เปรียบเทียบ มองอย่าให้เห็น Bird Box (2018) Vs Bird Box: Barcelona (2023) เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? หลังจากเปิดตัวออริจินอลภาพยนตร์ของ Netflix ไปเมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม ‘Bird Box: Barcelona’ ซึ่งเป็นสปินออฟจากภาคแรก ‘Bird Box’ หนังก็ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน Ranking ระดับโลกในวันที่ 15-16 ภาคบาร์เซโลนาก็ยังเหนียวแน่นอยู่ในอันดับ 1 ทั้งยังมีดัชนีการรับชมเนื้อหาเพิ่มขึ้นกว่า 2% ทั่วโลก!! เรียกว่า… “เปิดตัวปัง!!” ได้เต็มปากเต็มคำ ซึ่งหลังจากที่ผมได้รับชมภาคใหม่ ผมกลับรู้สึกว่าเนื้อหาของทั้งสองภาคมีความคล้ายคลึงกันมากเลยทีเดียว ผมจึงได้ลองทำบทความเปรียบเทียบสองพี่น้องตระกูลเบิร์ดบ็อก เผื่อหลาย ๆ ท่านที่ไม่ได้ย้อนกลับไปชมภาคแรก หรืออาจจะลืมเนื้อหาของภาคแรกไปแล้วมาฝากครับการดำเนินเรื่องประการแรกที่ผมเห็นว่าทั้งสองภาคมีความคล้ายคลึงกันอยู่ แต่ก็มีจุดแตกต่างจากกันเล็กน้อยคือการดำเนินเรื่อง ใน Bird Box 2018 ภาคแรกจะดำเนินเรื่องแบบไทม์ไลน์คู่ขนาน ดำเนินเรื่องโดยตัดภาพอดีตก่อนเกิดเหตุ สลับกับเหตุการณ์ปัจจุบันดำเนินคู่กันไป ส่วนในภาคบาร์เซโลนานั้นจะดำเนินเรื่องแบบตัดแฟลชแบ็กไปในความทรงจำของตัวละครหลักอย่าง ‘เซบาสเตียน’ ทำให้เราได้เห็นภาพอดีตของตัวละครนี้กับลูก ซึ่งตัวละครนี้หากตัดเรื่องสัตว์ประหลาดในเรื่องออกไป ผมมองว่าเขาคือผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตแบบ PTSD เพราะสะเทือนใจอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ในอดีต ทำให้เขาเห็นภาพหลอนของลูกสาวตัวเอง เป็นเหมือนบุคคลที่คอยบงการให้เขาทำเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นในหนังสัตว์นำทางประการที่สองคือสัตว์นำทางของทั้งสองเรื่องมีเหมือนกัน โดยในภาคแรกจะใช้นกนำทาง ตรงตามคอนเซปต์ของเรื่อง Bird Box ส่วนในภาคบาร์เซโลนานั้นใช้น้องหมาสองตัวในการช่วยนำทาง และไม่รู้ว่าบังเอิญหรือ Screenwriter เขาต้องการบอกใบ้ผู้รอดชีวิตก็ไม่รู้นะครับ คือถ้าทุกท่านสังเกตดี ๆ จำนวนผู้รอดชีวิตท้ายเรื่องจะมีจำนวนเท่ากับสัตว์ในเรื่อง อยากภาคแรกนกมีสามตัวตั้งแต่ต้นจนจบ และในพาร์ทท้ายสุดจำนวนคนรอดก็มีสามคน นั่นคือ มาโลลี่ เฮยส์, โอลิมเปีย (เกิร์ล) และ ทอม (บอย) ส่วนภาคบาร์เซโลน่านั้นสัตว์นำทางคือน้องหมา 2 ตัว ที่ถึงแม้ว่าจะไปไม่ถึงสถานที่หลบภัย แต่จำนวนคนรอดของภาคนี้ก็มีสองคน ตรงตามจำนวนสัตว์นำทางเลยครับ ตัวละครอีกหนึ่งจุดที่ทำให้ทั้งสองภาคแตกต่างกันเล็กน้อยคือกลุ่มผู้รอดชีวิต ในภาคแรกกลุ่มผู้รอดชีวิตจะกลุ่มใหญ่กว่า เพราะเพิ่งเกิดเหตุการณ์วันสิ้นโลก ตัวละครในเรื่องจึงจะเห็นแก่ตัว ทะเลาะเบาะแว้ง และตื่นตระหนกกันมาก ๆ เลยจะมีการปะทะกันมากกว่าภาคที่ 2 ส่วนในภาคที่ 2 ผู้คนได้เรียนรู้วิธีการเอาตัวรอด ไม่แตกตื่น และรู้วิธีรับมือกับสิ่งที่มองไม่เห็นมากกว่า ทว่าสำหรับผมมองว่าในภาคแรกตัวละครหลัก ๆ มีไหวพริบมากกว่า ซึ่ง Bird Box 2018 จะพูดถึงกลุ่มผู้เห็นที่สามารถมองได้โดยไม่ต้องปิดตาบ้างเล็กน้อย มีบทบาทในบางช่วงบางตอน และช่วงท้ายของเรื่องนิดหน่อย แต่ในภาคบาร์เซโลนาผู้เห็นคือตัวละครที่เป็นเมนหลักของเรื่อง และกลุ่มก้อนของเขาก็มีส่วนสำคัญในเรื่องเลยทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบโพรดักส์ชันในภาคแรกทั้งเนื้อเรื่อง งานภาพ และรายละเอียดต่าง ๆ สำหรับผมมองว่ามีความละเมียดละไมมากกว่า เพราะโทนเรื่องจะเป็นการเอาตัวรอดแบบเพียว ๆ ทำให้ผู้ชมอินไปกับการเอาชีวิตรอดของตัวละครได้ง่าย ส่วนในภาคที่สองนั้นจะเล่นกับจิตใจคนผสมผสานเข้ากับความเชื่อ ศาสนา และความงมงาย โทนเรื่องมันจึงจะเปลี่ยนไปจากเซอร์ไวเวิลเอาชีวิตรอดจากวันสิ้นโลก เปลี่ยนเป็นเรื่องความเชื่อและจิตใจคนเป็นหลัก สำหรับผมมองว่า Bird Box: Barcelona ให้ความรู้สึกอึดอัด ดราม่าหนักกว่านิดหน่อย และ Bird Box ให้ความรู้สึกเร้าใจ ตื่นเต้น และได้บรรยากาศดิสโทเปียมากกว่าแม่ VS พ่อภาคแรกจะใช้ตัวละครหลักผู้ดำเนินเรื่องเป็นผู้หญิง เราจึงจะได้ชมภาพยนตร์ผ่านเลนส์ตัวละคร มาโลลี่ เฮยส์ ซึ่งจะมีแก่นหลักเป็นพลังความรักของแม่ สู้เพื่อให้ลูก ๆ ของตัวเองรอด ส่วนภาคสองจะเป็นความรัก ความผูกพันของพ่อที่ทำให้เกิดสตอรีทุกอย่างในเรื่องขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าตัวละครจากทางฝั่งชายและหญิงต่างกันโดยสิ้นเชิง คือคนหนึ่งอยู่เพื่อเอาชีวิตรอด Vs อีกคนอยู่เพื่อเอาชีวิตคนอื่นโดยคิดว่านี่คือการช่วยเหลือแต่มีสองจุดที่ทั้งสองตัวละครนี้มีร่วมกันคือ รักลูก และ จำเป็นต้องเลือกระหว่างเด็กสองคนเช่นเดียวกัน ซึ่งในภาคแรก ‘มาโลรี่’ จำเป็นต้องเลือกรักษาชีวิตเด็กคนใดคนหนึ่งไว้ ส่วนเด็กอีกคนต้องเสียสละเพื่อให้ ‘มาโลรี่’ และเด็กอีกคนหนึ่งรอด ส่วนในภาคที่สอง ‘เซบาสเตียน’ ต้องเลือกระหว่างลูกตัวเอง ซึ่งอยู่ในรูปแบบภาพหลอนในจินตนาการ ที่จิตของเขาปรุงแต่งขึ้นมา หรืออีกนัยหนึ่งภาพยนตร์ก็อยากจะทำให้เหมือนกับว่าลูกในจินตนาการของเขา คือเป็นสัตว์ประหลาดที่ปรับเปลี่ยนตัวตนและฝังลึกอยู่ในจิตใจของผู้เห็น ซึ่ง ‘เซบาสเตียน’ จำเป็นต้องเลือกระหว่างลูกของตัวเองกับ ‘โซเฟีย’ เด็กผู้หญิงหนึ่งในกลุ่มผู้รอดชีวิตhttps://twitter.com/netflix/status/1679566467254173699?s=61&t=3otsg2j_ZdQehkm_cBBU9gสำหรับผมรู้สึกชื่นชอบบรรยากาศ โทนเรื่อง และตัวละครจากภาคแรกมากกว่า เลยจะรู้สึกอินในสถานการณ์วันสิ้นโลกแบบออริจินอล แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ ทุกท่านที่อ่านบทความอยู่ตอนนี้อาจจะคิดเห็นต่างจากผมก็ได้ครับ ต้องลองไปติดตามชมกันดูเอง ถึงจะบอกได้ว่าคุณรู้สึกชอบพี่หรือน้องมากกว่ากัน? หรือไม่อาจจะชอบทั้งสองภาคเลยก็เป็นได้ ซึ่งทุกท่านสามารถรับชมภาพยนตร์ Bird Box ทั้งสองภาคได้ที่ Netflix เลยนะครับตัวอย่าง Bird Box: Barcelona (2023) บทความอื่นที่แนะนำhttps://intrend.trueid.net/post/377299เครดิต: ขอบคุณ ภาพปกที่ 1 จาก Netflix และ ภาพปกที่ 2 จากเว็บไซด์ผู้กำกับภาพ Salvatore Totino ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม netflixid, netflixbrasil และ birdboxmovie: ภาพ 1, ภาพ 2.1, ภาพ 2.2, ภาพ 3, ภาพ 4, ภาพ 5.1, ภาพ 5.2ขอบคุณตัวอย่าง Bird Box: Barcelona (2023) จาก Netflix Thailandคอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน