ทนายนิด้า แจง หลังอัยการเดือด 'ให้รักพิพากษา' ชี้ ละครไม่ใช่สารคดี
ทนายนิด้า แจง หลังอัยการเดือด ‘ให้รักพิพากษา’ ชี้ ละครไม่ใช่สารคดี
จากกรณีที่กลุ่มอัยการ ไม่พอใจละครเรื่อง ให้รักพิพากษา เนื่องจากมองว่ามีการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดย นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เเละอดีตอัยการสูงสุด ระบุว่า การแสดงของหัวหน้าพนักงานอัยการในละคร ไม่สำรวม ใช้วาจาดูแคลนทนายสาว ชวนทนายสาวมาเป็นอัยการโดยไม่ผ่านการสอบตามกฎหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นการไม่รักษาเกียรติของพนักงานอัยการ และสงวนสิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมาย
- อัยการเดือด ละคร ‘ให้รักพิพากษา’ บิดเบือนข้อเท็จจริง ร้องผู้จัดแก้ไขด่วน ชี้ไม่เข้าใจปรึกษาอัยการสูงสุดได้
- จี้ ผู้จัด ‘ให้รักพิพากษา’ ทำบทให้ถูก ชี้ อัยการทั่วปท.รับไม่ได้ สงวนสิทธิ์ดำเนินการตามกม.
ล่าสุด ทนายนิด้า ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แจงกรณีดังกล่าว หลังจากมีชื่อระบุว่าเกี่ยวข้องกับละครดังกล่าว โดยระบุว่า
“#ละครก็คือละครไม่ใช่สารคดี
ในส่วนของนิด้าผู้เขียนบทมาติดตามการว่าความในศาลของทนายหญิงซึ่งดูการว่าความ ดูในห้องพิจารณา เขาทำกันประมาณไหน มีการสัมภาษณ์ชีวิตจริง มีการพูดคุยเกี่ยวเส้นทางการมาเป็นอาชีพทนายความว่ายากง่ายแค่ไหน อุปสรรคมีอะไรบ้าง คำเยินยอ คำดูถูก ความกดดัน เอามาเป็นข้อมูลประกอบในการเขียนบทคาแร็คเตอร์ของทนายทิชา
ส่วนพี่ทนายเจมส์ ทราบว่าเข้าไปดูแอคติ้ง ท่าทางการแสดง การวางมาดของทนายความ ในตอนถ่ายทำ ทราบจากทีมงานประมาณนี้
ทั้งทนายนิด้าและทนายเจมส์ไม่ได้ลงไปนั่งเขียนบท และนิด้าก็ไม่เคยอ่านบทว่ามีดีเทลอย่างไร ก็ติดตามดูหน้าจอพร้อมทุกคน
แต่ละครก็คือละคร ไม่ใช่สารคดี ถ้าดูละครเป็นละครจะเข้าใจว่าคนดีกว่าละครก็มี คนเลวยิ่งกว่าในละครก็มีเหมือนกัน #ฝากไว้ให้ได้คิด
ปล. ถ้าคิดถึงความน่าจะเป็น แทบไม่มีความเป็นไปได้เลยว่านักกฎหมายจะให้คำปรึกษาคนเขียนบทว่าเป็นอัยการชวนได้ โตไปเป็นผู้พิพากษาหรือนักการเมืองได้อีก และเท่าที่ทราบก็ไม่เห็นว่ามีใครให้ข้อมูลแบบนั้น แต่ด้วยความที่คนเขียนบทน่าจะคิดว่าเป็นละคร และคิดว่าคนดูเข้าใจ แม้จะมีคนดูบางกลุ่มที่ไม่เคยเข้าใจ และคาดหวังให้ละครไปไกลถึงสารคดี แต่การวิจารณ์อยากให้หาข้อมูลข้อนี้ด้วย ไม่น่าจะด่วนสรุปว่าเอาใครก็ไม่รู้มาให้คำปรึกษา เพราะคนดูละครจำนวนมาก แม้จะไม่ทั้งหมดเขารู้และรับทราบได้ว่ามีนักกฎหมายไม่กี่คนที่เกี่ยวข้องกับละครเรื่องนี้อยู่ แถมชื่อก็มีระบุไว้อยู่ใน end of credit”