Movie Review Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำ (2024) แอ็กชันคอมมิดี้ที่ดูสนุกดูเอามันส์เน้นสะใจที่ลืมบางอย่างไปแต่ไม่ใช่อุปสรรคกับความบันเทิงง่ายๆดูสบายไม่ต้องคิดมาก ถ้าว่ากันที่หนังที่ตีตรา NETFLIX Original ทางเกาหลีดูจะออกมาถี่เหลือเกินในช่วงหลังอ้นนี้นับกันที่งานที่มีนักแสดงดังๆมาเป็นตัวเรียกแขก อย่างเมื่อเดือนกรกฎาคมก็มีหนังอย่าง Wonderland ที่จุดขายอยู่ที่การรวมเอานักแสดงระดับพัคโบกอม,แบซูจี,ถังเหว่ยและกงยูมาสร้างความน่าสนใจ แล้วมาเดือนที่แล้วคือสิงหาคมก็มีหนัง Mission: Cross ที่มีระดับแนวหน้าในสายงานภาพยนตร์บ้านเขาอย่างฮวังจองมินมาประกบกับยอมจองอาที่มาพร้อมฟอร์มหนังระดับฉายโรงได้ แล้วก็มาเดือนนี้ที่ความจริงมีการโปรโมทมานานพอดูกับหนังเรื่องใหม่ของทางค่ายนี้จากเกาหลีที่จุดขายอยู่ที่คิมอูบินในงานแอ็กชันคอมมิดี้สืบสวน ถ้ายังไม่น่าจะคอมมิดี้พอก็ยังแถมนักแสดงที่เห็นหน้าก็ชวนฮาแล้วอย่างคิมซังคยุนมาผสมโรงทำให้ถ้าว่ากันที่หน้าหนังและนักแสดงก็น่าดูไม่น้อยสำหรับผู้ที่ชอบคอนเทนต์เกาหลี จนวันนี้มาถึงซึ่งด้วยความที่ชอบดูงานเกาหลีก็คงต้องพิสูจน์แหละเป็นอะไรอื่นไม่ได้ส่วนดูแล้วจะรู้สึกยังไงไปว่ากันตามนี้ เจ้าหน้าที่สายดำคือชื่อเรียกเจ้าหน้าที่เป็นพลเรือนสังกัดกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่คุมประพฤติคนที่พ้นโทษออกมาแล้วต้องใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า วันหนึ่งอีจองโด (คิมอูบิน) ชายหนุ่มที่เหมือนมีชีวิตไม่ค่อยมีแก่นสารทำงานเล่นเกมไปวันๆแต่เก่งกีฬาการต่อสู้ทุกรูปแบบได้ช่วยเจ้าหน้าที่สายดำจับกุมคนร้าย ฟอร์มของอีจองโดจึงไปเข้าตาหัวหน้าหน่วยคิมซอนมิน (คิมซังคยุน) ผู้ใจดีชวนมาเข้าทีม แล้วเมื่อมีนักโทษคดีอุกฉกรรจ์พ้นโทษออกมาให้เป็นปัญหาของเหล่าเจ้าหน้าที่สายดำจึงต้องจับตามองเป็นพิเศษ แต่เจ้าพวกคนชั่วที่เวลาในคุกไม่ช่วยให้กลับตัวก็วางแผนตลบหลังพวกเจ้าหน้าที่สายดำที่เป็นคู่กรณีโดยตรงทำให้เกิดการสูญเสีย แล้วอีจองโดและคิมซอนมินยังบาดเจ็บแต่การที่ได้ช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้กลายเป็นยาชูใจ จนเมื่อรักษาร่างกายหายอีจองโดจึงตั้งใจจะตามล้างตามเช็ดพวกเดนมนุษย์เพื่อจับพวกมันเข้าซังเตอีกครั้งให้ถูกขังลืมกันไปแต่เมื่อเป็นเจ้าหน้าที่พลเรือนอาวุธที่ใช้จึงมีแค่หมัดเท้าเข่าศอกเท่านั้น ง่ายๆจนกลายเป็นเบาบางไม่มีความลึกไม่มีพื้นฐานตัวละครเหมือนตอนหนึ่งของซีรีส์ที่เดินหน้ามาเพื่อบันเทิงเต็มๆ ถ้าว่ากันที่บทภาพยนตร์ยอมรับว่านี่คือหนังเกาหลีที่ผู้เขียนผิดหวังกับตัวบทที่มีไม่บ่อย ก็ใช่ที่หนังตั้งใจมาเป็นความง่ายไม่ต้องซับซ้อนแม้จะมีสืบสวนอยู่บ้างแต่ทุกอย่างก็ง่ายๆคือเมื่อดูไปก็รู้แล้วว่าอะไรจะเป็นอะไร ทั้งยังไม่มีจุดพลิกผันใดๆคือเดินไปตามครรลองของหนังแอ็กชันคอมมิดี้ที่เอาจริงลืมคอมมิดี้ไว้ที่บ้านด้วยมั้งเพราะมาอย่างกระเบียดกระเสียรทั้งที่ศักยภาพนักแสดงเต็มเหนี่ยวไปเลยพี่ เพราะความที่บทไม่มีพื้นฐานตัวละครที่จับต้องได้เหมือนไม่ใส่ใจเรื่องแรงจูงใจทำให้มีอะไรให้สะกิดใจมากมายในการเดินหน้าไปตลอดทางอย่าไปนับถึงความไม่สมเหตุสมผลทางการตัดสินใจ ซึ่งจะว่าไปคล้ายกับเป็นตอนหนึ่งของซีรีส์ที่ตัดเอามามากกว่าเพราะไม่มีที่มาเวลาจะไปหาที่ไปเลยกลายเป็นปัญหา แต่อย่างน้อยเรื่องยังมีทิศทางมีความตั้งใจที่จะเล่ามีเค้าโครงไม่แตกกระจายและเห็นชัดว่าตั้งใจมาขายอะไร รู้ตัวเองดีว่าจะขายอะไรแล้วก็เน้นความสะใจผ่านการต่อยตีที่มีดีที่ได้ลุ้นได้สนุกมันส์แบบง่ายๆไม่ต้องคิดอะไรมาก แม้บทจะเบาบางเหมือนเป็นหนึ่งตอนของซีรีส์แต่หนังยังมีดีที่รู้ตัวเองดีว่าจะมาเพื่อขายอะไร นั่นคือฉากแอ็กชันต่อยตีที่จะว่าจงใจขายศิลปะการต่อสู้ประจำชาติอย่างเทคควันโดก็อาจเป็นได้แล้วยังมาด้วยความหนักแรงต่อยเตะกันมันส์ถึงใจ ทั้งยังใช้ชั้นเชิงของตายคือดีสุดขั้วชั่วสุดขีดที่คนดีต้องโดนคนชั่วกระทำจนต้องหาทางเอาคืนเพื่อผดุงความยุติธรรม และมันทำให้เมื่อถึงเวลาความสะใจสมใจก็มาเต็มลุ้นกันแทบกระอักเลือดเพราะพระเอกไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่มีพลังวิเศษแม้จะมีฟีลวอนนาบีฮีโร่นิดหน่อย แล้วเมื่อของที่มาขายมีดีพอตัวมาในเวลาที่เหมาะสมเพราะเวลาฉายไม่นานหนังก็เลยกระชับคนดูก็ไม่ต้องรอความมันส์นานๆให้ทรมานหัวใจ แถมยังมากับความง่ายแบบไม่ตั้งใจให้คิดอะไรซับซ้อนหนังจึงกลายเป็นความบันเทิงที่ตั้งใจมาขาย แล้วคนดูก็ซื้อเพราะหนังดูสนุกแม้ว่าความบันเทิงนั้นจะสำเร็จรูปปานมาม่าก็ตาม เมื่อได้บทที่เบาบางไม่มีมิติในหนังที่ตั้งใจมาง่ายๆก็กลายเป็นขนมหวานสำหรับนักแสดงระดับนี้ เมื่อบทหนังไม่ได้มีอะไรเป็นรากฐานของตัวละครเลยคือคนดูไม่รู้เลยว่าพระเอกของเราเป็นคนยังไงพื้นฐานทางครอบครัวจิตใจเป็นแบบไหน นั่นคือตัวละครไม่มีมิติอะไรให้จับต้องได้แถมบทหนังยังไม่มีส่งเสริมทางอารมณ์ใดๆเลยคือเห็นว่ามีดราม่าแต่ก็มาเพื่อแค่ให้มี โชคดีที่นี่คือคิมอูบินที่ด้วยชื่อชั้นและความสามารถที่พิสูจน์ตัวเองมากมายและมีพลังดารามาช่วยเกื้อหนุน ทำให้ในความบางเบาของหนังมีความดีที่ได้ใจคนดูอยู่บ้างเพราะขนาดตัวละครแบนราบแต่คนดูเอาใจช่วยตัวละครอีจองโดของคิมอูบินอยู่เต็มที่ แต่ที่น่าเสียดายคือการลืมไปว่านี่คือหนังแอ็กชันคอมมิดี้ที่จะมาในโทนเบาแต่ดันลืมเอามุขตลกมา ทำให้เสียดายศักยภาพของคิมซังคยุนที่เขาสามารถเล่นบทตลกได้สบายและสนุกแต่เรื่องนี้เมื่อความตลกมาน้อยเลยใช้ประโยชน์จากเขาไม่เต็มที่ แต่เท่าที่เห็นบทแบบนี้ก็คือขนมหวานอยู่แล้วสำหรับคิมอูบินและคิมซังคยุน อาจเต็มไปด้วยริ้วรอยมากมายแต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคกับความบันเทิงเพราะเมื่อตั้งใจมาเอามันส์ก็ได้ตามนั้นเลย แน่นอนถ้าว่ากันที่คุณภาพหนังเรื่องนี้ยังไม่เข้าใกล้คำว่าหนังดีเพราะแม้บทหนังจะมีเป้าประสงค์มีทิศทางที่ชัด แต่ก็เหมือนขาดๆเกินๆอาจเพราะตั้งใจมาง่ายๆไม่ให้ใครระทมกบาลเหมือนเป็นงานระดับซีรีส์ด้วยซ้ำ แม้ในเวลาฉายประมาณชั่วโมงครึ่งไม่นับเอนด์เครดิตแต่เวลาแค่นี้ยังเห็นชัดเลยว่าหนังเต็มไปด้วยริ้วรอยที่แม้จะตั้งใจมาไม่ให้ใครระทมกบาลแต่ถ้าดูแล้วคิดมากกบาลก็ระทมเช่นกัน กระนั้นในส่วนของผู้เขียนได้ทำใจไว้ล่วงหน้าเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีไปเรียบร้อยเมื่อดูไปสักพักหนึ่งก็ปล่อยจอยปล่อยใจให้สิ่งที่หนังตั้งใจมามอบให้คนดูทำงาน แล้วเมื่อเวลาฉายไม่มากแต่หนังเน้นความมันส์สะใจใส่เต็มที่ริ้วรอยที่มีทั้งหลายก็ไม่ใช่อุปสรรคกับความบันเทิงที่พึงควรได้รับเพราะหนังยังเป็นหนังที่ดูสนุก ซึ่งในความสนุกนั้นคือการที่หนังตั้งใจชัดที่จะมานำเสนอตรงนี้คือดูเอามันส์แล้วเมื่อมันส์ได้ใจแล้วสะใจอะไรก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก จาก Instagram netflixsg ภาพที่ 1 จาก Instagram netflixth ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 จาก Instagram netflixkr ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องนี้ https://entertainment.trueid.net/detail/zjGEPzRAJq2p จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !