เปิดประตูสู่ต่างดาวไปกับ Glitch ซีรีส์ไซไฟทริลเลอร์เรื่องใหม่ล่าสุดจาก Netflix ที่ได้สองนางเอกต่างขั้วอย่าง จอนยอบิน และ นานะ มาร่วมกันแท็กทีมพาไปไขปริศนาลึกลับแห่งจักรวาลอันกว้างไกล พิสูจน์ให้รู้ดำรู้แดงไปเลยว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ ยูเอฟโอหน้าตาเป็นแบบไหน เตรียมขนมขบเคี้ยวให้พร้อมแล้วไปพบกับความสนุกแบบน็อนสต็อปกันได้เลย เรื่องย่อGlitch เปิดฉากเล่าเรื่องผ่าน ฮงจีฮโย (รับบทโดย จอนยอบิน) หญิงสาวที่ใช้ชีวิตเฉกเช่นมนุษย์ชนชั้นกลางทั่วไป เธอทำงานในบริษัทออกแบบครบวงจรด้วยความสามารถที่โดดเด่น มีเงินทองจับจ่ายใช้สอยอย่างไม่ขัดสน ทั้งยังมีคนรักที่คบกันยาวนานกว่าสี่ปีและมีท่าทีว่าจะย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันในเร็ววัน แต่ถึงกระนั้นฮงจีฮโยกลับขาดความสุขเพราะมีบางอย่างคอยจู่โจมอยู่เป็นระยะ วันดีคืนดีเธอมองเห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ต่างดาวด้วยตาเปล่า ข้าวของเครื่องใช้ถูกคลื่นแม่เหล็กรบกวนจนพังเสียหาย ซ้ำร้ายแฟนหนุ่มของเธอยังหายตัวไปอย่างลึกลับฮงจีฮโยติดตามเบาะแสจนพบกับสัญลักษณ์ประหลาดจึงเชื่อว่าคนรักถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว เธอเริ่มค้นหาข้อมูลตามด้วยการขอความช่วยเหลือจากชมรมศึกษายูเอฟโอและสิ่งลึกลับในจักรวาล ณ ที่แห่งนั้นฮงจีฮโยได้พบผู้คนที่มีความสนใจเรื่องเดียวกันรวมทั้ง ฮอโบรา (รับบทโดย นานะ) หญิงสาวบุคลิกเก๋ไก๋ผู้เคยเป็นเพื่อนสนิทในอดีต ทั้งหมดจึงร่วมมือกันคลำทางไขปริศนาจนนำพาไปสู่การเผชิญหน้ากับองค์กรลึกลับอันน่าสะพรึงกลัว ขณะเดียวกันฮงจีฮโยยังได้ปะติดปะต่อความทรงจำในอดีต ก่อนจะพบว่าตัวเธอเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกมากกว่าที่ใครคาดคิด บทบาทนักแสดงจอนยอบิน รับบทเป็น ฮงจีฮโย หญิงสาววัยทำงานที่พยายามใช้ชีวิตอย่างคนปกติ เมื่อครั้งยังเด็กเธอหมกมุ่นอยู่กับการศึกษาเรื่องราวลึกลับนอกโลกจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด กระทั่งวันนี้เธอได้นำพาตัวเองเข้าสู่อันตรายอีกครั้งหลังจากเชื่อว่าแฟนหนุ่มของเธอถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปนานะ รับบทเป็น ฮอโบรา ยูทูปเบอร์สาวที่เปิดช่องทำรายการเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและยูเอฟโอ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จแต่เธอยังมุ่งมั่นค้นหาข้อเท็จจริงของสิ่งมีชีวิตนอกโลกต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง กระทั่งวันหนึ่งเพื่อนสนิทในอดีตได้มาขอความช่วยเหลือให้ตามหาคนรักที่หายตัวไปอย่างลึกลับ Glitch ซีรีส์แนวไซไฟทริลเลอร์ความยาว 10 ตอน หนึ่งในออริจินอลคอนเทนต์จาก Netflix คุมบังเหียนการผลิตโดย ผู้กำกับโรด็อก หญิงเก่งที่เคยผ่านงานแนวเดียวกันมาก่อนอย่าง SF8: Manxin (2020) จับมือทำงานร่วมกับ นักเขียนจินฮันแซ เจ้าของบทซีรีส์อาชญากรรมวัยรุ่น Extracurricular (2020) ที่เคยได้รับเสียงชื่นชมเรื่องความแปลกแหวกแนวมาแล้วอย่างล้นหลาม มาถึงเรื่องนี้จะยังรักษามาตรฐานไว้ได้หรือไม่ มีประเด็นไหนน่าสนใจ สนุกและน่าติดตามขนาดไหน ขออาสามารีวิวให้แบบจัดเต็ม เนื้อหาล้ำทันสมัย แต่ยังใส่ใจความเป็นเกาหลีGlitch ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมบันเทิงของเอเชียด้วยพล็อตแบบใหม่แบบสับ เจ๋งพอจะเชื้อเชิญคนดูให้ปูเสื่อเกาะติดหน้าจอโดยไม่ต้องพยายามมาก แง้มประตูเปิดเรื่องก็ทุบหัวอย่างแรงด้วยประเด็นที่เราคุ้นเคยกันดีเมื่อพูดถึงความลับของจักรวาลอย่าง การถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมแต่ผ่านการบ่มและขัดเกลาก่อนใช้วิธีการเล่าในมุมที่ทันสมัย กลายเป็นไซไฟที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์มากมาย ย่อยง่าย ซ้ำยังไม่ลืมเติมแต่งกลิ่นอายดราม่าครอบครัวสไตล์เกาหลี ที่สำคัญยังสร้างความประหลาดใจแบบที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะไปสุดได้ขนาดนี้ เมื่อซีรีส์พาเราเดินทางไปไกลกว่าการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวอันที่จริงเรื่องราวลี้ลับของจักรวาลล้วนเป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครหาข้อสรุปได้ การหยิบประเด็นเหล่านี้มาถ่ายทอดให้เป็นละครจึงนับเป็นงานหินมากอยู่แล้ว ทว่าซีรีส์ยังแตกกิ่งก้านสาขาไปสู่มิติอื่นเพื่อขายดราม่าได้อย่างเฉียบคม ตลอดทางเราได้พบกับองค์กรที่เติบโตขึ้นจากการกลืนกินศรัทธาของเหล่าสาวก กระทั่งเกิดลัทธิลึกลับที่มีอิทธิพลต่อชีวิตจิตใจ ใช้คำสอนทางศาสนาตีแผ่มโนธรรมและศีลธรรม อำนาจมืดที่มอมเมาผู้คนจนเลยเถิดไปสู่การฆาตกรรมและสังหารหมู่ รวมทั้งพาเราดำดิ่งสู่ก้นบึ้งในจิตใจของมนุษย์ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน คนรัก และสมาชิกในครอบครัว งานชิ้นนี้จึงเป็นไซไฟที่ตั้งใจมาขายความแปลกแบบเต็มสูบ แถมยังทำสำเร็จเสียด้วย ย่อยเรื่องหนักให้เบา เขย่าตัวคนดูให้ตื่นตลอดเวลาเมื่อ Glitch เลือกปั่นความรู้เชิงวิทยาศาสตร์กับปรัชญาชีวิตให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเนื้อหาสาระที่ออกมานั้นต้องหนักหน่วงพอสมควร หากแต่ซีรีส์เลือกใช้แนวทางคอมเมดี้มาเป็นตัวชูโรงในการดำเนินเรื่อง จึงถือเป็นกลยุทธ์อันชาญฉลาดที่สามารถตรึงให้เราเฝ้าหน้าจอไปอย่างสนุกตื่นเต้นจนถึงตอนจบ ตลอดเส้นทางไปสู่กุญแจไขปริศนาเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน ไหนจะเหตุการณ์ชวนปวดหัวที่ถาโถมเข้ามาไม่ว่างเว้น เสมือนเราได้เผชิญหน้ากับความวายป่วงไปกับบรรดาตัวละคร แม้บางฉากบางตอนจะดูไม่สมเหตุสมผลและติดตลกเกินไปบ้าง แต่หักลบกลบหนี้กับเส้นเรื่องหลักที่หนักหนาสาหัสแล้วก็ดูจะช่วยลดทอนความเคร่งเครียดได้พอสมควรนอกจากจะเล่าเรื่องนามธรรมให้เข้าใจง่ายแล้ว การใช้ประเด็นมนุษย์ต่างดาวเป็นตัวชูโรงเพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาและลัทธิ ยังเป็นการเดินหมากที่พาคนดูไปพบกับเซอร์ไพรส์แบบไม่เว้นวรรค แม้ช่วงสามตอนแรกจะเสียเวลาไปกับการปูเรื่องเล่าปูมหลังตัวละครนานไปสักหน่อย แต่เมื่อเครื่องร้อนแล้วจึงวิ่งฉิวแบบไม่มีสะดุด พีคแล้วพีคอีกชนิดไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เลย แถมยังปั่นหัวให้เราสับสนว่าอะไรจริงอะไรเท็จ เล่นกับความไว้เนื้อเชื่อใจจนถึงนาทีสุดท้าย ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของคนดูที่ต้องรับแรงกระแทกเหล่านี้ให้ไหว ส่วนซีรีส์จะนำเสนอเรื่องมนุษย์ต่างดาวออกมารูปแบบใด คงต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง มิติตัวละครไม่ค่อยมี แต่ยังดีที่นักแสดงเอาอยู่การดีไซน์ตัวละครของ Glitch น่าจะเป็นจุดสังเกตสำคัญ ด้วยความที่ภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่องมักตีตราคนที่คลั่งไคล้เรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวให้มีบุคลิกหลุดโลก ถูกมองว่าผิดปกติถึงขั้นแปลกแยกจากสังคม มาถึงเรื่องนี้ก็ยังคงใช้ภาพจำเก่า ๆ มาออกแบบบุคลิกตัวละครจนดูเหมือนขาดมิติไปสักหน่อย ใส่ความเกรี้ยวกราดกร้านโลกแบบไม่มีที่มาที่ไป พูดจาหยาบคายและสูบบุหรี่ตลอดทั้งเรื่องโดยไม่จำเป็น ไหนจะชาวแก๊งศึกษายูเอฟโอที่มา ๆ หาย ๆ หลายตัวละครได้บทที่ไม่ช่วยให้พวกเขามีความสำคัญกับเนื้อเรื่องมากเท่าไหร่ จะบอกว่าเอามาสร้างสีสันเฉย ๆ คงไม่ผิดนักแม้การออกแบบคาแรกเตอร์ของตัวละครจะดูไม่ค่อยลื่นไหลเท่าที่ควร ทว่าโชคดีที่ได้นักแสดงยอดฝีมือมาโอบอุ้มให้เรามองข้ามความน่าหงุดหงิดเล็กน้อยไปได้ จอนยอบิน และ นานะ ถือเป็นตัวเดินเรื่องที่ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย ชวนเราเพลิดเพลินไปกับการกระทำของพวกเขาโดยไร้ข้อกังขา เสริมทัพด้วยนักแสดงสมทบที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอีกหลายชีวิตไม่ว่าจะเป็น รยูคยองซู, อีดงฮวี, แบคจูฮี, คิมนัมฮี และ คิมมยองกอน ทุกคนใส่พลังแบบเต็มแมกซ์ ชื่อชั้นการันตีว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนภาพรวมของ Glitch จึงถือเป็นซีรีส์ที่สอบผ่านเรื่องความแปลกแหวกแนวของเนื้อเรื่อง แม้ไม่ใช่ละครวิทยาศาสตร์ฟอร์มยักษ์ชนิดสำรวจอวกาศแบบ The Silent Sea (2021) แต่มีสิ่งที่อยากเห็นอยู่ครบถ้วน แนวคิดเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวกลั่นกรองออกมาไม่หลุดไปจากจินตนาการของผู้คนส่วนใหญ่มากนัก ถือเป็นการนำเสนอภายใต้กรอบไซไฟที่เข้าถึงง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ต้องตีความมากมายให้ปวดหัว สอดแทรกมิติเกี่ยวกับลัทธิและความเชื่อเข้ามาอย่างกลมกล่อม ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบคอมเมดี้จึงไม่ทำให้มู้ดแอนด์โทนของเรื่องน่าเบื่อชวนหาว ทั้งยังได้สองนักแสดงสาวมาเป็นตัวชูโรงเพิ่มความตื่นเต้นน่าติดตามมากขึ้นไปอีก แม้จะไม่ใช่งานที่สนุกแบบตะโกนแต่ยังอยู่บนมาตรฐาน รับประกันว่าไม่เสียเวลาเปล่าแน่นอน ตัวอย่างซีรีส์(YouTube: Netflix Thailand)พิสูจน์ความลึกลับของมนุษย์ต่างดาวในซีรีส์ Glitch ออกอากาศทั้งหมด 10 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 50 นาที สามารถรับชมทั้งฉบับพากษ์ไทยและบรรยายไทยถูกลิขสิทธิ์ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ที่รองรับ รวมทั้งทางกล่อง TrueID TV ได้ด้วยเช่นกันรูปภาพประกอบบทความจาก - Official Twitter: Netflix Koreaภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10 | ภาพประกอบที่ 11บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิว A Model Family ครอบครัวตัวอย่าง (2022) ซีรีส์อาชญากรรมดราม่าของ จองอู พากษ์ไทย Netflix- รีวิว สามพี่น้อง Little Women 2022 ซีรีส์ดราม่าจาก คิมโกอึน x นัมจีฮยอน x พัคจีฮู วางปมลึกลับจนลืมต้นฉบับไปเลย- รีวิว The Silent Sea ทะเลสงัด ซีรีส์ไซไฟอวกาศจาก Netflix สำรวจความลับบนดวงจันทร์ไปกับกงยู x แบดูนาคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน