กรีน อัษฎาพร เล็งพัฒนาทักษะรอบด้าน เป้าหมายโกอินเตอร์
กรีน อัษฎาพร ฝันโกอินเตอร์ เล็งพัฒนาทักษะรอบด้าน ดีใจเป็นนักแสดงอิสระงานชุก รับเจอ ธันวา น้อยลง แต่ยังดูแลกันดี
เรียกว่าตั้งแต่ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ นางเอกมากฝีมือ กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล มีผลงานละครออกมาให้แฟนๆ ชมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับทางค่าย CHANGE2561 ของผู้บริหารคนเก่ง ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา จนขึ้นแท่นตำแหน่งลูกรักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดวันที่ 11 พ.ค.65 สาวกรีน มาร่วมงานบวงสรวงละคร โฉมโฉด ที่ หน้าตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ย่านอโศก ก่อนจะให้สัมภาษณ์ถึงงานละครที่เข้ามาไม่ขาดสาย พร้อมแง้มเป้าหมายที่ฝันอยากโกอินเตอร์ รวมถึงอัพเดตความรักกับพระเอกหนุ่ม ธันวา สุริยจักร ที่ช่วงหลังไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน
งานแน่นมากช่วงนี้? “คนอื่นก็แน่นค่ะ เราก็มีเรื่อยๆ เดี๋ยวจะมีอีก 2 เรื่อง เป็นการดีลกันไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพราะโควิดเลยเขยิบมา ซึ่งเป็นของพี่ฉอด 1 เรื่อง ช่องวัน 1 เรื่อง (ผู้จัดคนอื่นจะไม่กล้ามาจีบไหม จะเล่นแต่ของพี่ฉอดหรือเปล่า?) มาได้เลยค่ะ ทุกคนขา ยินดีต้อนรับ”
ต้องยกตำแหน่งลูกรักพี่ฉอดให้แล้ว? “ขอบคุณค่ะ หนูอยากเป็นลูกรักพี่ฉอดตลอดไปจะได้มีงานเรื่อยๆ จริงๆ ต้องขอบคุณทางพี่ฉอด พี่เอส และเช้นจ์2561 ที่ให้โอกาสและป้อนงานเรามาตลอด ทำให้เราตั้งใจทำงาน ที่ผ่านมาร่วมงานกับพี่ฉอดมา 3 เรื่องแล้ว เรื่องแรกคือ กระเช้าสีดา ต่อด้วย คลับฟรายเดย์ฯ แล้วก็เรื่องนี้คือโฉมโฉด แต่เดี๋ยวมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ”
เกร็งไหมเวลาคนมองว่าเป็นลูกรัก? “อยากให้มองอีกมุมนึงว่าอาจจะมาจากตัวเราตั้งใจทำงานแล้วผู้ใหญ่เล็งเห็นว่าบทนี้เหมาะกับเราพอดี พอเป็นคนใกล้ตัวที่ผ่านงานละครได้มีการพิสูจน์ฝีมือมาแล้ว แน่นอนว่าคนผลิตงานผลิตรายการเขาก็ต้องการคนที่เขารู้สึกมั่นใจหรือเปล่าที่จะดึงคนนี้มาเล่น อันนี้คือสิ่งที่กรีนมองนะ คะ แต่กรีนก็ไม่รู้ว่าคนอื่นมองยังไง”
แต่ละเรื่องบทบาทคล้ายหรือต่างกันไหม? “แตกต่างค่ะ กรีนก็พยายามรับให้แตกต่างกันออกไป อย่างที่บอกว่าเป้าหมายของกรีนเมื่อออกมาเป็นฟรีแลนซ์แล้วก็อยากที่จะรับละครที่มันไม่ใช่กรีนแบบที่เคยเห็นแล้ว อยากเป็นคนอื่น ตัวละครอื่น อยากท้าทายความสามารถของตัวเองด้วย เลยพยายามรับบทที่ต่างกันออกไปเพื่อให้คนดูเห็นว่าเราสามารถรับบทได้หลายแบบ”
หลายคนมองว่ากรีนเป็นนักแสดงอิสระที่ประสบความสำเร็จ เพราะหลายคนที่อิสระก็ไม่ได้งานเยอะเท่าเรา? “อันนี้มันก็เป็นจังหวะ กรีนไม่สามารถพูดให้คำตอบตรงนี้ได้ กรีนอยู่วงการมา 14 ปีก็ไม่ได้มีจังหวะนี้ตลอดเวลา เพิ่งจะมามีเหมือนกัน ในขณะที่บางคนเข้าวงการมามีจังหวะแบบนี้เลยก็มี ถือเป็นความโชคดีของแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่สำคัญคือต่อให้มีความโชคดีแล้ว เรายังต้องมีความสามารถด้วย ถ้าเรามีความสามารถรออยู่แล้ว เมื่อโอกาสมามันก็เป็นวันของเราด้วยเช่นกัน”
อิสระแล้วงานเยอะแบบนี้คงไม่กลับไปอยู่ภายใต้สังกัดไหนแล้วใช่ไหม? “อาจจะเพราะกรีนโตขึ้น อยากรับงานให้มันหลากหลายขึ้น เป้าหมายกรีนอยากเติบโตไปนอกประเทศด้วย เลยรู้สึกว่าการไม่มีสังกัดน่าจะเหมาะสมกับเป้าหมายเรามากกว่า ถามว่าการเติบโตไปต่างประเทศคือยังไง คงต้องเริ่มจากการไปแคสต์ต่างๆ ถ้าเราต้องการจะออกไปข้างนอก”
“แต่ก่อนออกไปแคสต์หรือออดิชั่น เราก็ต้องมีความสามารถหรือความพร้อมเช่นการเรียนเพิ่มเติม การสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง หรือการเรียนรู้ทักษะต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น ถ้ามีโอกาสได้ไปแคสต์หรือออดิชั่นเหมือนพี่ๆ นักแสดงหลายๆ ท่าน หรือเพื่อนๆ กรีนเองทีได้เล่นหนัง กรีนก็ดีใจนะ วันนึงเราก็อยากเป็นคนนั้นเหมือนกัน แค่รอจังหวะและโอกาสที่จะเข้ามา”
แปลว่ามีเป้าหมายโกอินเตอร์? “ใช่ค่ะ อยากไปถึงจุดนั้นเหมือนกัน ก่อนที่จะแก่ตัวไปมากกว่านี้(หัวเราะ) ถามว่ามีเอเจนซี่หรือที่ไหนติดต่อมาไหม ก็ยังค่ะ ตอนนี้ยังไม่มี แต่ก็เหมือนเริ่มๆ มองหาค่ะ”
งานเยอะขนาดนี้มีเวลาดูแลเรื่องหัวใจยังไงบ้าง? “ก็แค่ไม่ทำให้เขาเจ็บมาก เราก็ดูแลเขาโอเคนะคะ ทางนั้นเขาก็มีเป้าหมายของเขา เราก็มีเป้าหมายของเรา ต่างคนก็มีเป้าหมายที่จะเดินไปในเส้นทางของตัวเอง แต่เราก็ยังคงคุยกันยังปรึกษากันตลอดเวลา”
มีเวลาให้กันน้อย เติมหวานกันยังไง? “จริงๆ เรารู้จักกันมาสักพักแล้วไม่จำเป็นต้องใส่ความหวานอะไร เพียงแค่ว่าเราคอยถามไถ่มากกว่าว่าเป็นยังไง ทำอะไร ไปกินข้าวกันไหม ได้เจอกันบ้าง ไม่ใช่ว่าไม่เจอกันเลยมันก็จะดูห่างเหินแต่เราก็ได้เจอกัน เวลาทำงานเราก็ต่างคนต่างทำงาน ทำงานเสร็จปุ๊บเราก็ได้มาคุยกันมาแชร์กันว่าวันนี้ทำอะไรมาบ้าง อย่างน้อยได้คุยกันก็ได้ปฏิสัมพันธ์กันแล้ว”
มีเรื่องอะไรที่ยังไม่เข้าใจกันบ้างไหม? “มีอยู่แล้วค่ะ เป็นเรื่องปกติ มีทั้งรักกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง เป็นอะไรที่เราต้องเรียนรู้กันอยู่แล้ว (พอบอกว่าต่างคนต่างเดิน ทำให้ดูเหมือนไม่มีเวลาให้กัน?) มันก็มีช่วงที่ไม่มีเวลา อย่างช่วงที่ผ่านมากรีนถ่ายคลับฟรายเดย์ฯ ถ่ายโฉมโฉดก็ 7 วัน ถามว่าได้เจอหน้ากันไหมก็ไม่ได้เจอ แต่คุยโทรศัพท์กันทุกคืน เราถ่ายละครเสร็จปุ๊บรู้สึกว่าเหนื่อยจะคุยกับใครดี เราก็โทรหาเขา เขาเองก็พร้อมคุยกับเรา”
มีงอนงอแงกันบ่อยไหม? “มันก็ไม่ถึงขึ้นงอแง แค่มีแบบนัดกันแล้วว่าพรุ่งนี้จะไปหา แต่ดันมีเลื่อนมีสลับกันไปมา เลยมีบ้างที่มาคุยกันว่าทำไมล่ะ แต่ไม่ถึงขั้นทะเลาะบ้านแตก (เคยไม่เจอกันนานสุดกี่วัน?) ถ้าเวลาถ่ายละครก็ไม่นานมาก ประมาณ 3-4 วัน ถ้าสมมติกรีนไม่สามารถไปเจอเขาได้ เขาก็จะมาหากรีนที่บ้าน มาเจอแม่ มาทำอาหารให้แม่กิน มาดูแลน้องหมา ประมาณนั้นค่ะ”