รีวิวหนัง Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล แรงฟาสต์ยังไม่ถึง แต่ใส่เกียร์-เข้าโค้งได้ละมุนใจ
ถึงคิวของหนังแอคชั่นฟอร์มใหญ่แห่งปีอีกเรื่องของเกาหลีในปีนี้ ที่ถือว่าแค่ฟอร์มทีมแคสติ้งนักแสดงออกมานั้น ก็ดึงดูดความสนใจได้อยู่ไม่น้อย เพราะนี่คือ "Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล" ที่ถือว่าเป็นการผสมผสานหนังอาชญากรรมแนวถนัดของเกาหลี ผนวกเข้ากับการประลองความเร็วสไตล์หนังตระกูลฟาสต์ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น..จะออกมาเป็นหนังฟาสต์ฉบับโคเรียนได้หรือเปล่า?
Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้คนในกรุงโซลต่างทวีความตื่นเต้นในช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนจะถึงพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1988 นักซิ่งจากทีมซางกเยดงซูพรีมได้รับข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธ และต้องเข้าไปพัวพันกับการสืบสวนคดีเงินสินบนของบุคคลสำคัญ โดยมีสมาชิกประกอบด้วย ดงอุค นักดริฟต์มือหนึ่ง, ดีเจจอห์น, บ๊กนัม ผู้นำทาง, ยุนฮี เจ้าแห่งการปลอมตัวบนมอเตอร์ไซค์ และ จุนกี แมคไกเวอร์แห่งซางกเยดง ปฏิบัติการของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ถึงแม้ว่า Seoul Vibe จะเป็นหนังที่สร้างมาเพียงลงจอสตรีมมิ่ง แต่ต้องยอมรับเลยว่างานสร้างไม่ใช่เล่น ๆ เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าหนังได้ทุนสร้างจำนวนไม่น้อยเลย โดยหนังได้ "มุนฮยอนซอง" ผู้กำกับหนุ่มที่เคยแจ้งมาจากหนังดัง As One เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้โดดเด่นสักที การได้ก้าวขึ้นมาหยิบจับทำหนังสเกลที่ใหญ่ ๆ ขนาดนี้ ก็ถือว่าทำได้น่าพอใจตามมาตรฐาน ที่น่าเสียดายหน่อย ๆ ตรงที่หลายองค์ประกอบยังดูธรรมดาและไม่ได้โดดเด่นสักเท่าไหร่
คอนเซ็ปต์ของ Seoul Vibe ถือว่าได้ว่าค่อนข้างน่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะการใช้ฉากหลังในช่วงยุคปี 1988 ของเกาหลีใต้ ที่ถือว่าเป็นยุคที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงในสังคมเกาหลีอีกปีนึงเลยทีเดียว ทั้งได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และอัตราการคอร์รัปชันในยุคนั้นค่อนข้างสูงไม่เบา เพียงแต่ว่าเมื่อหนังนำมาปรุงแต่งเป็นบทหนังออกมาแล้วนั้น ยังดูขาด ๆ เกิน ๆ และให้รสชาติที่ยังอร่อยไม่สุดทางสักเท่าไหร่
เส้นเรื่องของ Seoul Vibe เหมือนจะดูซับซ้อนและมีมิติเงื่อนงำ แต่กลับถ่ายทอดออกมาได้ยังไม่ค่อยกลมกล่อมสักเท่าไหร่ หนังยังขาดเสน่ห์บางอย่างไปอย่างน่าเสียดาย พาร์ทการแข่งรถแข่งซิ่งต่าง ๆ ก็ทำออกมาให้รู้สึกเพียงเฉย ๆ ไม่ได้ตื่นตาหรือรู้สึกว้าวอะไรแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะว่าหนังแนวนี้เราได้เห็นกันมาหลายเรื่อง แค่หนังตระกูลฟาสต์ก็ดูกันไป 9 ภาคแล้ว มันจึงเป็นโจทย์ที่ยากที่จะสร้างความแตกต่างได้
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้มีจุดโดดเด่นสุด ๆ ก็ตรงที่แคสตติ้งนักแสดงชุดใหญ่ บอกได้เลยว่ามีดารารับเชิญโผล่มาร่วมแจมเพียบ ขณะที่ทีมนักแสดงแต่ละคนก็ถือว่าเล่นได้ตามมาตรฐาน "ยูอาอิน" นำทีมมาในเรื่องนี้ ถึงเขาจะถูกวางตัวให้มาเป็นนางแบกของหนังเรื่องนี้ แต่บทบาทในหนังก็ไม่ได้ทำเขาโดดเด่นกว่าใครอื่นเกินไป แต่ก็ยังไม่ได้กลืนไปกับท้องเรื่อง การแสดงของเขาก็ยังให้มาตรฐานระดับมืออาชีพที่แสดงให้เห็นว่าต้องทำยังไง
ขณะที่คนอื่น ๆ อย่าง "โกคยองพโย", "อีกยูฮยอง", "พัคจูฮยอน" และ "องซองอู" ก็ถือว่าเข้าขากับทีมนักแสดงด้วยกันได้ดี แต่ละคาแรกเตอร์ที่เอกลักษณ์เฉพาะตัวและมาสร้างสีสันให้กับหนังเรื่องนี้ได้อีกระดับ ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะไม่ได้สร้างความโดดเด่นเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สร้างความดีงามให้กับหนังเรื่องนี้แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีนักแสดงสมทบคนอื่นที่ถือว่าเป็นตัวจี๊ดไม่เบา ไม่ว่าจะเป็น "คิมซองกยอน", "จองอุงอิน", "โอจองเซ" หรือ "มุนโซริ" ที่ถือว่าเป็นดาราตัวท็อปรุ่นใหญ่ที่มาเสริมทัพความเข้มแข็งในกับเรื่องนี้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน
แต่กระนั้น Seoul Vibe ก็ยังมีอีกสิ่งที่โดดเด่นเหมือนกัน นั่นก็คือการเก็บรายละเอียดแวดล้อมต่าง ๆ ของหนัง ที่ถือว่ายังเป็นสิ่งที่ทีมผู้สร้างจากเกาหลียังคงทำได้ดีเช่นเคย แม้ว่าซีจีบางจุดอาจจะยังไม่เนียนมาก แต่การใส่ใจเรื่องโลเคชั่นและสถานที่ถ่ายทำต่าง ๆ ถือว่าทำการบ้านดี ใส่เข้ามาแม้กระทั่งต้นกำเนิดสูตรชงน้ำเมาเกาหลีในตำนาน อีกทั้งสามารถไว้วางใจเรื่องคอสตูมและเมคอัปของนักแสดง ที่ถือว่าใส่ใจได้อย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะการแต่งหน้าของตัวละคร ที่เห็นชัด ๆ ว่างานละเอียดจากแฟชั่นปลายยุคปี 80s
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าช่วงฉากเปิดกับฉากปิดของ Seoul Vibe ถือว่าทำได้น่าประทับใจและน่าสนใจไม่น้อย และเป็นจุดที่โอเคที่สุดของหนัง ในขณะที่ช่วงระหว่างทางของหนังนั้นค่อนข้างจืดชืดไปสักหน่อย กับเนื้อหาที่ดูได้เพลิน ๆ ยังให้อารมณ์แบบทีเล่นทีจริงไปสักหน่อย นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สนุก แต่ยังค่อนข้างขาดเสน่ห์ที่ควรจะมีอยู่ไปสักหน่อย
โดยสรุปแล้วนั้น Seoul Vibe เป็นหนังขาซิ่งร่อนกรุงโซลจากเกาหลีใต้ ที่อาจจะยังไม่ได้ซิ่งฉลุยขนาดนั้น บทหนังยังค่อนข้างอ่อน การเล่าเรื่องยังขาดเสน่ห์ในแบบที่หนังเกาหลีน่าจะทำได้ยิ่งกว่านี้ แต่กระนั้นทีมแคสติ้งนักแสดงของเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นแม่เหล็กและไฮไลต์ของเรื่องนี้ ที่ช่วยทำให้ภาพรวมของหนังสามารถประคับประคองไปตลอดทางได้อยู่ ฉากซิ่งและเชือดเฉือนต่าง ๆ ยังไม่ค่อยคม แต่ก็ยังพอเพลินดีได้ในระดับหนึ่ง
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล
- ประเภท: แอคชั่น / ตลก
- ผู้กำกับ: มุนฮยอนซอง
- นำแสดงโดย: ยูอาอิน, โกคยองพโย, อีกยูฮยอง, พัคจูฮยอน
- ความยาว: 138 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 26 สิงหาคม 2022 (ที่ Netflix)
Movie.TrueID METRIC: Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
คุณสามารถรับชม Netflix ได้ง่าย ๆ จากกล่อง TrueID TV ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ครบ!
-------------------------------------
ดูหนังออนไลน์ได้ที่ >> Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย https://bit.ly/3xEgdAa