รีเซต

รีวิวหนัง "The Lost Bus" ระทึกตรึงใจฝ่าวงล้อมไฟป่า ของดีที่ทรงพลังได้ด้วยมืออาชีพล้วน ๆ

รีวิวหนัง "The Lost Bus" ระทึกตรึงใจฝ่าวงล้อมไฟป่า ของดีที่ทรงพลังได้ด้วยมืออาชีพล้วน ๆ
Jeaneration
3 ตุลาคม 2568 ( 12:00 )
259

แม้ว่าภาพโปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้อาจทำให้ชวนนึกว่าเป็นหนังแอคชันซิ่งไล่ล่าสุดระทึก แต่จริง ๆ นี่คือหนังดรามาหายนะที่หยิบเอาเหตุไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2018 ที่กลายเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ รุนแรงกว่าเหตุเมื่อช่วงต้นปี 2025 เหตุครั้งนี้ได้กลายออกมาเป็นหนัง "The Lost Bus" ที่เป็นการร้อยเรียงเรื่องราวเหตุในครั้งนั้น ผ่านมุมมองของคนขับรถโรงเรียนและนักเรียนที่ติดอยู่ท่ามกลางรัศมีของไฟป่าครั้งเลวร้าย

เควิน ชายหนุ่มที่กำลังพยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อการเป็นเสาหลักของครอบครัว เขาทำงานเป็นคนขับรถรับส่งนักเรียน ที่พยายามมองหาลู่ทางเติมเต็มรายได้ในอาชีพของเขา แต่โชคชะตาได้นำพาเขาไปติดอยู่ในบ่วงล้อมแห่งหายนะ เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเหตุไฟป่าครั้งร้ายแรงครั้งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ระหว่างที่กำลังนำพาเด็ก ๆ และคุณครู ทั้ง 22 ชีวิตกลับบ้าน ด้วยการฝ่าวงล้อมแห่งเปลวเพลิงพิโรธ ที่ไอความร้อนและทุกทิศทางถูกรายล้อมอย่างไร้จุดหมายทางออกดั่งเพลิงนรก

ผลงานหนังเรื่องนี้มีลายเส้นที่เด่นชัดมาแต่ไกลว่าเป็นฝีมือการสร้างของ "พอล กรีนกราสส์" ผู้กำกับชั้นครูที่มักจะหยิบเอาเหตุการณ์จริงมาสร้างเป็นคอนเทนท์หนัง ที่เน้นความสมจริงและมีกลิ่นอายความเป็นสารคดีนิดหน่อย การที่หนังเรื่องนี้ได้มาอยู่ในมือของเขา ก็ถือว่าเป็นงานสร้างที่เหมาะเจาะกับเขาเลยทีเดียว หนังได้หยิบเอาหนังสือเชิงสารคดี Paradise: One Town's Struggle to Survive an American Wildfire ของ ลิซซี จอห์นสัน มาใช้ในการเป็นสารตั้งต้นในการเขียนบท พอลได้ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้กับ "แบรด อิงเกิลสบีย์" จากซีรีส์ Mare Easttown

ก็นับว่านานพอสมควรแล้วที่เราไม่ได้เห็นหนังหายนะไฟป่าที่ชวนระทึกใจและตื่นตาตื่นใจสมจริงขนาดนี้ นับตั้งแต่ Only the Brave เมื่อปี 2017 ยิ่งหนังได้มาอยู่ในมือนักสร้างหนังที่เข้าถึงและใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยได้อย่างพิถีพิถัน จึงทำให้หนังไฟป่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยองค์ประกอบที่ดูครบเครื่องมาก แม้ว่าสตอรี่และบทหนังจะยังค่อนข้างขาดความกระชับไปสักเล็กน้อย เส้นเรื่องในหนังค่อนข้างยุ่งเหยิงไปหน่อย เพราะพยายามสร้างเส้นเรื่องหลัก-เส้นเรื่องรอง แต่ยังขาดมิติที่สร้างความหนักแน่นในเนื้อเรื่องได้อย่างสมดุล กลายเป็นเส้นที่ตีกันเองไปมาชอบกล

แต่ต้องยอมรับเลยว่า พอล กรีนกราสส์ ทำเรื่องอีกแล้ว กับการรังสรรค์งานสร้างสุดอลังการและตระการตาในฉากไฟป่าที่ยิ่งใหญ่ นี่แหละ..คือฝีมือของผู้กำกับที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ ต้องปรบมือให้ดัง ๆ กับการเนรมิตฉากไฟป่าที่สมจริงมาก ๆ เป็นฉากหายนะที่น่าจดจำเป็นอย่างดี แม้ว่าจะน่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้เป็นแค่เพียงหนังสตรีมมิงและไม่ได้มีโอกาสได้ฉายบนจอใหญ่เต็มตาสักเท่าไหร่ นี่คือองค์ประกอบที่ทำได้และทำถึงแบบสุด ๆ ที่จะปลุกเร้าอารมณ์ผู้ชมได้อย่างตราตรึง

ยิ่งได้ช่างภาพฝีมือดีเบอร์หนึ่งจากนอร์เวย์ อย่าง "พัล อัลวิค รูกเซ็ธ" จากหนังดัง ๆ อย่าง 22 July หรือ The Wave มาร่วมงานกับพอล ก็ได้มาซึ่งงานภาพที่เต็มไปด้วยกิมมิกและถ่ายทอดสะท้อนอารมณ์ได้อย่างทรงพลัง พร้อมกับเสริมด้วยงานประพันธ์เพลงประกอบจากคอมโพสเซอร์ชั้นครู "เจมส์ นิวตัน ฮาเวิร์ด" กลับมาร่วมงานในหนังของพอลอีกครั้ง ทำให้ช่วยเติมเต็มอินเนอร์ทางโสตประสาทการได้ยินได้อย่างตรงจุด

"แมทธิว แมคคอนนาเฮย์" ที่ช่วงระยะ 4-5 ปีมานี้ เราแทบไม่ได้เห็นเขาบนจอหนังบล็อกบัสเตอร์สักเท่าไหร่เลย นี่น่าจะเป็นการหวนกลับมาเล่นหนังเชิงพาณิชย์อีกครั้งของเขาในรอบหลายปี และเขาก็คือซุปตาร์ที่กล้องยังรักอยู่เสมอ โชคดีที่เขาคือนักแสดงมืออาชีพที่รับมือกับทุกบทบาทได้เป็นอย่างดี แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีบทที่ยุ่งเหยิงและไม่อภิรมย์มากนัก แต่การแสดงของเขาก็ช่วยประคับประคองและยืนหยัดที่จะเป็นแกนหลักในการนำเรื่องราวได้อย่างแข็งขันไปตลอดทั้งเรื่อง

และยังโชคดีต่อเนื่องที่ได้ "อเมริกา เฟอร์เรรา" มาช่วยเสริมด้านการแสดงและเติมเต็มความทรงพลังให้กับหนังได้ยิ่งขึ้น กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้ได้ 2 นักแสดงนำระดับที่คุ้นเคยกับเวทีออสการ์มาก่อน มาช่วยกันขับเคลื่อนตัวหนังไปข้างหน้าได้อย่างเปี่ยมล้น รับมือกับสถานการณ์เร่งเร้าที่อยู่ตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับว่าเป็นองค์ประกอบที่ช่วยทำให้หนังเรื่องนี้ลงร่องลงรอยด้วยดี หลังจากผ่านช่วง 45 นาทีแรกไปจนถึงปลายทาง

โดยภาพรวมแล้ว The Lost Bus อาจจะไม่ได้เป็นหนังที่มีสูตรที่แปลกใหม่ใด ๆ แต่ว่าหนังมีข้อความและสตอรี่ที่ทรงพลังในตัวเอง เมื่อมาอยู่ในมือของทีมผู้สร้างที่ทำได้ทำถึงก็ยิ่งช่วยยกระดับให้หนังไฟป่าธรรมดา ๆ เรื่องนี้ เต็มไปด้วยความสมจริงและความระทึกตราตรึงใจผู้ชมได้ในทุก ๆ นาที ถึงแม้ว่าชั้นเชิงของบทหนังจะไม่ได้ค่อยราบลื่นนัก แต่เพราะได้ 2 นักแสดงนำระดับคุณภาพมาช่วยพยุงเอาไว้ นั่นจึงทำให้หนังหายนะไฟป่าเรื่องนี้ ถูกเติมเต็มไปด้วยความกลมกล่อมทางการแสดงที่ดี และนำไปสู่ปลายทางที่คู่ควรและยังทรงพลัง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Lost Bus

  • ประเภท: ดรามา / ระทึกขวัญ
  • ผู้กำกับ: พอล กรีนกราสส์
  • นำแสดงโดย: แมทธิว แมคคอนนาเฮย์, อเมริกา ฟาร์เรรา, ยูล วาซเควส, แอชลี แอตคินสัน
  • ความยาว: 129 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 3 ตุลาคม 2025 (ที่ Apple TV+)

Movie.TrueID METRIC: The Lost Bus

  • ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.2/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.6/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.5/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.1/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.0/10)

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa