หลังจากที่ผู้เขียนได้รับชม Thank you Teacher (ตอน 1-7) ซีรีส์น้ำดีสะท้อนอาชีพครูและการศึกษาของไทย โดยส่วนตัวผู้เขียนถือว่าตีความและถ่ายทอดได้ดีและน่าสนใจมาก ๆ สะท้อนไปถึงแก่นให้เราได้เห็นเบื่้องลึกเบื้องหลังกระบวนการทำงานที่มีหลากหลายมิติ รวมถึงจิตใจของมนุษย์ด้วย ดูแล้วอู๊ดสีชมพูได้ข้อคิดคติเตือนใจหลายอย่างเลยอยากแชร์ให้ผู้อ่านทุกท่าน มีทั้งหมด 15 ข้อ ไปดูกันเลยค่ะว่าข้อคิดต่าง ๆ จะ Positive Thinking หรือ สายบวกไปเลย 1. ใช้มือทำงานดีกว่าใช้ปากทำงาน เชื่ออู๊ดสิ"ครูโกะ" (เฌอปราง อารีย์กุล) คือครูสอนภาษาไทยอัตราจ้างคนใหม่ของโรงเรียนผาธรรม ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างจากบรรดาขาเม้าท์ในโรงเรียน ลือกันว่า เธอเป็นเด็กเส้น เข้ามาได้เพราะมีญาติเป็นผู้บริหาร ทำให้เธอถูกตั้งแง่และอคติอย่างหนัก จนครูโกะเกือบจะถอดใจเพราะโดนกดหนักหนักมาก แต่ท้ายที่สุดเธอก็เอาความสามารถเข้าสู้ จนพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเข้ามาพอความสามารถจริง ๆ ส่วนพวกปากหอยปากปู ถ้าทนการมีอยู่ของครูโกะไม่ได้ก็กรี๊ดออกมาค่ะ เช่นเดียวกับสังคมการทำงาน มนุษย์เราหนีการนินทาไปไม่พ้นหรอกค่ะ ลองลุกออกไปจากวงสิ ความสะพรึงมาแน่ ความขี้อิจฉาเป็นนิสัยอย่างหนึ่งของมนุษย์ลึก ๆ แล้วไม่มีใครอยากเห็นคนอื่นได้ดีไปกว่าตัวเราหรอกค่ะ แต่ถ้าใครทนไม่ไหวจริงก็กรี๊ดดัง ๆ ได้เลยค่ะ การปากแซ่บนั้นไม่ผิดแต่สกิลการทำงานเราก็ต้องแซ่บแบบสับ ๆ ด้วยนะคะ ฝากไว้ให้คิด 2. ไม่ใช่ครูบรรจุแต่ต้องทำแทนให้ได้ครูโกะ และ "ครูโย้ง" (ตั้ว เสฏฐวุฒิ) คือครูอัตราจ้างที่สอนภาษาไทยเหมือนกัน สอนเก่ง ความรู้แน่นทั้งคู่ คำว่า ครูอัตราจ้างแน่นอนว่าสวัสดิการ วิทยฐานะ ไม่เท่ากับครูที่บรรจุและมีใบประกอบวิชาชีพครู ความมั่นคง ความก้าวหน้าในอาชีพ การถูกเชิดชู ก็น้อยกว่าเขาไปอีก ทั้ง ๆ ที่ก็ทำงานหนักเท่ากับครูคนอื่น ๆ อย่างในซีรีส์นี่หนักกว่าด้วยซ้ำ โดนเขากด เขาใช้ ต้องเป็นไก่รองบ่อนครูด้วยกันเองไปอีกเพราะตำแหน่งต่ำกว่าเขา ยังไงผู้เขียนก็เป็นกำลังใจให้ครูอัตราจ้างทุกท่านนะคะ ตราบใดที่เรายังยืนหยัดอยู่ในจรรยาบรรณของความเป็นครูที่ดี ศักดิ์และสิทธิ์ก็จะอยู่กับตัวเราค่ะ 3. หมากตัวนี้ก็มีหัวใจ และไม่อยากอยู่ใต้อาณัติของใครครูในโรงเรียนผาธรรม ล้วนอยู่ภายใต้การปกครองของผู้บริหาร ซึ่งอาชีพอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาชีพอิสระ หรือเป็นเจ้าของกิจการเอง เราต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว แต่ ครูโกะ และ ครูโย่ง กลับเปรียบเสมือนหมากในเกมที่ เขาจะลากไปลากซ้ายที ขวาที เพื่อผลประโยชน์และอำนาจของบรรดาผู้บริหาร ที่เปลี่ยนให้โรงเรียนกลายเป็นสงครามทางการเมือง และเรื่องของการเมืองไม่ได้มีแค่ในรัฐสภา แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้ในสังคมการทำงานเช่นกัน ไม่มีใครอยากเป็นหมากหรือหุ่นเชิดหรอกค่ะ แต่หลายครั้งเราก็ต้องอดทนเพราะชีวิตมนุษย์นั้นขับเคลื่อนด้วยระบอบทุนนิยมอะเนาะ และไม่ใช่แค่ครูนะคะที่เป็นหมากในเกมการเมืองของผู้บริหาร นักเรียนก็กลายมาเป็นหมากตัวหนึ่งเหมือนกัน จากการที่นักเรียนทุกคนเคยเท่ากัน ต้องเกิดการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะผ่านการถือกำเนิดของห้องคิง เพื่อส่งเด็กหัวกะทิเข้ามหาวิทยาชั้นนำให้ได้ โรงเรียนและผู้บริหารจะได้หน้าตาชื่อเสียง ได้ Engagement เพิ่ม แต่นักเรียนคนอื่น ๆ ที่สอบไม่ติดห้องนี้ ไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนเด็กห้องคิง ต้องตกขอบและกลายเป็นความเหลื่อมล้ำทันทีเพราะเกมการเมืองของพวกผู้ใหญ่ที่มีอำนาจ 4. เคลมไวกว่าประกัน ก็ผลงานคนอื่นนี่แหละค่ะหลาย ๆ ผลงานและไอเดียของครูโกะ มักจะโดนหัวหน้าหรือผู้บริหารเคลมไปซะส่วนใหญ่ ก็เรื่องหน้าตาชื่อเสียงอะเนาะ ใครจะให้น้องใหม่ในที่ทำงานเด่นเกินหน้าเกินตาไปกว่าตัวเอง ไม่มีทางซะหรอก ครูโกะก็ต้องจำยอมกับภาวะเช่นนี้ เพราะค้านไปก็จะมากความเปล่า ๆ เสียสละเว่อร์ ในชีวิตการทำงานจริงเราอาจเจอคนประเภทนี้ได้ ความคิด ไอเดีย ผลงาน ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญา เราควรเคารพและให้เกียรติกับผู้อื่นนะคะ อย่างน้อยกล่าวสรรเสริญบ้างก็ยังดี ไม่ใช่ปล่อยเบลอ เนียน ๆ หยวน ๆ ไป 5. ท้อ เหนื่อย ล้า เศร้า แค่ไหน ของกินฮีลใจเราได้เสมอในเรื่องครูโกะ มักจะไปฮีลใจที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของ "สุภา" (จอย ที-สเกิ๊ต) กับเมนูก๋วยเตี๋ยวหรือเกาเหลาน้ำใสพิเศษลูกชิ้น ที่เธอกินแล้วมีพลังทันที ของกินเนี่ยนับว่าเป็นสิ่งฮีลใจชั้นดีของมนุษย์เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ของแพง ของถูก junk food ของหวาน ขนม ชานม หรือ กับข้าวฝีมือแม่ เวลาเหนื่อย ๆ เติมพลังด้วยของโปรดที่ถูกปากเรา มันช่างเป็นความธรรมดาและวิธีฮีลใจที่ง่ายและแสนพิเศษจริง ๆ ค่ะ 6. โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน กอดงานเราไว้ให้แน่น ๆ นะคะเราสามารถเบื่องานที่ทำอยู่ได้ แต่เราจะไม่ทำไม่ได้ เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ เศรษฐกิจเป็นแบบนี้เราจะถูก Layoff เมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้น หมั่นรักษาประสิทธิภาพในการทำงาน หรือ พัฒนาทักษะต่าง ๆ ให้พร้อมอยู่เสมอ ทำไปเถอะค่ะอย่างน้อยงานมันก็ไม่ทรยศเรา เผื่อวันหนึ่งเกิดเรื่องกะทะหันเราจะได้มีภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่อย่างนั้นจะเคว้งเหมือนครูโกะต้องโดนบอกเลิกสัญญาจ้างนะ 7. ทำงานเก่งเขาไม่ได้ให้เงินเพิ่ม เขาให้งานเราทำเพิ่มค่ะด้วยความที่ครูโกะไฟแรงและร้อนวิชามาก เธอมีทักษะหลายอย่างทีน่าสนทั้งทำสื่อการสอนดี ความรู้แน่นและแม่นยำ มีเทคนิคการสอนสมัยใหม่ที่น่าสนใจ ไอเดียดี หัวครีเอทีฟมาก ๆ จึงตกเป็นเป้าสายตาของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยอย่าง ครูภาวิณี (มิ้น มิณฑิตา) ที่แอบอ้างในสื่อเธอไปใช้สอนเด็ก รวมถึงโยนภาระหน้าที่งานอื่น ๆ ที่นอกจากการสอนมาให้ แถมเคลมผลงานเป็นของตัวเองไปอีก เพราะเห็นว่าครูโกะเก่ง หัวอ่อน และยอมคน จึงทำให้เธอถูกใช้งานงก ๆ เงินก็ไม่ได้เพิ่ม วิทยฐานะก็ยังคงเดิม เฮ้อเหนื่อใจ ครูโย่งก็ติดอยู่ในหล่มนี้มาเช่นกันถึง 6 ปี ข้อคิดนี้สะท้อนการทำงานจริงได้ดีมากค่ะ คนเก่งมีความสามารถบางคนถูกใช้งาน โยนภาระงานให้เยอะมาก แต่เขาก็ไม่ได้เพิ่มเงินให้ตามด้วย อย่างสมัยนี้ส่วนใหญ่รับตำแหน่งหนึ่ง แต่ต้องเป็นทุกอย่างให้บริษัทก็มีนะ เฮ้อน่าเศร้านะคะ จะให้ทำงานหนักเงินก็ต้องดีตามไปด้วยสิคะเจ้านาย 8. อ่อนแอ ร้องไห้ เสียใจ ล้มได้แต่อย่านาน รีบมูฟออนเก็บแรงไว้พัฒนาตนเองดีกว่า ในซีรีส์จะสะท้อนผ่านภาพ ตัวละครอย่าง ครูโกะ ครูโย้ง และ "ครูวรวรรณ" (แพท วงเคลียร์) ทั้งสามต่างมีช่วงเวลาที่ผิดหวัง เสียใจ จนเกือบจะเลิกล้มการไปต่อในอาชีพครู แต่แล้วทั้งสามก็ฮึดขึ้นมาสู้สุดใจอีกครั้ง เพื่ออุดมการณ์ของตน ที่ผู้เขียนสะใจที่สุดคงเป็นบทครูวรวรรณ อดีตเธอเคยเป็นครูอัตราจ้างสอนภาษาไทย ในผาธรรมมาก่อน แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ถูกบอกเลิกสัญญาจ้างอย่างกะทะหัน จนเสียศูนย์ไปพักหนึ่งเลย แต่เธอก็ไม่ท้อพัฒนาตน จนได้เป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาชื่อดัง ที่โรงเรียนผาธรรมต้องไปขอร้องให้ช่วยไปประชาสัมพันธ์ที่โรงเรียน รวมถึงขอโควตารับนักศึกษาไปอีก ถือเป็นการแก้แค้นที่สะใจมาก ตอนฉันยังใหม่พวกคุณไม่เห็นค่าใช้งานจนคุ้ม แล้วก็ถีบหัวส่ง ถึงวันที่ฉันอยู่ในจุดที่คุณเห็นค่าและต้องมาเป็นฝ่ายอยู่ต่ำกว่าบ้าง มันก็น่าสนุกดีนะคะ อย่าหยุดพัฒนาตัวเองนะทุกคน ความพยายามไม่เคยทรยศใคร และก็อย่ากลัวที่จะเสียใจค่ะ เสียใจได้ ให้สุดไปเลย แต่อย่าลืมลุกขึ้นมาใช้ชีวิตกันต่อนะคะ 9. อย่ารับบทนางแบกเยอะการเกรงใจคนถือเป็นสิ่งที่ดี มันแสดงถึงมารยาท วุฒิภาวะ แต่บางทีก็อย่าเป็นคนดีเกินไปจนถูกเขาเอาเปรียบเหมือนครูโกะ ที่โดนสั่งหรือใช้อะไร เธอเหมือนเป็นบอตที่ถูกป้อนค่าคำสั่งแค่ ค่ะ หรือ ได้ค่ะ บางครั้งแบกเกินไปหรือรับจบครบทุกอย่าง อาจบั่นทอนจิตใจของเรา รวมถึงถ้าแบกเยอะเกินไป ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่แข็งแกร่งเต็มที่ อาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงไปด้วยนะ รู้จักปฏิเสธบ้าง อะไรที่มันหนักไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบหลักและทำให้สุขภาพจิตแย่ลงก็อย่าเก็บมาใส่บ่าแบกเป็นนางแบก หรือนายแบกเลย ไม่มีเราองค์กรก็อยู่ได้ เขาพร้อมจ้างคนใหม่มาทำแทนเราได้เสมอ อย่าทำงานหนักจนสุขภาพกายและใจเสียหาย เวลางานก็คืองาน เวลาเลิกงานก็คือพักเถอะค่ะ 10. การเป็นครูไม่ง่ายก่อนจะนิ่งครูก็กลิ้งมาก่อนจริง ๆ แล้วแทบทุกอย่าง เมื่อเราลงมือทำเป็นครั้งแรกมันอาจไม่ประสบความสำเร็จ สมบูรณ์ หรือได้ดั่งใจไปทุกอย่างหรอก ทุกอย่างต้องอาศัยประสบการณ์ ลองผิดลองถูก ขายขำขายยำไปบ้าง อย่างครูโกะ ที่เริ่มชีวิตครูได้อย่างโบ๊ะบ๊ะมาก การยังไม่เข้าใจระบบการทำงาน อาจทำให้เธอหลุด ๆ ไปบ้าง จนกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นเลยก็ว่าได้ แต่ไม่นานเธอก็เรียนรู้ เข้าใจชีวิตและโลกการทำงานมากขึ้น จนเริ่มปรับตัวได้ ดังนั้นหลายคนอย่าพึ่งหงุดหงิดกับการเรียนรู้ของคนนะคะ การรับรู้และตอบสนองของแต่ละคนไม่เท่ากันจริง ๆ 11. โลกใบนี้ ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรในการทำงานหากทำได้เราควรวางใจให้เป็นกลาง พยายามอดทน อดกลั้น (เฉพาะเรื่องที่ควรทน) ไม่แสดงอารมณ์อะไรมาก เราเกลียด ไม่พอใจ ไม่ชอบหน้าใครได้ แต่ให้ถือคติ น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก การทำงานจะได้มีประสิทธิภาพและดำเนินการต่อได้อย่างราบรื่น ส่วนคนที่มองเราเป็นศัครูก็อย่าไปเก็บมาใส่ใจค่ะ ในโลกนีไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร ทุกอย่างสามารถแปรผันได้ หากมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดูครูโกะเป็นตัวอย่างได้ค่ะ ในส่วนนี้เราว่าเธอบริหารจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ดีนะ ถ้าเราวางตัวเป็น เราก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมการทำงานและใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลอื่น ๆ ได้ค่ะ 12. การมีเพื่อนร่วมงานที่ดี นับเป็นพรวิเศษให้ถือคติว่าเราปวดหัวกับงาน สู้กับมัน ดีกว่ามาปวดหัวกับคนค่ะ สังคมการทำงานเนี่ยเราต้องพบเจอคนหลากหลาย ร้อยพ่อพันแม่ ถ้าเราเจอทีมงานที่ดี นับว่าประเสริฐเลยค่ะแต้มบุญสูงมาก ดีที่ว่าไม่ใช่ว่าดีงามไปทุกเรื่องนะคะ มนุษย์ทุกคนมีข้อเสียของตนอยู่แล้ว แต่อย่าน้อยถ้า ความคิด ทัศนคติ Mindset พฤติกรรมที่แสดงออก ไม่บูดเบี้ยวนี่ถือว่าโชคดีของคนที่ได้เพื่อนร่วมงานแบบนี้เลยค่ะ อย่างในซีรีส์ ครูโกะ ก็โชคดีนะคะ ที่การเริ่มต้นของเธอมีเพื่อนร่วมงานที่ดี ที่ช่วยซัพพอร์ต สนับสนุน เป็นแหล่งฮีลใจที่ดีอย่าง แก๊งครูห้องแนะแนวอย่าง ครูรับขวัญ (เปิ้ลหัทยา), ครูธาวิน (เอ็มดี ณัฐพงศ์) และ ครูพล (อาร์ต ศิลป์) ส่วนใครที่เจองานและเพื่อนร่วมงาน Toxic แล้วเรายังต้องทนอยู่ในสังคมแบบนี้ต่อไป ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้นะคะ 13. เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ข้อคิดนี้ ผู้เขียนมองในเรื่องของการลงทุนนะคะ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ ซึ่งขอย่อยเป็นประเด็นต่าง ๆ ดังนี้เรื่องการศึกษาเป็นเรื่องที่ควรลงทุน ประหยัดไม่ได้จริง ๆ ใครมีกำลังทรัพย์ผู้เขียนแนะนำให้ลุยให้เต็มที่เลยค่ะ เรียนไปเถอะ ทุ่มเงินกับสิ่งที่เราสนใจไปเลย อย่างน้อยมีทักษะและความรู้ติดตัวไว้ ก็เป็นใบเบิกทางที่ดีให้เราได้แล้วค่ะ ส่วนคนที่กำลังทรัพย์น้อยขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าท้อ หรือ หมดหวัง สู้ชีวิตกันต่อไปค่ะ เรื่องการศึกษาใครมีทุนทรัพย์มากกว่าก็ย่อมได้เปรียบ อย่างไรก็ขอฝากผู้มีอำนาจสั่งการช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาด้วยนะคะจะทำงานให้ดี มีประสิทธิภาพ เรื่องงบประมาณสำคัญมาก อย่างในซีรีส์โรงเรียนมีนโยบายให้จัด Open House บรีฟของงานคือยิ่งใหญ่ ทันสมัย สวยงาม แปลกตา แต่ให้งบมาน้อยนิด แล้วมันจะได้ครบทุกข้อไหมละ ครูภาวิณีจึงต้องควักเนื้อตัวเองเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองและสาขาวิชาเอาไว้ ทุกอย่างมันต้องใช้เงินจริง ๆ นะคะถึงจะได้มาซึ่งความเลิศหรู อลังการ ดาวล้านดวง 14. อย่าหวั่นไหวกับค่านิยมที่ว่า แค่กระดาษใบเดียวใบปริญญา ใบประกอบวิชาชีพ นั้นไม่ใช่แค่กระดาษใบเดียว แต่มันบรรจุไปด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่น ของบุคคลผู้เป็นเจ้าของ จริงอยู่ที่เราไม่ควรตัดสินคนแค่จากกระดาษใบเดียว แต่ไอแค่กระดาษแผ่นเดียวนี่แหละ ถ้าจะได้มันมาด้วยวิธีการสุจริตนี่มันยากมาก ๆ นะคะ ต้องต่อสู้กับตัวเองและสู้กับการแข่งขันจากปัจจัยรอบตัวถึงจะได้มานะเออ ดังนั้นคนที่มีก็ไม่ควรไปดูถูกคนที่ไม่มี และคนที่ไม่มีก็ไม่ควรไปดูถูกหรือตีตราคนที่มีเพื่อกลบปมด้อยของตัวเองเลยค่ะ ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถอยู่แล้ว อย่ากดใครเพื่อให้เราดูสูงขึ้นเลยค่ะ 15. ผิดเป็นครูในชีวิตจริงทุกคนไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนมีเรื่องราวชีวิตเป็นซีรีส์ของแต่ละคนได้เลย เวลาเราผิดพลาดควรถอดบทเรียนและนำข้อผิดพลาดนั้นมาเป็นแรงพัฒนาชีวิต ไม่สำเร็จในวันนี้วันข้างหน้ามันต้องเป็นวันของเราสิ หรือเราทำมันไม่สำเร็จสักทีอาจจะลองหาทางเลือกอื่น ๆ เราจะค้นพบลู่ทางและที่ ๆ เป็นของเราจริง ๆ ก็ได้ อย่ากลัวที่จะผิดพลาด ล้มเหลว จงเก็บสิ่งเรานั้นมาเป็นบทเรียน ที่ว่าผิดเป็นครู คือนำข้อผิดพลาดในชีวิตมาเป็นครูคอยอบรมสั่งสอน เตือนสติ เพื่อให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าในวันนี้ให้ได้ นักสู้ชีวิตทั้งหลายอย่างพึ่งท้อใจกับบทเรียนชีวิตนะคะ ตัวอย่างซีรีส์https://www.youtube.com/watch?v=4cLbaTufwWQ หากใครอยากอ่านรีวิวซีรีส์เรื่องนี้ (ตอนที่ 1-7) จากอู๊ดสีชมพูคลิกที่ลิงก์นี้ได้เลยนะคะ รีวิว Thank you Teacher (Part 1) ซีรีส์ตีแผ่อาชีพครูและการศึกษาไทย กว่าจะเป็นครูไม่ใช่เรื่องง่ายรับชม Thank you Teacher ย้อนหลังแบบฟรีและถูกลิขสิทธิ์ได้ที่เดียวทาง True ID เครดิต ภาพหน้าปก ออกแบบโดย canvaภาพประกอบหน้าปก truecjcreations : ภาพที่ 1ภาพประกอบเนื้อหา truecjcreations : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 / ภาพที่ 11 / ภาพที่ 12 / ภาพที่ 13 / ภาพที่ 14 / ภาพที่ 15 truevisionsofficial : ภาพที่ 16ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหาTrue CJ Creations : คลิปที่ 1 คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน