Short CommentHunt ล่าคนปลอมคน (2022)ดุเดือดระห่ำระทึกเร้าใจในหนังสายลับที่มีให้ทุกอย่างทั้งคุณภาพและความบันเทิงถ้าเอ่ยชื่อนักแสดงเกาหลีคนแรกๆที่ดูไปบ่นไปรู้จักชื่อของอีจองแจต้องเป็นหนึ่งในนั้น เพราะอีจองแจไม่ต่างจากนักแสดงที่มาบุกเบิกแผ้วถางที่ทางของหนังเกาหลีในบ้านเรากับ Il Mare ในปี 2000 แล้วหลังจากนั้นก็อย่างที่ทราบคือกองทัพหนังเกาหลีตามมาอีกเป็นขบวนที่อาจไม่ได้มาจากหนังเรื่องนี้โดยตรง แต่หนังเกาหลีก็เข้าถึงคนดูบ้านเราในวงกว้างขึ้นและแน่นอนนับจากวันนั้นจนวันนี้ผลผลิตจากอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีไม่เคยหายไปจากพื้นที่ในใจคนดูบ้านเราอีกเลย ส่วนอีจองแจนั้นคนดูรุ่นใหม่อาจรู้จักเขาในซีรีส์กระหึ่มโลกอย่าง Squid Game แต่ความจริงนั้นไซร้อีจองแจรับงานภาพยนตร์มากกว่าซีรีส์หรือละครทีวี แน่นอนถ้าได้ดูเขามานานพอเหมือนผู้เขียนอาจไม่ถึงกับดูทุกเรื่องแต่การผ่านเวลามานานเป็นยี่สิบปีสิ่งที่เห็นคือมาตรฐานการแสดงที่ยิ่งเวลาผ่านก็ยิ่งสูงขึ้น นั่นหมายความว่าเมื่อเขาได้อยู่ในงานคุณภาพมากมายได้ร่วมงานกับผู้กำกับฝีมือดีมากมายก็คือการสั่งสมประสบการณ์การทำงานจนมีหนังเรื่องแรกที่เขาลงมือกำกับเองออกมาแล้ว แถมยังเอาดีได้เสียด้วยเมื่อคุณภาพมาพร้อมกับความบันเทิงรายได้ของหนังก็เถิดเทิงตามไปหลังจากโศกนาฏกรรมที่ควังจูประธานาธิบดีเกาหลีไต้ก็ถูกต่อต้านอย่างหนักและเมื่อไปเยือนสหรัฐอเมริกาก็เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารขึ้นแต่ไม่สำเร็จ กระนั้นกำหนดการของประธานาธิบดีคือความลับที่รู้กันไม่กี่คนหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับต่างประเทศพัคพยองโฮ (อีจองแจ) และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองในประเทศคิมจองโด (จองอูซอง) จึงถูกเรียกตัวให้มาสืบหาสายลับเกาหลีเหนือที่แฝงตัวอยู่ในระดับสูงของหน่วยงานเกาหลีไต้ แน่นอนเมื่อในประเทศยังมีกลุ่มนักศึกษาที่ต่อต้านการปกครองของประธานาธิบดีอยู่การสืบหาสายลับจึงถูกโยงเข้ากับขบวนการนักศึกษา แต่เมื่อเรื่องไม่คืบหน้าเบื้องบนจึงสั่งให้หน่วยสืบราชการลับของพัคพยองโฮและหน่วยข่าวกรองของคิมจองโดสืบสวนกันเองเพื่อหาตัวสายลับที่เรียกตัวเองว่าทงลิมมาให้ได้ แต่เรื่องก็ชักจะไปกันใหญ่เมื่อพัคพยองโฮและคิมจองโดเป็นเหมือนน้ำกับน้ำมันที่ไม่มีวันเข้ากันได้และการตอบโต้กันไปมาเมื่อได้ข้อมูลอะไรมาก็สร้างความร้าวฉานหนักเข้าไปอีก จนเมื่อทั้งสองคนพบความจริงบางอย่างของกันและกันทุกอย่างจึงมาบรรจบกันในการเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีผลงานการกำกับภาพยนตร์และแสดงนำเองของอีจองแจ ผ่านบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนร่วมกับโจซองฮีเห็นชัดว่านี่คือบทที่ถูกรังสรรจากงานแนวสายลับที่ถูกต้องแล้วมาปรุงแต่งด้วยความดุเดือดระห่ำทำให้ออกมาทั้งกดดันและบันเทิง สิ่งที่เห็นตลอดทางจากการดูหนังเรื่องนี้คือการไม่พยายามออกนอกทางทั้งการเดินเรื่องและตัวละครเดาว่ามาจากการเป็นงานกำกับเรื่องแรก ทำให้มองเห็นว่ามีอะไรเหมือนกับเคยเห็นที่ไหนสักที่ตลอดทางแต่ด้วยความที่เป็นงานชิ้นแรกเลยยังไม่เห็นลายเซ็นชัดในฐานะผู้กำกับของอีจองแจ กระนั้นสิ่งที่น่าทึ่งคือแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ไม่เห็นเช่นกันว่าหยิบเอาลายเซ็นของผู้กำกับคนไหนมาใส่ไว้ในงานของตัวเองหรืออาจเรียกได้ว่าดูเหมือนแต่ไม่เหมือนดูเป็นเอกลักษณ์ก็ไม่ชัดแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเมื่อบทหนังออกมามีต้นสายปลายเหตุมีจุดเชื่อมโยงมีจุดสงสัยมีที่มาที่ไปทำให้เมื่อถึงเวลาที่ความระห่ำดุเดือดมาถึงก็คือมีเหตุให้ระห่ำใช่ว่าอยู่ดีๆก็อัดเข้ามาแบบลอยๆ ความดุเดือดเลือดพล่านที่ได้รับจึงมาพร้อมอารมณ์ที่ใช่ไปแล้วเพราะแม้จะดูเป็นงานแอ็กชั่นเอามันส์แต่ก็ยังมีความเป็นหนังสายลับชั้นดีตามแนวได้ เหมือนซับซ้อนแต่ดูง่ายเพราะปล่อยของออกมาในจังหวะที่ถูกที่ควร โดยปกติแล้วหนังสายลับหรือหนังแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมแบบนี้มักจะมาพร้อมอารมณ์มากกว่าความอึกทึกและเรื่องนี้ก็ยังเป็น เพียงแต่สิ่งที่เป็นคือการใช้อารมณ์มาพาคนดูไปสู่จุดระทึกเร้าใจด้วยชั้นเชิงปกติธรรมดาจากการซ่อนเหลี่ยมซ้อนกลพลิกกันไปมาไม่มีใครยอมใครและทันกัน แถมด้วยความรู้สึกระแวงไปทั่วว่าใครเป็นใครไม่รู้ใครดีใครร้ายเดินหน้าด้วยความสงสัยและเหมือนมีอะไรสะกิดใจอยู่ตลอดเวลาจนไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ซึ่งนำความอึดอัดกดดันมาให้เพราะขยันพาสมองและความคิดคนดูออกทัวร์เพราะคนดูจะคิดตามด้วยความสงสัยว่าใครคือสายลับเกาหลีเหนือ ทุกอย่างที่เป็นจึงมาพร้อมความละเมียดในการเล่าเรื่องเหมือนเรื่องแต่งแต่ก็คล้ายจะเป็นเรื่องจริงทำให้อะไรก็ตามที่เป็นความคุ้นเคยกลายเป็นส่งเสริมความรู้สึกเพราะจังหวะได้หนังจึงมาพร้อมกับความมันส์ถึงใจที่ตั้งบนความซับซ้อน เพราะเหตุการณ์ที่เล่าไปข้างหน้าพาคนดูไปสูจุดที่ความระห่ำด้วยฉากแอ็กชันที่มันส์สะใจทั้งการสาดกระสุนการขับรถไล่ล่าและฉากไคลแมกซ์ที่ดุเดือดเต็มอิ่มคล้ายกับร้ายแต่ไม่ร้ายคล้ายกับผิดแต่ไม่ผิดเพราะรายละเอียดของเรื่องอุดมการณ์ สิ่งที่ทำให้หนังแนวนี้ที่ถ้าเอาดีได้ไปให้ถึงจุดที่คนดูต้องการหนังต้องระดมความน่าสงสัยมาให้คนดูคิดตามแล้วใส่ความพลิกผันในระดับเหนือธรรมดาที่อาจเป็นเรื่องธรรมดาแต่ว่าซ่อนไว้อย่างเนียนๆ เช่นเรื่องนี้ที่เป็นคือหนังเปิดหน้าไปสู่การผลักคนดูเข้าสู่ทางแยกว่าจะเอาใจช่วยใครพร้อมทั้งคาดเดาว่าใครคือตัวร้ายใครคือสายลับที่ซ่อนตัวตน กระนั้นแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ผลักไปสุดทางเมื่อยังมีอะไรบางอย่างมีกระตุกมโนสำนึกว่าน่าจะใช่และไม่น่าจะใช่จนคล้ายกับจะออกหน้าไหนก็ได้ จนเมื่อถึงเวลาอันควรก็เปิดหน้าท้าดวลกันไปว่าใครเป็นใครแต่ก็ยังไม่ชัดเพราะเนื้อในที่เป็นรายละเอียดที่มีน้ำหนักในเรื่องของหัวใจและอุดมการณ์ทำให้ในความพลิกผันมีพลิกซ้อนพลิกกันจนฝุ่นตลบ จนในที่สุดเมื่อถึงบทสรุปที่ถ้าไม่ถูกปูมาอย่างดีอารมณ์ประมาณนี้จะออกทางประนีประนอมมวยล้มต้มคนดูแต่เรื่องนี้เมื่อออกหน้านี้ที่ได้เห็นคือความเข้าใจในสิ่งที่เป็นที่เสริมความหนักแน่นด้วยการเล่าเรื่องเหตุการณ์ในอดีตทว่าสุดท้ายก็ยังไม่วายพลิกอยู่ดีการประชันกันของสองนักแสดงนำที่น่าจดจำ ถ้าว่ากันที่นักแสดงนำทั้งสองคนเครดิตทางการแสดงภาพยนตร์ยาวเป็นหางว่าวเหมือนกันและรับงานซีรีส์น้อยเหมือนกัน ทำให้ถ้าไม่ใช่ว่าอีจองแจเป็นที่รู้จักมากกว่าทั้งสองคนคือยอดฝีมือศีลเสมอกันดูจากฉากที่ต้องเผชิญหน้ากันตัวต่อตัวในการปะทะกันทางบทสนทนาไม่ว่าบริบทแห่งการสนทนานั้นจะเป็นอะไรสองนักแสดงนำจะไม่มีใครด้อยกว่าใคร นั่นคือการสร้างความเร้าใจในฉากพูดกันด้วยการเชือดเฉือนกันทางสีหน้าแววตาที่เหมือนจะซ่อนอะไรบางอย่างและถือมีดคนละเล่มไว้ เรื่องนี้จึงมีการแสดงที่น่าจดจำของทั้งอีจองแจและจองอูซองที่ความจริงผู้เขียนก็ดูหนังของเขามาพอสมควรและเท่าที่ได้ดูก็เป็นงานในระดับงานดีจนถึงงานชั้นเยี่ยม หนังยังได้นักแสดงสมทบที่คุ้นหน้าอย่างจอนฮเยจินและฮอซองแทที่ช่วงนี้เห็นหน้าบ่อยๆ แถมด้วยนักแสดงที่กำลังมาแรงในบทนักซูจาก Alchemy of Souls โกยูนจองที่แสดงได้เด็ดขาดและเป็นชิ้นส่วนที่มาเสริมความอึดอัดกดดันให้กับหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญจับตามองนักแสดงรับเชิญให้ดีเพราะได้นักแสดงมีระดับมาแจมด้วยมากมายนี่คืองานที่ถึงพร้อมทั้งคุณภาพและความบันเทิงดูสนุกไม่ลุกไปไหนเป็นความบันเทิงที่ไม่กลวง เพราะอย่างที่บอกคือหนังมีความบันเทิงในความเป็นแอ็กชั่นฟอร์มใหญ่จริงคือสามารถเอาความเป็นแอ็กชั่นทริลเลอร์ลุ้นระทึกมาขายก็ได้ แต่สิ่งที่ทำให้ฉากแอ็กชั่นสนุกขึ้นมาได้นอกจากความสมจริงทั้งภาพและเสียงแล้วจังหวะที่ปล่อยของต้องได้และต้องไม่มัวตั้งท่าแต่จะมาใส่ความมันส์ เพราะมิฉะนั้นจะกลายเป็นหนังแอ็กชั่นดาดๆที่ดูเอามันส์จบแล้วจบกันซึ่งไม่ใช่เรื่องนี้ที่ทุกอย่างมีที่มานั่นคือเมื่อจะพาคนดูไปสู่ความมันส์ก็คือให้บทปลุกเร้าอารมณ์คนดูไปให้ถึงขนาดก่อน แล้วเมื่อทุกอย่างมีเหตุผลของมันคนดูจึงไม่ต่างจากเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆทำให้หนังออกมาเป็นความบันเทิงที่มีเนื้อใน ซึ่งถ้านับว่านี่คืองานการกำกับและเขียนบท (ร่วม) เรื่องแรกของอีจองแจนับว่าสอบผ่านด้วยคะแนนสูงจนทำให้หนังทำเงินถล่มทลายในบ้านเกิดแม้ว่าถ้าเอากันอย่างละเอียดหนังยังเป็นคามสัตย์ซื่อในแนวทางเพียงแต่ได้คนกุมบังเหียนที่รู้ดีว่าจะทำอะไรกับเรื่องที่คุ้นเคยแบบนี้ แล้วเมื่อดูจบคนดูจะรู้สึกว่าหนังสนุกที่เป็นหนังดีๆแบบนี้ไม่ควรดูแค่รอบเดียวดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก 1 , ภาพปก 2 / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5 / ภาพที่ 6,7 /ภาพที่ 8 จาก Instagram plusm_entertainment ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้รีวิวจัดเต็ม Escape From Mogadishu : หนีตาย โมกาดีชู (2021) ตัวแทนเกาหลีในเวทีออสการ์ปีล่าสุด ที่ความมันส์สุดระทึกมาพร้อมคุณภาพคับจอรีวิวจัดเต็ม RAGING FIRE : โคตรเดือดฉะเดือด (2021) เข้มข้น มันส์ ดุเดือด สะใจ จนริ้วรอยที่มีทำอะไรไม่ได้เลยรีวิวจัดเต็ม Deliver Us From Evil : ให้มันจบที่นรก (2020) "ง่าย ซ้ำ แสบ แต่มันส์จนลืมเวลา"ความเห็นหลังชม Yaksha: Ruthless Operations ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์ (2022) "หนังที่ความมันส์เอา(คนดู)อยู่ และไม่ได้มาเพื่อฆ่าเวลา"คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน