอาชื่อนั้นมาตีความเป็นความหมายแห่งความเดียวดายในความสัมพันธ์ ทั้งที่ไม่ได้ครองเป็นโสดในบนโลกใหญ่ใบนี้

Lonely Planet ว่าด้วยชีวิตของ แคทเธอรีน โลว์ นักเขียนหญิงผู้ประสบความสำเร็จ ที่กำลังติดแหง็กอยู่กับการปิดต้นฉบับหนังสือเล่มใหม่ของเธอ ทำให้เธอเลือกที่จะบินข้ามโลกมาที่โมร็อกโก เข้าพักรีสอร์ตอันเงียบสงบ พร้อมกับทิ้งปัญหาคาราคาซังต่าง ๆ เอาไว้เบื้องหลังก่อน รวมทั้งปมการจบชีวิตคู่อันยาวนานของเธอ เพื่อหันมาโฟกัสที่งานเขียนอย่างจดจ่อเพียงอย่างเดียว

ขณะเดียวกัน ลิลลี เคมป์ นักเขียนสาวดาวรุ่งที่เป็นแฟนตัวยงของแคทเธอรีน ได้รับเชิญมาร่วมพบเจอชุมนุมเหล่านักเขียนที่โมร็อกโกเช่นเดียวกัน เธอเดินทางมากับ โอเว่น แฟนหนุ่มที่ช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนข้างกายเธอในทริปนี้ แต่กลายเป็นว่าหนุ่มสาวที่ต่างมีแนวคิดคนละแบบ กลับทำให้พวกเขาค่อย ๆ ห่างเหินและดูแทรกเข้ามาด้วยความเหงา กลายเป็นว่าคนทั้ง 3 คนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหงาต้องมาพัวพันในความสัมพันธ์ของกันและกัน

นี่คือผลงานล่าสุดของนักสร้างหนังหญิงชื่อดัง “ซูแซนนาห์ แกรนท์” ผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมากว่า 30 ปี โดยถือว่าเป็นผลงานการกลับมาทำหนังในรอบเกือบ 20 ปีของเธอ นับตั้งแต่หนังรักดรามาที่ไม่ค่อยจะดัง อย่าง Catch and Release เมื่อปี 2006 ครั้งนี้เธอก็ยังคงกลับมาทำหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทหนังด้วยตัวเธอเองอีกเช่นเคย

ในแง่บทหนัง ถ้าหากว่าติดตามผลงานของเธอคนนี้มาตั้งแต่เริ่มแรกจะทราบดีกว่าบทหนังของเธอจะค่อนข้างเล่าไปในทิศทางแบบค่อยเป็นค่อยไปเสมอ ๆ ไม่รีบร้อน ไม่จัดจ้าน และยังคงเส้นคงวากับประเด็นที่ต้องการจะสื่อสารอย่างซื่อตรงเสมอ ซึ่งใน Lonely Planet เรื่องนี้ก็เช่นกัน ซูแซนนาห์ยังประพันธ์บทหนังของเธอออกมาได้อย่างกลมกล่อมกับสไตล์ที่อาจจะค่อนข้างเฉิ่มเชยไปสักหน่อย เป็นบทหนังที่อาจจะไม่ได้มีความแปลกใหม่และเสน่ห์เปล่งปลั่งขนาดนั้น แต่ก็ไม่ใช่บทที่เลวร้ายใด ๆ

แต่กระนั้นนี่คือก็คือความยาวชั่วโมงครึ่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนยาวเป็น 2 ชั่วโมง เพราะท่วงท่าลีลาและการร้อยเรียงเรื่องราวในหนังแบบสโลว์ไปทีละลำดับขั้น บางครั้งก็ทำให้รู้สึกว่าหนังเดินไปข้างหน้าช้าเกินไปสักหน่อย ทั้งที่มันไม่ได้ช้าเลย เพียงแต่ว่าปล่อยให้คนดูหลงไปกับการเล่าเรื่องแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ มากเกินไปนิด จนเกือบจะทำให้คนดูหลุดโฟกัสไปในบางที แม้ว่าหนังจะเป็นการเล่าถึงความสัมพันธ์ในลักษณะชู้สาวต่างวัย แต่น่าเสียดายที่ตัวหนังไม่ได้ลงรายละเอียดในองค์ประกอบนี้ได้ดีเท่าที่ควร

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแม่เหล็กและไฮไลต์ของเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนักแสดงนำล้วน ๆ การที่ได้ “ลอรา เดิร์น” ดารารุ่นใหญ่ตัวแม่มารับเล่นหนังรักอะไรทำนองนี้ แทบจะไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่แม่ก็คือแม่ เธอสามารถรับมือและแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้รอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอได้อย่างเป็นมืออาชีพ แม้ว่าบทบาทหนังเธอจะเชยสะบัด ไม่มีความเด่นชัด และอาจจะไม่ได้ท้าทายฝีมือการแสดงของเธอเลยสักนิด แต่ก็เป็นหนังรักที่จริง ๆ เธออาจจะไม่ค่อยได้โอกาสได้โชว์มุมนี้ออกมาในผลงานด้วยเองเท่าไหร่

เช่นเดียวกับ “เลียม เฮมส์เวิร์ธ” อีกหนึ่งผลผลิตที่ดีงามจากบ้านเฮมส์เวิร์ธ ที่คุณอาจจะลืมไปแล้วว่า เฮมส์เวิร์ธคนนี้แจ้งเกิดมาจากการเป็นพระเอกหนังรัก ก่อนที่เขาจะไปโดดเด่นกับผลงานหนังบู๊หนังแอคชันในเวลาต่อไป นี่จึงกลายเป็นการกลับมาสู่บทบาทเบา ๆ ของหนังรักของเขาอีกครั้ง ที่ยังตอกย้ำได้ว่าเขายังคงทำได้ดีอยู่เหมือนเดิมในหนังแนวนี้ แม้ว่าบทมันอาจจะเป็นละครหลังข่าวไปสักหน่อย แต่รูปลักษณ์ก็ยังเป็นแบบฉบับพระเอกในนิยายหลุดออกมาสู่โลกความเป็นจริงนั่นเอง

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว Lonely Planet อาจจะเป็นหนังรักที่ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไปแบบช้า ๆ เนือง ๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร เป็นหนังที่เต็มไปด้วยคอนเซ็ปต์และลีลาที่เชยสะบัด หาอะไรที่แปลกใหม่ไม่ได้เลย อีกทั้งยังไม่ค่อยเห็นความเด่นชัดในเรื่องราวและบทหนังได้ที่สุดสักเท่าไหร่ แต่ยังโดดเด่นในการสร้างบรรยากาศความเหงาขึ้นมา ทำให้เป็นบ่อกำเนิดความสัมพันธ์ที่ไม่ควรจะเกิดระหว่างคนเหงาของคนในโลกใบใหญ่ ที่อาจจะเป็นเนื้อหาที่ยังไร้ความคมคายอย่างสิ้นเชิง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Lonely Planet ที่หมายใจโดดเดี่ยว

• ประเภท: ดรามา / โรแมนติก
• ผู้กำกับ: ซูแซนนาห์ แกรนท์
• นำแสดงโดย: ลอรา เดิร์น, เลียม เฮมส์เวิร์ธ, ไดอานา ซิลเวอร์ส
• ความยาว: 94 นาที
• กำหนดฉายในไทย: 11 ตุลาคม 2024 (ที่ Netflix)

Movie.TrueID METRIC: Lonely Planet ที่หมายใจโดดเดี่ยว

• ภาพรวม
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (5.9/10)
• การเล่าเรื่อง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (5.8/10)
• การแสดง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (6.9/10)
• เทคนิคงานสร้าง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.1/10)
• บทภาพยนตร์
  ⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (4.8/10)