อุ๊บ วิริยะ เบรกโครงการแปลงโฉมแม่น้องชมพู่ชั่วคราว เจอแซะยังไม่เข็ดอีกเหรอ

อุ๊บ วิริยะ เบรกโครงการแปลงโฉมพ่อแม่น้องชมพู่ชั่วคราว หลังเจอแซะยังไม่เข็ดอีกเหรอ ลั่นไม่คิดปั้นเป็นดารา เห็นความดีหวังช่วยให้มีรายได้เสริม มีรูปถ่ายสวยติดบ้าน

หลังจากที่ อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ นักปั้นชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า จะจับคุณพ่อคุณแม่ของน้องชมพู่มาแปลงโฉมเป็นสาวสวยหนุ่มหล่อในเร็ว ๆ นี้ พร้อมย้ำว่าไม่ได้คิดจะปั้นทั้งคู่เป็นดารา เพียงแต่จะได้มีรูปสวย ๆ ติดที่บ้าน รวมถึงมีค่าตัวให้ทั้งคู่คนละ 1 หมื่นบาทอีกด้วย

ทว่าภายหลังโพสต์ดังกล่าวออกไปมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนกลายเป็นดราม่าเบา ๆ ล่าสุดวันที่ 13 มิ.ย.2564 ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ต่อสายตรงถึง อุ๊บ วิริยะ เพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว

ล่าสุดโพสต์บอกว่าจะแปลงโฉมคุณพ่อคุณแม่น้องชมพู่ให้หล่อสวย เริ่มมีดราม่าอีกแล้ว? “โอ๊ย...เรื่องมันเล็ก ๆ ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรอยู่ในกอไผ่หรอก เรื่องของเรื่องคือตอนนี้เหตุการณ์อะไรมันก็ดีขึ้นแล้ว พอดีว่ามีคนทำรูปคุณแม่แต่งสวย ๆ มาให้ เราก็เห็นว่าจริง ๆ เค้าโครงคุณแม่เป็นคนสวย คุณพ่อก็หล่อ น่าจะจับคุณพ่อคุณแม่มาถ่ายรูป เมื่อตอนที่ไปกกกอกเมื่อสองสามวันที่แล้ว คุยกับทั้งคู่ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตมั้ยถ่ายรูปเก็บไว้ติดที่บ้าน”

“เราไม่ได้จะปั้นคุณพ่อคุณแม่เป็นดารา ต้องฟังนะเอฟซีทั้งหลายเพราะก็มีคนเข้ามาด่าเหมือนกันว่าเอ๊ะ! ยังไม่เข็ดอีกเหรอ ยังไม่หลาบอีกเหรอ มันไม่ใช่ ไม่ได้ปั้นเขาเป็นดารา แต่เป็นการนำเขามาแปลงโฉมมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก แล้วที่สำคัญคือมีสปอนเซอร์ทีมงานเราที่ทำเพชรทำพลอย ซึ่งจะมีค่าตัวให้คนละ 1 หมื่นบาท”

“ไปถ่ายที่กกกอก แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน ถ้าว่างสบายใจเมื่อไหร่ก็ถ่าย ที่สำคัญคือเป็นการช่วยทางอ้อมที่เราหาเงินให้คุณพ่อคุณแม่ เราไม่ให้เงินใครฟรีๆ ต้องทำงาน แล้วเราชอบเขาที่เป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่แบมืองอตีนขอทานใคร เราก็อยากจะส่งเสริม หารายได้เสริม”

“เข้าใจด้วยเอฟซีว่าฉันไม่ได้ปั้นเขาเป็นดารา เงิน 2 หมื่นหาไม่ง่าย บางทีเป็นปีเลยกว่าจะหาได้ แล้วคนเราต้องกินต้องอยู่เพื่อปากท้องตลอดไป ไม่มีใครจมปรักจมทุกข์อยู่ในโลกแห่งความเศร้าตลอดชาติ อยากจะบอกเอฟซีทุกคน บางคนไม่เข้าใจอ่านหนังสือบรรทัดเดียวแล้วก็มาด่า ๆ ๆ ฉัน ตรงนี้มันเป็นทางของเรา เกี่ยวกับเรื่องสวยงามเรื่องแฟชั่น”

“ครั้งหนึ่งฉันเคยทำผิดพลาดมาแล้ว ทำให้สองผัวเมียคู่นั้นเด่นดัง แต่ครั้งนี้ฉันอยากจะทำเพราะว่าเราเห็นคุณงามความดีของเขา ทุกคนบอกว่าปีกว่าแล้วไม่เคยเห็นรอยยิ้มจากคุณพ่อคุณแม่ แต่เวลาพี่อุ๊บไปทีไรทำไมคุณพ่อคุณแม่มีรอยยิ้ม เพราะฉันจริงใจและฉันก็ไปหาตลอด ไม่เคยแบ่งข้าง พอหมดตรงนั้นทีก็มาตรงนี้ที ไม่ใช่”

“คุณลองเข้าไปส่องเฟซแฟนคลับหลายคนรู้เวลาไปกกกอกฉันไปหาคุณพ่อคุณแม่น้องชมพู่ตลอด บางทีแอบไปก็มี มีบางคนไม่ให้ฉันไปแต่ฉันแอบไป ไปหาปลาส้ม ซื้อนมส่งไปก็มี คุยกันตลอด ซึ่งพอได้คุยเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ท่านก็ถามว่าจะดีเหรอ เราก็เลยบอกเหตุผลว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่าเกลียด ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เราทำงานจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง”

“แล้วที่สำคัญคือมีรายได้คนเราต้องกินต้องใช้ต่อไป ตอนนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี เงินทองก็หายาก แล้วเขาเองก็หยุดไลฟ์ขายผ้าไปหลายวัน เราก็บอกว่าเดี๋ยวไปชี้แจงแฟนคลับเอง ทุกคนเห็นด้วยอยากให้คุณพ่อคุณแม่มีรายได้”

“อีกอย่างคือเรายังไม่ได้กำหนดวัน อีกสักพักนึงให้มันสบายใจ ให้ทุกอย่างโอเค แล้วเราเป็นคนที่เวลาคุยอะไรไม่ปิด เปิดหมดอยากให้แฟนคลับที่รักเขารับรู้ความเคลื่อนไหวของเขา 95% เห็นด้วย จะมีอยู่สองสามคนที่มาด่า ๆ ๆ เราก็ไม่เข้าใจว่าในการที่จะทำความดีช่วยเหลือคนสองคนก็ยังมีมารมีพวกสัมภเวสีผีเร่ร่อนมาด่า”

“หลังจากที่เราโพสต์ไปมันก็มีดราม่า รู้สึกว่าทางคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ค่อยสบายใจ ทักมาบอกว่าขอระงับโครงการนี้ก่อนเนอะ เขาก็ขอโทษเรา แต่เราบอกไม่เป็นไร ไม่ได้รีบเร่ง สบายใจเมื่อไหร่ อยากทำก็ทำ เหมือนตอนนั้นที่จะทำ กกกอกเดอะซีรีส์ ที่เราไปขออนุญาตแต่ทั้งสองคนไม่อนุญาตเพราะมันมีความไม่สบายใจหลายอย่าง เราเคารพในการตัดสินใจของเขา”

“เอฟซีต้องอ่านโพสต์ให้จบ ย้ำว่าเราไม่ได้คิดจะปั้นเขาเป็นดารา เขาก็อยู่วิถีชีวิตของเขาดีอยู่แล้ว แต่คนเรามันก็ต้องมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต มีความเปลี่ยนแปลง มีสิ่งที่ดีเข้ามา นี่คือการทำงาน อยากชี้แจงให้สังคมเข้าใจ ไม่ใช่ว่าฉันจะไปโหนไปอะไร ทำในสิ่งที่ฉันถนัด เพราะฉันอยู่วงการบันเทิง จะให้ฉันไปปราบผีเหรอฉันก็ทำไม่ได้ ฉันก็ทำสิ่งสวยงามเกี่ยวกับสไตลิสต์ เมกอัพ แฟชั่นโชว์ เมกอัพ รันเวย์ Everywhere Everyday It’s my runway อุ๊บโมเดลไทยแลนด์(หัวเราะ)”

ยืนยันว่าไม่ได้โหนหรือเกาะกระแสอะไรทั้งสิ้น? “ฉันก็ดังอยู่แล้ว ฉันก็มีข่าวเวลาโพสต์อะไรนักข่าวก็เอาไปเขียนอยู่แล้ว เราไปจริงทำจริงพูดจริง เมื่อเขายังไม่โอเคเราก็เคารพในการตัดสินใจ แต่เราก็ยังรู้สึกดีที่เมื่อกี้คุณแม่ทักมาว่า ขอระงับเรื่องการจะเปลี่ยนแปลงโฉมอะไรนี่ก่อนเนอะ แสดงว่าทัวร์ลงคุณแม่ หรืออาจจะมีนักข่าวไปสัมภาษณ์ ซึ่งจริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ก็เข้าใจว่าท่านอยู่ต่างจังหวัดพอเจอเรื่องแบบนี้ก็อาจจะบางทีปรับตัวไม่ทัน”

หลังจากนี้คือรอให้ทางคุณพ่อคุณแม่สบายใจก่อนถึงจะเริ่มแปลงโฉม? “ใช่ ให้สบายใจ แต่ว่าเราก็จะต้องบินไปกกกอกอยู่แล้วเพราะว่าต้องไปถ่ายหนัง สวรรค์กกกอก เดอะซีรีส์ ของคุณสมยศ ศรีสมบูรณ์ ซึ่งเนื้อเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับคดีความเลย แต่เป็นหนังเพลงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน มีป้าถอน ลุงม็อค และลูกป้าถอนเล่น แล้วก็มีเรา มีพี่จิ๊ก(เนาวรัตน์) และดาราอีกหลายคน หนังก็จะมีฉากทำบุญซึ่งอาจจะต้องเกณฑ์คนในหมู่บ้านกกกอกมาเล่น จริง ๆ เขาวางแผนมานานแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ว่าไปถ่ายไม่ได้เพราะติดโควิด”

ไม่ได้มีคุณพ่อคุณแม่น้องชมพู่ร่วมเล่นด้วยใช่ไหม? “จริง ๆ อยากเอามาเล่นนะ(หัวเราะ) เพราะว่ามีฉากทำบุญ เคยแย็บ ๆ กับคุณพ่อคุณแม่ไปเหมือนกันว่ามาเล่นให้หน่อยเถอะมันได้เงิน เขาก็พูดขำ ๆ ว่ามันจะดีเหรอ เขาคิดว่าพี่อุ๊บพูดเล่นมั้ง จริง ๆ โปรดิวเซอร์ก็อยากได้ แต่เดี๋ยวค่อยว่ากัน ทำงานได้เงินเป็นเราเราเอาหมด ไม่ผิดกฎหมายด้วยทำไปเถอะ”