3 วายร้ายหญิงที่มาพร้อมกับพลังเทพเจ้าใน "Shazam! Fury of the Gods"
เราอยู่ท่ามกลางสงคราม เราจะทำลายทุกสิ่ง
ผู้ชนะในอาณาจักรนี้ไม่สามารถขัดขวางเราได้!
—เฮสเพร่า
“ภาพยนตร์จากหนังสือการ์ตูนที่สุดย่อมมีความดีพอๆ กับความชั่วร้าย” ซาฟรานกล่าว “ในครั้งนี้เรามีเฮเล็น เมอร์เร็น, ลูซี่ หลิว และ เรเชล เซกเลอร์ มับบทบุตรแห่งแอตลาส และพวกเธอก็เกรี้ยวกราดสุดๆ เพราะพ่อมดขโมยพลังแห่งแอตลาสไป ซึ่งเป็นพลังที่ครอบครัวชาแซมได้ครอบครองตอนนี้ ผมรักที่เราสร้างตัวละครโหดเหี้ยมหน้าใหม่มาสู้กับครอบครัวชาแซม มันเป็นการต่อสู้ด้วยพลังวิเศษ เทพต่อสู้กับเทพด้วยกันเอง ผมบอกหรือยังว่าพวกเขามีมังกรที่มาร่วมการผจญภัยกับพวกเขาด้วย?”
เฮสเพร่า
บุตรแห่งแอตลาสคนโตสุดและการ์ดแห่ง Tree of Life คือเฮสเพร่า ผู้เดินทางมายังโลกเพื่อแก้แค้นให้กับการตายของพ่อและเหล่าเทพ ด้วยพลังที่เรียกว่า Power of the Elements เฮสเพร่าใช้มันเพื่อควบคุมพลังธรรมชาติสู้กับมนุษย์ รวมถึงครบอครัชาแซมในภารกิจของเธอที่จะมาทวงคืนความสมดุล
เฮเล็น เมอร์เร็นรับบทเทพผู้มาล้างแค้น “ฉันรักการรับบทเทพและราชินีค่ะ คุณน่าจะรู้อยู่” เธอกล่าวติดตลก “มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย บังเอิญทั้งนั้น! แต่แน่นอนว่าเฮสเพร่าคือเทพที่กลับมายังโลก พยายามทวงพลังจากเทพที่เคยมีเมื่อครั้งโบราณ”
ด้วยคำว่า “เทพธิดา” ทำให้นึกถึงสมัยโบราณที่ต้องมีผ้าคลุม มีการเล่นเกมกับชีวิตมนุษย์ผู้บริสุทธิ์เพื่อความสนุก แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทั้ง 3 ทำ
“ในเรื่องนี้มีการผสมผสานของตำนานกรีกกับตัวละครต่างๆ ในจินตนาการและความมหัศจรรย์” เธอกล่าว “และมีมังกรด้วย! แม้แต่พวกมังกรก็ยังโผล่มาให้เห็น อันที่จริงฉันอิจฉาน้องตัวเองมากที่ได้ขี่มังกรด้วย
“อันที่จริงแม้ว่าเฮสเพร่าจะโกรธแค้นเรื่องพลังของพ่อ และมีประเด็นเรื่องพ่อเป็นพิเศษ เฮสเพร่าจัดการทุกอย่างพ่อมดที่เอาพลังพ่อของเธอไปและมอบพลังนั้นให้แด็กที่ดูงี่เง่า กระโตกกระตากเกินตัว มีจิตใจดีแต่ยังมีความเป็นเด็กสูงมาก เธอรู้ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่ และพยายามจะทวงพลังกลับคืนมา”
แต่พลังวิเศษของลีวายในการรับบทนี้ก็สร้างความประทับใจให้เมอร์เร็นได้มาก “เสเพร่าไม่อาจรับมือกับความอ่อนโยนและพลังจากตัวละครชาแซมนี้ที่ถ่ายทอดผ่านแซ็คได้อย่างมีเสน่ห์ มันสนุกมากที่ได้เห็นการแสดงของจริงในเรื่องที่ฉันเคยสนุกบนหน้าจอมาก่อน”
ลีวายกล่าวชมกลับโดยพูดว่า “เฮเล็นเป็นอย่างที่เราอยากให้เธอเป็นเลยครับ มีความเยือกเย็น ดูมีเหตุผล เคร่งขรึม สนุกสนาน สวย มีพรสวรรค์ เป็นผู้หญิงที่มีความเป็นอมตะอย่างที่เห็นในเรื่องจนคิดว่า ‘ชีวิตจริงเธอเป็นแบบนี้หรือเปล่า?’ ใช่ครับ เธอเป็นแบบนั้นเลย นั่นล่ะชีวิตจริงเลย”
ระหว่างชื่นชมในพลังความกระตือรือร้นของลีวาย เมอร์เร็นเองก็ชื่นนชมกับความเป็นธรรมชาติของแซนด์เบิร์กด้วย เธอเล่าว่า “ฉันรักการทำงานร่วมกับเขา เขาเป็นคนเงียบๆ ไม่เคยออกคำสั่งว่า ‘ทำแบบนี้ ทำแบบนั้น’ เขามีจังหวะสื่ออารมณ์ในฉากที่ชัดเจน และนันเป็นเทคนิคที่มีความซับซ้อน ทำให้ถ่ายทอดเรื่องราวและตัวละครได้มากขึ้น พร้อมกับการถ่ายทอดโลกที่มีรายละเอียดซับซ้อนออกมาได้สมบูรณ์แบบ”
คาลิปโซ่
เธอคือลูกสาวของแอตลาสผู้โหดเหี้ยมที่สุด และเป็น Guard of the Tree of Life คาลิปโซกุมพลังแห่งความโกลาหลเอาไว้ เธอจะกระซิบความน่ากลัว ความคลั่ง ความไร้สติออกมาเพื่อแก้แค้นพวกมนุษย์ที่ทำลายเหล่าเทพ เธอพร้อมทำทุกอย่างเพื่อทวงพลังกลับมา แม้ว่าจะต้องทำลายครอบครัวตัวเองก็ตาม
ลูซี่ หลิวรับบทคาลิปโซ่ผู้มีความซับซ้อน “เพราะฉันเคยดูเรื่องแรกมาก่อน จนคิดว่าจะวิเศษขนาดไหนหากได้มีส่วนร่วมกับดีซีและอยู่ในกลุ่มเหล่าเทพ” เธอกล่าว “อย่างเฮเล็น เมอร์เร็นก็มีความเป็นเทพธิดาอยู่ในตัว ไม่ต้องอาศัยการแต่งตั้งหรือสร้างตัวละครเลย ส่วนราเชลก็เป็นเทพธิดาสาวน้อยที่มีจิตใจงดงาม เราสามคนเข้ากันได้ดีลงตัวมากค่ะ”
หลิวผู้เคยอ่านหนังสือการ์ตูนมาก่อนอตนเป็นเด็ก รู้สึกชื่นชอบตัวละครของเธอเหมือนแฟนทุกคนที่ไม่ได้เติบโตมาพร้อมกับฮีโร่อย่างเดียว แต่ยังมีเหล่าร้ายด้วยเช่นกัน ในบทกล่าวว่าเธอมีรอยยิ้มอย่างที่ปีศาจคลั่งไคล้ หลิวเล่าว่า “นั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เธออาจจะดูโหดเหี้ยมไปบ้าง ซึ่งนั่นก็จริง แต่ยังมีความซนอยู่ในตัว เรียกว่าเธอมีชะตาลิขิตให้เป็นแบบนั้นดีกว่า แทนที่จะมีแต่ความชั่วร้ายเต็มตัว เธอกลับมีบางอย่างที่ทำให้ตัวละครดูมีพลังมากกว่านั้น เธอมีความรู้สึกที่ซ่อนอยู่เพราะนี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อของเธอ นี่คือจุดที่ทำให้เข้าใจเธอได้ง่ายและรายละเอียดหลายอย่างพัฒนามาจากจุดนั้น เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นจากจุดนั้น เพื่อทวงคืนความยุติธรรมของเธอ”
สำหรับการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเธอ ไม่ว่าจะดูมีจุดพลิกผันอย่างไรก็ต้องอาศัย “ความมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์ในเรื่อง ‘Fury of the Gods’” หลิวกล่าว “ความมหัศจรรย์คือเหตุผลที่โลกของพวกเขาถูกทำลาย”
…และความโหดเหี้ยมของคาลิปโซที่หวังจะล้างแค้น ทำให้เธอสร้างความโกลาหลขึ้นมาจากคำเตือนเพียงครั้งเดียว “พลังแห่งความโกลาหลก็ตรงตามชื่อเลยค่ะ” หลิวอธิบาย “มันทำให้เกิดพลังที่ไม่มีความปราณีใดทั้งนั้น และเธอมีพลังกระซิบถ้อยคำด้วย เมื่อคำเหลั่น้นออกมามันก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างผลกระทบได้ มันเกินกว่าคำว่าสะกดจิต มันเป็นส่วนผสมทางเคมีอันเหลือเชื่อที่ทำให้คนหนึ่งกลายเป็นทาสรับใช้เธอได้เลย แล้วความวุ่นวายก็กระจายตัว เพราะเมื่อคนหนึ่งกระซิบกับอีกคนหนึ่งก็จะไม่มีวันสิ้นสุด จนกระทั่งมนุษย์กลายเป็นศัตรูร้ายของตัวเอง เพียงแค่กระซิบเดียวของคาลิปโซ”
มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวที่คาลิปโซจะสะกดได้ สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งในตำนานที่น่ากลัวก็เช่นกัน ลาดอนเป็นสัตว์ที่มีส่วนผสมของมังกรที่มีขนาดใหญ่ มาจาก Tree of Life itself มีพลังน่ากลัวและสร้างความหวาดกลัวให้ผู้ท่ากล้าเข้าไปยังสวนเอเดนเพื่อตามหาแอปเปิ้ลสีทอง
หลิวรู้สึกโชคดีมากที่ได้เป็นผู้บังคับเจ้าลาดอน เธอเล่าว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ขี่มังกร และเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ลองใช้สลิงอย่างที่เราใช้กัน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในเทคโนโลยีแบบใหม่นั้น ทีมนักแสดงผาดโผนและควบคุมสลิงเองก็ตื่นเต้นกับมันมากด้วย มันน่าทึ่งมากค่ะ บางคนในทีมนักแสดงและทีมงานก็อิจฉาที่ฉันได้ขี่มังกร” เธอยิ้ม “แซ็คยังเข้ามาในฉากและพูดว่า ‘ทำอะไรอยู่น่ะ? เจ๋งไปเลย! ผมอยากขี่บ้าง!’ และฉันตอบว่า ‘เสียใจด้วยนะ เพราะคุณต้องคุมบังคับแบบไม่ถนัดและบิน!’ แต่ให้พูดตามตรงคือฉันคิดว่าตัวเองโชคดีมากค่ะ”
แอนเธีย
นี่คือเด็กใหม่ในโรงเรียนที่ดูเงียบๆ และลึกลับ เธอเป็นเพื่อนกับเฟรดดี้ ฟรีแมนและมีอายุนับล้านปี เธอมีพลังควบคุมแกนกลางที่เป็นจุดสำคัญได้ สามารถหมุนโลกที่อยู่ใต้เท้าและหมุนทุกอย่างได้
ราเชล เซกเลอร์รับบทเด็กนักเรียนที่อายุมากสุดในประวัติศาสตร์ของฟิลลี่ “แอนเธียอายุน้อยสุดในบรรดาพี่น้องทั้ง 3 และเธอก็มีจิตใจที่งดงามมาก เธอมีอายุแค่ 6,000 ปีเอง” เซกเลอร์หัวเราะ “ฉะนั้นฉันเดาว่าเธอยังไม่รู้จักโลกมากนัก และคิดว่าในบรรดาเราทั้ง 3 คนเธอจะดูมีความลังเลในการลงมือสร้างความโหดร้ายมากที่สุด”
เซกเลอร์อธิบายถึงความสามารถพิเศษตัวละครของเธอว่า “เธอมีพลังควบคุมแกนกลางได้ ซึ่งหมายความว่าแค่เธอยกมือขึ้นมือขึ้นมา ทุกอย่างก็ดูเบาหวิว ทั้งโลกดูจะหมุนรอบตัวเธอได้เพราะตอนนี้เธอคือแกนกลางสำคัญของโลก”
พลังเหล่านั้นก่อให้เกิดอันตรายกับฮีโร่ของเราได้อย่างมหาศาลในช่วงที่พวกเขาต้องบินผ่านท้องฟ้า “ถึงจุดหนึ่งเธอควงตึกทุ่มใส่ชาแซมของซัคคารี ลีวายเลยค่ะ เป็นเรื่องที่สนุกมาก” เซกเลอร์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “และเมื่อทุกอย่างมารวมกัน พลังของเราดูน่าอัศจรรย์มาก เหมือนเรื่องราวในตำนานที่ฉันคิดว่าหลายคนต้องสนุกเมื่อได้ดูบนจอ”
การเข้าฉากเดียวกันของตัวละครที่ต้องเรียนในโรงเรียนเดียวกัน ทำให้เซกเลอร์และกราเซอร์กลายเป็นเพื่อนซี้กัน “ผมโตมากับละครเวทีและรักมันมาก มีความผูกพันพิเศษกับ ‘West Side Story ผมแสดง A-Rab ตอนที่ยังเป็นด็ก’” กราเซอร์กล่าว “ผมดูตัวอย่างแล้วได้พบกับราเชล เราคุยกันเรื่องอดีตของพวกเรา เธอเป็นคนน่ารัก สนุกสนาน และฉลาดมากครับ เธอเหมือนมาจากหนังสือเลย! ผมดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับเธอ”
เซกเลอร์กล่าวเสริม “แจ็คกับฉันเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลยจากการเล่นเรื่องนี้ เขาอายุ 17 ตอนนั้น ส่วนฉันอายุ 20 เขามีพลังแบบคนวัย 17 อย่างที่ฉันอยากจะมีเลยค่ะ! ทีมนักแสดงทุกคนสนิทกันมาก ทุกคนคอยดูแลกัน ออกไปเที่ยวด้วยกันช่วงวันหยุด และมีบรรยากาศที่อบอุ่น ฉันคิดถึงมันมากเลย!”
เซกเลอร์ก็รู้สึกผูกพันกับพี่น้องบนหน้าจอของเธอ เธอเล่าว่า “ไม่มีอะไรเหนือกว่าคำว่ามหัศจรรย์! ในฐานะของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในโลกใบนี้ การมีผู้หญิงที่น่าทึ่งอีก 2 คนที่มีผลงานการทำงานอันน่าเหลือเชื่อ คอยให้คำปรึกษาได้ นับเป็นเรื่องที่วิเศษมากค่ะ สำหรับการเดินทางในหนังเรื่องนี้ไปพร้อมกับพวกเธอ มีทั้งการทำงาน การได้สวมชุดเกราะ สู้กับมังกรพร้อมกับเฮเล็น เมอร์เร็นและลูซี่ หลิว ฉันไม่คิดว่าระหว่างเรามีอะไรตกหล่นเลยสักนิด เราชื่นชอบในประสบการณ์นี้มากเลย”
แซนด์เบิร์กจำได้ว่า “ตอนที่เราคุยกันเรื่องวายร้ายในเรื่อง ตั้งแต่แรกเราตั้งความหวังไว้สูงมาก เราต้องการใครสักคนอย่างเฮเล็น เมอร์เร็นมารับบทร้าย นั่นคือเป้าหมายและเราก็ลองเสนอบทให้กับเธอ เธอตอบตกลงทันทีจนรู้สึกว่า ‘โอ้ เราได้คนในฝันมารับบทนี้แล้ว!’ มันรู้สึกว่า ‘ถ้าเราได้เธอมาร่วมงานแล้ว เราจะได้อะไรอีก?’
“จากนั้นเราคัดเลือกลูซี่ หลิวมารับบทคาลิปโซ่ เธอราวกับฝันที่เป็นจริงที่ได้ร่วมงานด้วย” เขาเล่าต่อ “จากนั้นยังมีลูกสาวคนที่ 3 ของแอตลาสคือแอนเธีย ราเชล เซกเลอร์ส่งเทปมาให้และลองอ่านบทร่วมกับแจ็คผ่านซูม แม้ว่าจะเป็นการแสดงผ่านซูมแต่ก็เห็นภาพได้ชัดเจน มันดูลงตัวมาก พวกเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดี ราเชลดูมีเสน่ห์และน่าจับตามองมากเลย”
แซนด์เบิร์กเล่าว่าจากจุดเริ่มต้นจนถึงตอนนี้พร้อมด้วยการเพิ่มเข้ามาของทั้ง 3 คน “ทีมนักแสดงในเรื่อง ‘Shazam!’ เหมือนครอบครัวเดียวกันนอกจอเลย พวกเขาเริ่มเรียกตัวเองว่าครอบครัวชาแซม และในภาคแรกพวกเขาออกไปเที่ยวกันนานเป็นชั่วโมงเลย ผมคิดว่าทุกคนดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานกันในเรื่องนี้ เพราะพวกเขารักกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดให้เห็นในหนัง ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่หนังภาคแรกออกมาดีมาก และคิดว่าในภาคนี้คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังของครอบครัวและความสนุกที่อยู่ในเรื่อง”
Shazam! Fury of the Gods หรือ ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 16 มีนาคม ที่จะถึงนี้
สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa