ถ้าความเป็นธรรมเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน ถ้าความจริงไม่ใช่เสียงที่ผู้คนอยากได้ยิน ถ้าระบบความยุติธรรมถูกบิดเบียนด้วยฝีมือของเพื่อนมนุษย์ และถ้าคุณเป็นไมเคิล ปีเตอร์สัน...คุณจะทำอย่างไร นี่คือเรื่องราวที่ใช้เวลาสร้างถึง 15 ปีผ่านสารคดี “ THE STAIRCASE คดีฆาตกรรมขั้นบันได”บันทึกบทเริ่มต้น ย้อนกลับไปในคืนวันที่ 9 ธันวาคม 2001 สายด่วน 911 ได้รับสายจากไมเคิล ปีเตอร์สัน ว่าภรรยาของเขาพลัดตกจากบันได เมื่อตำรวจไปถึงก็พบศพภรรยาเขานอนจมกองเลือดอยู่ที่เชิงบันไดบ้าน จากคำบอกเล่าของไมเคิลในคืนนั้นแคธลีนกับไมเคิลได้นั่งดื่มกันที่ข้างสระว่ายน้ำก่อนที่แคธลีนจะกลับเข้าบ้านไปก่อน โดยเขามาพบภรรยาตัวเองนอนจมกองเลือดอยู่แล้วที่ตรงเชิงบันได จากหลักฐานแวดล้อมที่มีทำให้ตำรวจปักใจเชื่อว่าไมเคิลได้ลงมือฆาตกรรมภรรยาตัวเองเป็นผลให้มีการจับกุมและดำเนินคดีในเวลาต่อมา จากผลการชันสูตรพบว่าศีรษะของแคธลีนมีรอยแผลเกิดขึ้นหลายแผลด้วยกันนั่นทำให้ตำรวจเชื่อว่าคดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาแต่เป็นการฆาตกรรม ไมเคิล ปีเตอร์สันจึงได้ทำการจ้างทนายที่มีฝีมือมาสู้คดีโดยได้มีการรวมทีมและจ้างทั้งนักสืบเอกชน ผู้เชี่ยวชาญการเลือกคณะลูกขุน ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอ และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมายเข้ามาช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับไมเคิล ปีเตอร์สันบันทึกที่ซ่อนไว้ ไมเคิล ปีเตอร์สันเป็นอดีตพันเอกนาวิกโยธินเกษียณโดยในภายหลังเขาได้กลายมาเป็นนักเขียนชื่อดัง ก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับแคธลีนไมเคิลเคยแต่งงานและอยู่กับภรรยาคนเก่าที่เยอรมัน หลังจากที่มีปัญหากับภรรยาคนเก่าไมค์ก็ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่อเมริกาและได้พบกับแคธลีน ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบในสายตาของทุกคนแคธลีนและไมเคิลเป็นคู่รักที่ใครหลายคนอิจฉา คนสองคนที่มีชีวิตคู่ที่ดูมีความสุขและไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่จากการสืบคดีของตำรวจได้พบกับความลับที่ไมเคิลเก็บซ่อนไว้นานหลายสิบปีภายใต้ภาพครอบครัวแสนสุข ตำรวจพบว่าไมเคิลเป็นไบเซ็กชวล หลังจากที่ได้ตรวจค้นบ้านของไมเคิลโดยละเอียดตำรวจพบรูปการร่วมเพศของผู้ชายในคอมพิวเตอร์ของเขาจำนวนมาก จากจุดนี้เองที่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องทั้งหมดรสนิยมทางเพศของเขากลายมาเป็นแรงจูงใจในเหตุฆาตกรรมนี้ ตำรวจและอัยการเชื่อว่าแคธลีนอาจรู้เรื่องนี้เข้าและทำให้ทั้งสองคนทะเลาะกันจนเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นบันทึกที่บิดเบือนไฟแห่งความจริงที่ถูกจุดกลางสายฝน ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นการถ่ายทำที่เริ่มถ่ายทำตั้งแต่ตอนต้นของคดีโดยตามติดทั้งการวางแผน การหาข้อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของทีมทนายฝั่งของไมเคิล และการทำงานของอัยการกับตำรวจ ช่วงเวลาของการต่อสู้ในชั้นศาลคืออีกหนึ่งช่วงเวลาที่สร้างความน่าสนใจให้กับสารคดีนี้ ต่างฝ่ายต่างมีหลักฐาน ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และทฤษฎีเป็นของตัวเอง แต่สิ่งที่เราสามารถเห็นได้ชัดคือข้อเท็จจริงสามารถถูกปกปิดและบิดเบือนด้วยฝีมือของผู้ที่ทำงานอยู่ในระบบยุติธรรมเอง หลายครั้งที่ฝั่งของไมเคิลพยายามชี้แจงให้เห็นว่าหลักฐานที่ทางตำรวจและนักนิติวิทยาเก็บมามีรายละเอียดไม่มากพอ รวมไปถึงบางหลักฐานยังเกิดความเสียหายอีกด้วย นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการกระเซ็นของเลือด ดเวย์น ดีเวอร์ ยังได้ทำการทดลองที่ขัดแย้งกับหลักการทางวิทยาศาสตร์เพื่อใช้เป็นการจำลองรูปแบบการฆาตกรรมที่คาดว่าไมเคิลได้ลงมือทำ ความพยายามของฝั่งอัยการและตำรวจยังได้พาการสืบสวนย้อนกลับไปถึง 18 ปี โดยพวกเขาได้โยงการตายของเพื่อนสนิทไมเคิลที่ตายไป 18 ปีแล้วเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากรูปแบบเหตุการณ์ที่มีความคล้ายคลึงกันจนน่าตกใจนั่นยิ่งเป็นการสุมไฟให้คณะลูกขุนและคนทั่วไปเชื่อว่าเขาเป็นคนที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้ ทฤษฎีและการคาดเดาต่าง ๆ มากมายถูกหยิบยกขึ้นมาพูดไม่เว้นแม้กระทั่งการบอกว่าไมเคิลเป็นนักเขียนทุกเรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นหนึ่งในแผนการณ์ของเขา แม้ว่าจะเกิดความขัดแย้งของหลักฐานและข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ หรือความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ในการทำหน้าที่ของตนเองมากแค่ไหน แต่อคติและความน่าเชื่อถือของอีกฝ่ายก็ชนะในคดีนี้อยู่ดี ไมเคิลโดนตัดสินจำคุกในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา ทนายทางฝั่งไมเคิลพยายามยื่นอุทธรณ์อยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยได้รับการอุทธรณ์ ความพยายามในการสู้คดีของไมเคิลจึงเป็นเหมือนการจุดไฟกลางสายฝนเพราะไม่ว่าไฟจะแรงสักแค่ไหนสุดท้ายก็พ่ายให้กับพายุฝนที่พัดกระหน่ำลงมาอยู่ดีบันทึกบทสุดท้าย ไมเคิล ปีเตอร์สันใช้เวลาอยู่ในคุกนานกว่า 8 ปี ในที่สุดปี 2011 คดีของเขาก็สามารถยื่นอุธรณ์ได้ เหตุเพราะในปีเดียวกันนี้เองคดีของเกรก เทย์เลอร์ได้รับการพิจารณาใหม่และมีคำตัดสินให้เขาพ้นโทษ จากการที่ดเวย์น ดีเวอร์ได้ทำการปลอมแปลงเอกสารการชันสูตรจนทำให้เกรกต้องได้รับโทษจำคุกกว่า 17 ปี ซึ่งดเวย์นคนนี้เองที่ดูแลคดีของไมเคิลและมีส่วนสำคัญที่ทำให้คณะลูกขุนตัดสินให้ไมเคิลมีความผิดจริงฐานฆาตกรรมโดยเจตนา ความหวังครั้งใหม่ได้ปรากฏตรงหน้าของไมเคิลและครอบครัวอีกครั้ง แต่บทสรุปและตอนจบของเรื่องราวนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคาดคิดไมเคิลไม่ได้ขึ้นศาลเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองบริสุทธิ์ เขาเลือกที่จะทำข้อตกลงอัลฟอร์ดซึ่งเป็นข้อตกลงที่ให้จำเลยยอมรับผิดเพื่อลดหย่อนโทษ ที่เขายอมรับข้อตกลงนี้ไม่ใช่เพราะเขาแก่ ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากทำให้ลูกลำบากแต่เป็นเพราะเขาไม่ไว้ใจระบบ ระบบซึ่งควรจะสร้างมาเพื่อให้ความยุติธรรมแก่ทุกคน ไมเคิลยอมรับข้อตกลงอัลฟอร์ดโดยศาลสั่งลงโทษจำคุกอย่างน้อย 64 เดือนอย่างมาก 86 เดือนแต่เนื่องจากเขาได้รับโทษจากการติดคุกมาแล้ว 8 ปี หรือกว่า 98 เดือน ไมเคิล ปีเตอร์สันจึงได้รับอิสระในทันทีแลกกับการมีประวัติฆาตกรรมติดตัว ตลอดระยะเวลาของการต่อสู้ที่กินเวลายาวนานกว่า 15 ปี ไมเคิลผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นมาได้ด้วยความรักจากครอบครัวและความหวังที่จะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าด้วยกันอีกครั้ง มาถึงตรงนี้หลายคนคงข้องใจกับการตัดสินใจยอมรับข้อตกลงอัลฟอร์ดแทนที่จะขึ้นศาลอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แต่ถ้าเราเป็นคนที่ถูกระบบยุติธรรมเล่นงานเราจะสามารถเอาชีวิตที่เหลือของเราไปเสี่ยงกับระบบแบบนี้ไหม ทนายของไมเคิลได้ให้มุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจเขากล่าวว่า ต่อให้ชนะคดีในชั้นศาลแต่ท้ายที่สุดแล้วคณะลูกขุนไม่ได้พูดว่า “บริสุทธิ์” แต่คณะลูกขุนจะพูดว่า “ไม่มีความผิด” หรือ "เรามีเหตุอันควรสงสัย" งั้นการขึ้นศาลมีประโยชน์อะไร หลังจากที่ผู้เขียนได้ดูสารคดีนี้สิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจผู้เขียนนั่นคือคำพูดของไมเคิลที่พูดถึงเรื่องนี้ว่าทั้งสองฝ่ายต่างทำทุกอย่างเพื่อให้ฝ่ายตนชนะโดยไม่สนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร การตายของแคธลีนจึงยังเป็นปริศนาผู้เขียนไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าไมเคิลคือผู้บริสุทธิ์แต่ก็ไม่อาจเรียกเขาว่าฆาตกรได้เช่นกัน ดังนั้นการดูสารคดีเรื่องนี้จึงไม่ใช่การดูเพื่อหาความจริง เราดูไม่ใช่เพราะมีการถ่ายทอดออกมาได้สนุก หักมุม และน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ผู้เขียนจะบอกว่าเราควรดูเพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการของการสู้คดี เราควรดูเพื่อให้เห็นอีกแง่มุมของกฎหมาย และเราควรดูเพราะมีความอยุติธรรมเกิดขึ้นจริงโดยเพื่อนมนุษย์ที่ใช้ระบบยุติธรรมเป็นเครื่องมือระบบยุติธรรมก็ไม่ต่างจากขั้นบันไดเมื่อใดก็ตามที่ระบบผุพังเราก็จะพลัดตกลงมา สามารถรับชมสารคดี THE STAIRCASE คดีฆาตกรรมขั้นบันได ทั้ง 13 ตอนได้ทาง Netflix ผ่านลิ้ง : https://www.netflix.com/ หรือสามารถรับชม Netflix ผ่านกล่องTrue ID TV ได้แล้ววันนี้ตัวอย่างสารคดี THE STAIRCASE คดีฆาตกรรมขั้นบันได https://www.youtube.com/ขอบคุณรูปภาพจาก Netflix รูปประกอบที่ 1 /รูปประกอบที่ 2 /รูปประกอบที่ 3 /รูปประกอบที่ 4