รีวิวหนัง “Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป” อรรถรสค่อนข้างเกินคาด กับนนกุลฉบับ(ยัง)ขบเผาะ
มาถึงคิวของอีกหนึ่งหนังไทยช่วงส่งท้ายปีนี้ ที่เป็นหนังร่วมสร้างระหว่างไทยกับจีน ซึ่งจริง ๆ หนังก็วางแผนจะฉายมานานหลายปีแล้ว จึงทำให้ “Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป” กลายเป็นหนังที่ดูค่อนข้างเก่าเก็บไปนิด แต่คอนเทนท์ยังตอบสนองกับยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ว่าพระเอกอาจจะดูอ่อนวัยกว่าตัวจริงในทุกวันนี้ไปเยอะอยู่ก็ตาม แต่เนื้อหาของหนังถือว่าอรรถรสได้เกินความคาดหมายอยู่เหมือนกัน
Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป เป็นเรื่องราวของ 3 เพื่อนซี้ เจีย, เหลียง และ พี่พั่ง ที่อยู่ดี ๆ ชีวิตสุดจอยของวัยรุ่นก็ต้องชะงักกะทันหัน เมื่อป๊ากับม๊าของเจียจะประสบอุบัติเหตุ จนมีภาวะสมองได้รับการกระทบกระเทือน อีกทั้งธุรกิจร้านอาหารของครอบครัวของเจียยังจะถูก จิว พี่สาวของเหลียงจ้องฮุบกิจการไปอีก
งานนี้ถึงล้มได้แผล แต่ไม่มีวันยอมแพ้ สามหนุ่มเพื่อนซี้ที่แม้ชีวิตจะไม่เคยเป็นชิ้นอัน ขอร่วมมือกัน Start ภารกิจสำคัญที่มีร้านอาหารของครอบครัวเป็นเดิมพัน และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสุดโหด มัน ฮาชนิดน็อนสต็อป เพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งขัน “Hunter Chef” ทัวร์นาเมนต์การแข่งขันทำอาหารสุดโหดที่จิวมีดีกรีเป็นแชมป์เก่า
ก่อนอื่นใดก็คงจะไม่ต้องประหลาดใจกับใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของนนกุลในหนังเรื่องนี้ เพราะนี่ก็คือหนังที่เคยได้รับผลกระทบมาจากช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง ทำให้กว่าหนังเรื่องนี้จะได้มีโอกาสลงโรงฉายสู่สายตาแฟน ๆ ก็ปล่อยโปรเจกต์ดองค้างเอาไว้อยู่ 3-4 ปีเลยทีเดียว ดันมาเจอช่วงโลกทั้งใบชัตดาวน์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักแสดงในเรื่องนี้ดูยังเยาว์กันทุกคนเลย
Start It Up ถือเป็นผลงานการกำกับหนังใหญ่เต็มตัวของ “เบิร์ด-ภคพล เลิศวชิรไพบูลย์” นักสร้างที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการโปรดักชันมายาวนาน มาหยิบจับทำหนังเรื่องนี้แบบเต็มสองมือ ด้วยการงัดเอาประสบการณ์ที่สั่งสมมาใช้ในหนังเรื่องนี้ ที่ค่อนข้างท้าทายเพราะเป็นการจับมือร่วมกันสร้างระหว่างไทยกับจีน ที่การทำงานนั้นจะต้องมีทั้งทีมงานฝั่งไทยและฝั่งจีน บูรณาการไปร่วมกันนั่นเอง
เช่นเดียวกับในส่วนของบทหนัง ที่ได้ “ปลวก-อรรถพล ปานดี” มือเขียนบทจากซิตคอมชื่อดัง เป็นต่อ มาทำหน้าที่ปลุกปั้นเรื่องให้ คู่กับ “ฟ่างหงเหริน” นักเขียนบทจากจีน ช่วยกันประกอบร่างอินเนอร์ของหนังเรื่องนี้ ที่สัมผัสได้เลยว่าน่าจะมีการปรับโครงสร้างและรายละเอียดต่าง ๆ มาพอสมควร กว่าจะหนังสูตรนี้ออกมาในที่สุด
ในแง่องค์ประกอบงานกำกับและบทหนังนั้น Start It Up ยังค่อนข้างเต็มไปด้วยแผลฟกช้ำตามตัวอยู่พอประมาณ แต่อย่างน้อย ๆ แก่นแท้ของหนังค่อนข้างชัดเจนด้วยดี มีโจทย์หลักที่ต้องการนำทางคนดูไปถึงฝั่งฝัน แม้ว่าระหว่างทางที่ร้อยเรียงไปนั้น มันอาจจะมีรสชาติที่ประหลาด ๆ และยังทำได้ไม่ถึงในหลายจุดอยู่บ้างก็ตามดี แต่ก็ต้องเคารพในเจตนาที่ดีและแน่วแน่ในพล็อตหนังเรื่องนี้จริง ๆ
งานกำกับถือว่าทำออกมาใช้ได้ตามมาตรฐาน ถึงจะยังมีบางแง่มุมที่ดูเป็นละครไปสักหน่อย แต่ก็เป็นจุดที่มองข้ามไปได้ โดยที่บทหนังที่พล็อตค่อนข้างชัดดี แต่น่าเสียดายในจังหวะการเล่าเรื่องที่ยังค่อนข้างขาดเสน่ห์ไปอยู่ กลายเป็นหนังที่ติดอยู่ระหว่างความครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะคอมเมดี้ก็โป๊ะป๊ะได้แค่สามบาทห้าบาท จะดรามาก็ยังส่งไปถึงลิมิตที่ควรจะไป จึงกลายเป็นหนังที่พอดูได้เรื่อย ๆ ยังไม่ถึงขั้นประทับใจ แต่ก็ไม่ได้จัดว่าแย่แต่อย่างใด
โปรดักชันของหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าค่อนข้างได้รับการสนับสนุนลงทุนได้ดีประมาณหนึ่งอยู่ ทั้งการเซ็ตฉากและรายละเอียดแวดล้อมต่าง ๆ ถือว่ามีความใส่ใจในการเนรมิตผลงานออกมาแบบไม่ดูถูกคนดู และถือว่าหนังค่อนข้างกล้าในระดับหนึ่ง ที่เลือกสร้างงานและมีการทำงานในลักษณะ 2 ภาษา ที่พยายามเกลี่ยความกลมเกลียวให้ออกมาเป็นภาษาเดียวกัน กลายเป็นจุดที่ไม่ได้ดูขัดหูขัดตาใด ๆ สักนิด
ทางด้านพาร์ทการแสดง นนกุล ชานน ก็ยังโชว์การเป็นนักแสดงที่มีของ ถึงแม้ว่าช่วงตอนที่เขารับบทนี้ชั่วโมงบินทางการแสดงอาจจะยังไม่จัดจ้านเท่าปัจจุบัน แต่เขาก็งัดทักษะแอคติ้งที่เป็นพรสวรรค์ของตัวเองออกมาใช้ได้อย่างดี โดยเฉพาะการเข้าซีนอารมณ์และพาร์ทดรามาต่าง ๆ ถือว่าทำได้ใช้ได้ เป็นผลงานที่ทำให้เห็นได้ว่าเขาพัฒนาการขึ้นมามากแค่ไหนในปัจจุบัน
นักแสดงฝั่งไทยยังมี โจ๊ก โซคูล ที่ถือว่าหยอดตัวละครนี้เข้ามาก็เพียงจะเป็นตัวนำในการปล่อยความคอมเมดี้โดยแท้ ทั้งที่บทบาทของเขาแทบจะไร้มิติในทุก ๆ เสียด้วยซ้ำ ค่อยมาเบรกอารมณ์กับปล่อยมุกสไตล์จังหวะซิตคอมตลอดทั้งเรื่อง ที่ก็มีจุดที่เวิร์กและจุดที่แป้กปะปนกันไป แต่นับว่าเขายังใช้คารมความสนุกสนานได้เป็นประโยชน์ดีในเรื่องนี้
ฝั่งทีมนักแสดงจีน ที่นำโดย ปีเตอร์ เซิ่งอี้หลุน ที่ต้องบินมาทำงานกับกองถ่ายในไทยเป็นหลัก แต่เขาก็ดูจะกลมกลืนไปกับหนังเรื่องนี้ดี แม้ว่าจะต้องส่งต่อบทกันคนละภาษา แต่กลับถ่ายทอดออกมาแบบไม่มีอุปสรรคเลย โดยในหนังฉบับที่ออกฉายนั้น ทางผู้สร้างได้เลือกจะทำการพากย์ไทยให้กับตัวละครฝั่งจีนทั้งหมด กลายเป็นว่าทุก ๆ อย่างที่ลื่นไหลไปด้วยดี แทบไม่มีรอยสะดุด กลายเป็นหนังที่นักแสดงไทยกับจีนเข้าขากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
โดยภาพรวมแล้ว Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป ก็เป็นหนังไทยที่อาจจะยังไม่ได้ดีสมบูรณ์แบบอะไร แต่ก็ไม่ใช่หนังที่ต่ำกว่ามาตรฐานตรงไหน กลายเป็นหนังที่โดดเด่นได้เพราะประเด็นที่ค่อนข้างชัดดีในตัวหนังเอง มีคีย์สำคัญที่อยากจะส่งให้กับคนดู และยังทำหน้าที่สร้างแรงบันดาลใจส่งต่อให้กับผู้รับสาร เหมือนกับคอนเซ็ปต์ของหนังที่ว่า ภาพยนตร์ของผู้ที่ไม่แพ้ เพราะเป็นหนังที่มาต่อเติมให้กำลังใจผู้ชมในช่วงเวลาแบบนี้ได้ดี
ถึงตัวละครจะยังเต็มไปด้วยบาดแผลอยู่มากมาย แต่ผลลัพธ์กลายออกมาเป็นหนังไทยที่ดูได้เพลิน ๆ ซ้ำยังได้สาระกลับไปมากกว่าที่คิดด้วยซ้ำ หากมองข้ามประเด็นที่หนังเพิ่งจะออกจากโหลดองนำมาเข้าฉาย หลังจากปิดกล้องไปหลายปี ก็นับว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างได้อรรถรสเรื่องหนึ่ง เพียงแต่ความเก่าเก็บของหนัง บางทีก็ทำให้ขาดความสดใสในกระแสปัจจุบันไปสักหน่อยนั่นเอง
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป
- ประเภท: ตลก / ดรามา
- ผู้กำกับ: ภคพล เลิศวชิรไพบูลย์
- นำแสดงโดย: ชานน สันตินธรกุล, เซิ่งอี้หลุน, สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ
- ความยาว: 100 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 12 ธันวาคม 2024
Movie.TrueID METRIC: Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.5/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (6.8/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (6.9/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.4/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (5.9/10)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa